'กำแพงร้องไห้' ภาคภาษาจีน? คนจีนแห่ใช้เพจสถานทูตสหรัฐระบายปมแค้น

'กำแพงร้องไห้' ภาคภาษาจีน? คนจีนแห่ใช้เพจสถานทูตสหรัฐระบายปมแค้น

ชาวจีนแห่ใช้เพจสถานทูตสหรัฐระบายความโกรธ ปมหุ้นตก-เศรษฐกิจซบเซา เป็นเหมือนกำแพงร้องไห้เวอร์ชั่นจีน คาดหนีไปเพจต่างชาติหวังเลี่ยงการเซ็นเซอร์ของรัฐ

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ชาวจีนจำนวนมากได้พากันระบายความไม่พอใจต่อเศรษฐกิจจีนที่กำลังชะลอตัวและตลาดหุ้นจีนที่อยู่ในภาวะตกต่ำ ผ่านหน้าบัญชีโซเชียลมีเดียของสถานทูตสหรัฐในกรุงปักกิ่ง

รายงานระบุว่า บัญชีเว่ยป๋อของสถานทูตสหรัฐประจำกรุงปักกิ่ง ได้เผยแพร่บทความเรื่องการอนุรักษ์ยีราฟ เมื่อวันศุกร์ที่ 2 ก.พ. แต่กลับมีชาวจีนจำนวนมากแห่เข้ามาแสดงความคิดเห็นกว่า 130,000 รายการ และรีโพสต์ถึง 15,000 รายการ เมื่อนับจนถึงวันอาทิตย์ที่ 5 ก.พ.

ทว่าความเห็นส่วนใหญ่นั้นไม่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์สัตว์ป่าแต่อย่างใด แต่เป็นการระบายความรู้สึกที่ไม่พอใจเกี่ยวกับการทรุดตัวของตลาดหุ้นจีน

ผู้ใช้งานเว่ยป๋อรายหนึ่งได้เข้ามาโพสต์ข้อความแสดงความเห็นใต้บทความของสถานทูตว่า "คุณพอจะมีขีปนาวุธสักสองสามลูกไหม เอาไว้ถล่มตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้"

ขณะที่ผู้ใช้งานอีกรายระบุว่า บัญชีเว่ยป๋อของสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศจีนได้กลายเป็นกำแพงระบายความทุกข์ของนักลงทุนจีนไปแล้ว ซึ่งสื่อถึง "กำแพงร้องไห้" หรือ The Wailing Wall ในนครเยรูซาเล็ม ที่ชาวยิวจะพากันมารำลึกถึงวันที่พวกโรมันเข้ายึดครองเยรูซาเลมในค.ศ. 70 เพียงแต่ครั้งนี้เป็นกำแพงร้องไห้ในเวอร์ชั่นจีน

\'กำแพงร้องไห้\' ภาคภาษาจีน? คนจีนแห่ใช้เพจสถานทูตสหรัฐระบายปมแค้น

แม้ผู้ใช้เว่ยป๋อจะสามารถโพสต์แสดงความเห็นเกี่ยวกับตลาดและเศรษฐกิจ แต่ทางการจีนมักจะบล็อกความคิดเห็นออนไลน์ที่พวกเขามองว่าเป็น "เชิงลบ" หากโพสต์เหล่านั้นได้รับความสนใจ

นอกจากนี้ ทางการจีนสามารถปิดใช้งานฟังก์ชั่นการแสดงความคิดเห็นหรือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจหรือตลาดบนแพลตฟอร์มเว่ยป๋อ หรือเลือกแสดงความคิดเห็นเฉพาะ ซึ่งจะจำกัดช่องทางที่ผู้คนสามารถแสดงความคิดเห็น

ทั้งนี้ ดัชนี CSI300 ซึ่งเป็นดัชนีหุ้นบลูชิพของจีนร่วงลง 6.3% ในเดือนม.ค. ซึ่งแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี หลังจากที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจีนไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นอันเนื่องมาจากปัญหาเศรษฐกิจ ภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ตกต่ำมานานหลายปี การบริโภคภายในประเทศที่ซบเซา และแรงกดดันจากภาวะเงินฝืด