ฟิลิปปินส์เข้มป้องอธิปไตย ซื้อเรือดำน้ำเสริมเขี้ยวเล็บ

พลเรือจัตวารอย ตรินิแดด โฆษกกองทัพเรือแห่งทะเลฟิลิปปินส์ตะวันตก กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี (1 ก.พ.) ว่า แผนปรับปรุงกองทัพให้ทันสมัย เฟส 3 สะท้อนถึงการเปลี่ยนกลยุทธ์จากการป้องกันภายในไปสู่การป้องกันภายนอก

“เราอาจไม่ใช่กองทัพเรือขนาดใหญ่ แต่เรามีกองทัพเรือที่จะดูแลสิทธิ์เหนือดินแดนและอธิปไตยของเรา” พล.ร.จ.ตรินิแดด กล่าว

พล.ร.จ.ตรินิแดด กล่าวด้วยว่า แผนปรับปรุงกองทัพให้ทันสมัย เฟส 3 ซึ่งผ่านการปรับแก้ให้สอดคล้องกับความต้องการของประเทศมากขึ้นนั้น คาดว่าจะมีค่าใช้จ่าย 2 ล้านล้านเปโซ (3.562 หมื่นล้านดอลลาร์) และจะดำเนินการตลอดระยะเวลาหลายปี

การเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ของฟิลิปปินส์มีขึ้นในช่วงที่่ความตึงเครียดระหว่างฟิลิปปินส์กับจีนเพิ่มขึ้นจากข้อพิพาทเรื่องดินแดนในทะเลจีนใต้ โดยฟิลิปปินส์เรียกพื้นที่ส่วนหนึ่งของทะเลจีนใต้ภายในเขตเศรษฐกิจพิเศษของตนว่า ทะเลฟิลิปปินส์ตะวันตก

แต่พล.ร.จ.ตรินิแดด ไม่เปิดเผยว่าฟิลิปปินส์ตั้งใจจะซื้อเรือดำน้ำกี่ลำ แต่ก็บอกว่า “มากกว่าหนึ่งลำแน่นอน”ทั้งยังระบุว่า ฝรั่งเศส สเปน เกาหลีใต้ และอิตาลี แสดงความสนใจในการเป็นซัพพลายเออร์เรือดำน้ำให้ฟิลิปปินส์แล้ว
 

การซื้อเรือดำน้ำของฟิลิปปินส์มีขึ้นหลังจากทางการเวียดนามและฟิลิปปินส์ตกลงยกระดับความร่วมมือหน่วยยามฝั่งเพื่อป้องกันการเกิดเหตุไม่คาดฝันในน่านน้ำพิพาททะเลจีนใต้ ท่ามกลางความตึงเครียดการเผชิญหน้าระหว่างบรรดาชาติพิพาทกับกองทัพเรือจีน ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวเกิดขึ้นหลังประธานาธิบดีมาร์กอส จูเนียร์ เดินทางเยือนกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม อย่างเป็นทางการ โดยทั้งสองฝ่ายร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู)แล้ว

ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นสุ่มเสี่ยงต่อการสร้างความไม่พอใจให้ทางการจีน โดยเฉพาะหากทำให้บรรดาชาติพิพาททั้งหมดไกล่เกลี่ยกันลงตัวแล้วหันมาผนึกกำลังกันต่อต้านจีนที่อ้างสิทธิอธิปไตยเหนือน่านน้ำทะเลจีนใต้เกือบทั้งหมด โดยเพิกเฉยต่อข้อบังคับสากล

เวียดนามและฟิลิปปินส์เป็นชาติคู่พิพาททะเลจีนใต้ที่เคยเผชิญหน้ากับหน่วยยามฝั่งของจีนบ่อยครั้ง นำไปสู่การกระทบกระทั่งกันและทำให้ความสัมพันธ์กับจีนเสื่อมถอยลงอย่างต่อเนื่อง
 

ความร่วมมือข้างต้นระหว่างเวียดนามและฟิลิปปินส์จะทำให้หน่วยยามฝั่งของสองชาติสามารถฝึกฝนและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกันได้ เพื่อเสริมสร้างการปฏิบัติภารกิจร่วมกันให้มีประสิทธิภาพ

ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ กล่าวว่า ทะเลจีนใต้ยังคงเป็นพื้นที่พิพาท และฟิลิปปินส์ต้องการปกป้องอธิปไตยของชาติบ้านเมืองและต่อต้านการยั่วยุ พร้อมกับหาทางออกกับจีนผ่านการเจรจาอย่างสันติในฐานะชาติที่มีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน