‘ซัลลิแวน-หวังอี้’ เคลียร์คิว ‘ไบเดน-สี จิ้นผิง’ โทรคุยรอบหน้า

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน นายซัลลิแวนและนายหวังอี้ เสร็จสิ้นการหารือสองวันที่กรุงเทพฯ เมื่อวันเสาร์ (27 ม.ค.) ถือเป็นการติดต่อกันระดับสูงครั้งล่าสุดหลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน พบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่แคลิฟอร์เนีย เมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา

เจ้าหน้าที่ระดับสูงเผยต่อว่า ทั้งสองคนเห็นชอบให้มีช่องทางสื่อสารเพิ่มเติมไม่ใช่แค่ระดับรัฐมนตรี แต่ยังให้ไบเดนและสีโทรศัพท์หากันในเร็วๆ นี้ และคาดว่านายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะเยือนจีนอีกครั้งในปีนี้

การพบกันที่กรุงเทพฯ ตอกย้ำความพยายามของสหรัฐและจีนที่จะปรับความสัมพันธ์หลังตึงเครียดเมื่อปี 2566  ต่างฝ่ายต่างอ้างว่าเกิดความร่วมมือใหม่ๆ ระหว่างที่สองประธานาธิบดีพบกันในปีก่อน เช่น การปราบปรามขบวนการลักลอบขนเฟนตานิลและกองทัพทั้งสองประเทศกลับมาติดต่อสื่อสารกันอีกครั้งหนึ่ง โดยในเดือนนี้เจ้าหน้าที่กลาโหมจีนและสหรัฐจะกลับมาเจรจาประสานนโยบายกันอีกครั้งที่เพนตากอน

ระหว่างการเจรจาซัลลิแวนเร่งจีนใช้ข้อได้เปรียบทางเศรษฐกิจให้อิหร่าน ควบคุมการโจมตีเรือขนส่งสินค้าของฮูตี ซึ่งการรักษาเส้นทางการค้าโลกเอาไว้จีนจะได้ประโยชน์ในทางเศรษฐกิจด้วย

อย่างไรก็ตาม ในเอกสารทางการเผยแพร่ข้อมูลการสนทนาของหวังและซัลลิแวน ไม่ได้กล่าวถึงประเด็นฮูตี มีเพียงจุดยืนด้านนโยบายที่ทราบกันดีอยู่แล้ว

แถลงการณ์จากกระทรวงการต่างประเทศจีนระบุหวังย้ำในประเด็นไต้หวันว่าเป็นกิจการภายในของจีน และความเสี่ยงใหญ่สุดต่อสันติภาพและเสถียรภาพใน ช่องแคบไต้หวัน คือ “เอกราชไต้หวัน” ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบหารือเพิ่มเติมเรื่องขอบเขตระหว่างความมั่นคงแห่งชาติกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจ

ส่วนแถลงการณ์ทำเนียบขาวระบุ ซัลลิแวนย้ำถึงความสำคัญในการรักษาสันติภาพและเสถียรภาพของช่องแคบไต้หวัน ทั้งยังหารือกันเรื่องการพูดคุยระหว่างสหรัฐและจีนในประเด็นเอไอในฤดูใบไม้ผลิ และกลุ่มทำงานทวิภาคีต่อต้านยาเสพติดเริ่มทำงานในวันที่ 30 ม.ค.

ประเด็นปัญหาอื่นๆ ที่ถูกนำมาพูดคุยได้แก่ ตะวันออกกลาง ยูเครน คาบสมุทรเกาหลี และทะเลจีนใต้