‘สหรัฐ-จีน’ใครครองเบอร์หนึ่งเศรษฐกิจโลกดูที่จีดีพี l World in Brief

‘สหรัฐ-จีน’ใครครองเบอร์หนึ่งเศรษฐกิจโลกดูที่จีดีพี l World in Brief

สหรัฐเผยตัวเลขจีดีพีไตรมาสสี่สะท้อนภาพเศรษฐกิจปี 2566 ดีเกินคาด ซึ่งอาจเป็นผลบวกสำหรับการหาเสียงเลือกตั้งของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ด้านสงครามในกาซายังหนักหน่วง ฮูตีถึงกับต้องบินไปเจรจากับรัสเซีย

สหรัฐยังนำจีนในศึกชิงเจ้าเศรษฐกิจโลก 

 สหรัฐยังคงนำหน้าจีนในการแข่งขันเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่สุดของโลก ผลจากผู้บริโภคชาวอเมริกันใช้จ่ายคึกคัก ปี 2566 ตัวเลขผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ยังไม่ได้ปรับเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 6.3% มากกว่าจีนที่เพิ่มขึ้น 4.6% แม้ตัวเลขบางตัวสะท้อนว่าราคาในสหรัฐสูงขึ้น แต่ผลงานในปี 2566 ตอกย้ำภาพกว้างที่ว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังหลุดพ้นจากช่วงโควิดได้ดีกว่าจีน

‘ไบเดน’ปลื้มเศรษฐกิจแกร่ง

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ปราศรัยที่รัฐวิสคอนซิน เมื่อวันพฤหัสบดี (25 ม.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ชื่นชมเศรษฐกิจปี 2566 แข็งแกร่งเกินคาดซึ่งอาจเป็นปัจจัยหนุนสำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่เขาลงชิงชัยอีกครั้ง

“ตั้งแต่ตอนที่ผมได้รับเลือกตั้งเข้ามา ผู้เชี่ยวชาญยืนกรานว่าเศรษฐกิจกำลังจะถดถอยเร็วๆ นี้ แต่ก็อย่างที่เห็น เราเติบโตอย่างแข็งแกร่งจริงๆ” ไบเดนหมายถึงตัวเลขที่เผยออกมาก่อนหน้านั้นในวันเดียวกัน ชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐไตรมาสสี่ ขยายตัว 3.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี อานิสงส์ตลาดแรงงานและการใช้จ่ายของผู้บริโภคไปได้ดี

ฮูตีบินหารือรัสเซียกดดันยุติสงครามกาซา 

ตัวแทนฮูตีเดินทางไปเจรจาถึงกรุงมอสโกของรัสเซียเมื่อวันพฤหัสบดี (25 ม.ค.) อย่างที่ไม่ค่อยมีให้เห็นบ่อยนัก นายโมฮัมเหม็ด อับเดล ซาลาม โฆษกฮูตี เผยผ่านแพลตฟอร์ม X ว่า เมื่อวันพฤหัสบดี (25 ม.ค.) ตามเวลาท้องถิ่นหัวหน้าคณะผู้แทนได้พบกับนายมิคาอิล บ็อกดานอฟ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย เพื่อเพิ่มแรงกดดันให้กับสหรัฐและอิสราเอลยุติสงครามกาซา 

นับตั้งแต่กลางเดือน พ.ย.เป็นต้นมา ฮูตีโจมตีเรือสินค้าในทะเลแดงบ่อยครั้งเพื่อกดดันให้อิสราเอลยุติสงคราม  การโจมตีของฮูตีเป็นอันตรายต่อเส้นทางการค้าสำคัญของโลก