หลี่ เฉียง เผยจีดีพีจีน 'โตกว่าเป้า' 5.2% ยกประเด็น 'ชิป' ขึ้นเวที WEF

หลี่ เฉียง เผยจีดีพีจีน 'โตกว่าเป้า' 5.2% ยกประเด็น 'ชิป' ขึ้นเวที WEF

นายกฯ จีนขึ้นปาฐกถาในเวที WEF ประกาศจีดีพีจีนเติบโตได้ 5.2% สูงกว่าเป้าหมายโดยไม่ต้องพึ่งมาตรการกระตุ้นขนานใหญ่ พร้อมย้ำ "นวัตกรรม" ไม่ควรถูกใช้เป็นเครื่องมือจำกัดประเทศอื่น

นายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง ของจีน ขึ้นกล่าวปาฐาถกาในงานเวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรั่ม (WEF) วันนี้ (16 ม.ค.) ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของจีนในปี 2566 ที่ผ่านมา เติบโตได้ 5.2% ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลประมาณการเอาไว้ที่ราว 5% โดยย้ำว่าเป็นการเติบโตได้โดยที่จีนไม่ต้องพึ่งการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่เข้ามาช่วย  

"ในการส่งเสริมการพัฒนาทางเศรษฐกิจ เราไม่ได้ใช้วิธีออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ เราไม่ใช้วิธีกระตุ้นการเติบโตระยะสั้นบนภาระความเสี่ยงระยะยาว" หลี่ กล่าว 

หลี่ยังย้ำถึงคำมั่นว่าจะพัฒนาบรรยากาศการลงทุนของบริษัทต่างชาติในจีนให้ดีขึ้น ซึ่งรวมถึงการลดหลักเกณฑ์ Negative List สำหรับการลงทุนของต่างชาติ โดยยกเลิกการจำกัดการเข้าถึงภาคการผลิต และให้คำมั่นว่าจะปฏิบัติกับบริษัทต่างชาติอย่างเป็นธรรม โดยประเด็นนี้ยังเป็นเรื่องที่ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าวว่าจะให้ความสำคัญเป็นลำดับต้นๆ ในระหว่างการเดินทางเยือนสหรัฐเมื่อปลายปีที่แล้วด้วย 

 

หลี่ เฉียง เผยจีดีพีจีน \'โตกว่าเป้า\' 5.2% ยกประเด็น \'ชิป\' ขึ้นเวที WEF

นายกฯ จีนยังได้ใช้โอกาสบนเวทีดาวอสกล่าวถึงประเด็นเรื่องเทคโนโลยีและนวัตกรรม ซึ่งจีนกำลังเป็นประเด็นขัดแย้งกับสหรัฐด้วยว่า นวัตกรรมเทคโนโลยีไม่ควรถูกนำไปใช้เป็นวิธีจำกัดหรือควบคุมประเทศอื่นๆ

"เพื่อรักษาบรรยากาศในการแข่งขันให้แข็งแรงและดึงพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดออกมาให้ได้ วิธีเดียวก็คือ ต้องเพิ่มความร่วมมือระหว่างกันในด้านนวัตกรรม" หลี่กล่าวปาฐกถาในภาษาจีน แต่ไม่ได้ระบุชื่อประเทศไหนออกมาชัดเจน

ผู้นำจีนยังได้ตอบคำถามบนเวทีเรื่องโอกาสและความเสี่ยงเกี่ยวกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์รุ่นใหม่ (เจนเนอเรทีฟ เอไอ) เช่น แชทจีพีที ด้วยว่า "มนุษย์จำเป็นต้องควบคุมแมชชีน แทนที่จะปล่อยให้แมชชีนมาควบคุมเรา" พร้อมระบุว่าควรมีการกำกับดูแลเรื่องการพัฒนาเอไออย่างเป็นสากล แต่ไม่ได้ระบุรายละเอียดเพิ่มเติม 

นอกจากนี้หลี่ยังกล่าวด้วยว่า เอไอไม่ควรถูกนำไปสร้างประโยชน์ให้คนแค่กลุ่มเล็กๆ และผลประโยชน์ของประเทศกำลังพัฒนาทั้งหลายก็เป็นสิ่งที่ควรได้รับการพิจารณาในการพัฒนาเอไอด้วย 

ทั้งนี้ หลี่ เฉียง เข้าร่วมงาน WEF ที่เมืองดาวอส สวิตเซอร์แลนด์ ในปีนี้เป็นครั้งแรก และยังเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี ที่จีนส่งผู้นำระดับสูงเข้าร่วม นับตั้งแต่ที่ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เข้าร่วมการประชุมเมื่อปี 2560