เปิดประวัติ ‘ควีนมาร์เกรเธอที่ 2’ ราชินีนาถสุดอาร์ตแห่งเดนมาร์ก

เปิดประวัติ ‘ควีนมาร์เกรเธอที่ 2’ ราชินีนาถสุดอาร์ตแห่งเดนมาร์ก

เปิดพระราชประวัติ “สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2” หลังประกาศสละราชสมบัติ และพระราชสถานะ องค์พระประมุขแห่งประเทศเดนมาร์ก ราชินีผู้ครองราชย์องค์สุดท้ายของโลก ผู้ออกแบบฉากและเครื่องแต่งกายให้หนัง “Netflix”

“ข้าพเจ้าตัดสินใจแล้วว่า นี่คือเวลาที่เหมาะสมแล้ว เราจะส่งมอบราชบัลลังก์ต่อให้มกุฎราชกุมาร เจ้าชายเฟรเดอริค” 

ตอนหนึ่งของพระราชดำรัส ของ “สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2” ที่ทรงประกาศสละราชสมบัติ และพระราชสถานะ “องค์พระประมุขแห่งประเทศเดนมาร์ก” เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 2023 ระหว่างทรงมีพระราชดำรัสพระราชทานแก่พสกนิกรชาวเดนมาร์กในโอกาสขึ้นปีใหม่ซึ่งมีการแพร่ภาพทางโทรทัศน์ โดยจะมีผลอย่างเป็นทางการในวันที่ 14 ม.ค. 2024 นี้ ซึ่งเป็นวันครบ 52 ปี การขึ้นครองราชย์ของพระองค์ 

โดยพระองค์ตรัสเพิ่มเติมว่า เวลาผ่านมาเนิ่นนานและพระอาการประชวรก็มีมากมาย ทรงไม่สามารถรับมือกับสิ่งที่เคยทำได้เหมือนดังในอดีต โดยก่อนหน้านี้สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า พระองค์ทรงเข้ารับการผ่าตัดพระขนอง (หลัง) เมื่อช่วงต้นปี 2023 

“การผ่าตัดครั้งนั้น ทำให้เราได้คิดถึงอนาคตว่า ถึงเวลาแล้วหรือไม่ที่จะมอบความรับผิดชอบนี้ต่อให้รุ่นต่อไป” 

เปิดประวัติ ‘ควีนมาร์เกรเธอที่ 2’ ราชินีนาถสุดอาร์ตแห่งเดนมาร์ก

สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 แห่งเดนมาร์ก ประกาศสละราชสมบัติ

  • ราชินีนาถองค์สุดท้าย

ปัจจุบัน สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 แห่งเดนมาร์ก มีพระชนมายุ 83 พรรษา นับเป็นองค์พระประมุขของประเทศที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดในยุโรป หลังจากที่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 พระประมุขแห่งสหราชอาณาจักร ซึ่งครองตำแหน่งนี้มาก่อน เสด็จสวรรคตในปี 2022 และเป็นราชินีผู้ครองราชย์ (Reigning Queen) ในฐานะกษัตริย์องค์สุดท้ายของโลก

สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 ทรงมีพระนามเต็มว่า “สมเด็จพระราชินีนาถ มาร์เกรเธอ อเล็กซานดริน ธอร์ฮิลดูร์ อิงกริด” เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 16 เม.ย. 1940 เป็นสมเด็จพระราชินีนาถแห่งเดนมาร์กและกรีนแลนด์ ในฐานะที่เป็นพระราชธิดาองค์โตในสมเด็จพระเจ้าเฟรเดอริกที่ 9 แห่งเดนมาร์กกับสมเด็จพระราชินีอิงกริดแห่งเดนมาร์ก  

พระองค์ทรงสืบราชบัลลังก์เดนมาร์กขณะมีพระชนมายุ 31 พรรษา หลังจากการเสด็จสวรรคตของพระราชบิดาในวันที่ 14 ม.ค. 1972  จากการสืบราชบัลลังก์ทำให้พระองค์ทรงเป็นสมเด็จพระราชินีนาถแห่งเดนมาร์กพระองค์แรกนับตั้งแต่รัชสมัยของสมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 1 แห่งเดนมาร์ก ซึ่งทรงเป็นพระประมุขแห่งสแกนดิเนเวียในช่วงปี 1375-1412

เปิดประวัติ ‘ควีนมาร์เกรเธอที่ 2’ ราชินีนาถสุดอาร์ตแห่งเดนมาร์ก

  • มีควีนเอลิซาเบธที่ 2 เป็นต้นแบบ

ควีนมาร์เกรเธอที่ 2” ถือเป็นพระญาติที่สนิทชิดเชื้อควีนเอลิซาเบธที่ 2 ทั้งมีมิตรภาพให้กันมาอย่างยาวนานหลายทศวรรษ เนื่องจากทั้งสองพระองค์เป็นพระราชนัดดาในสมเด็จพระราชินีวิกตอเรีย และมักแบ่งปันเรื่องราวสุนัขทรงเลี้ยงระหว่างกันเสมอ ทั้งคู่มักเรียกกันด้วยชื่อเล่นว่า “เดซี่” และ “ลิลีเบ็ธ”

เมื่อทราบข่าวการสวรรคตของพระราชินีแห่งอังกฤษ ควีนมาร์เกรเธอเป็นกษัตริย์ต่างประเทศพระองค์แรกที่ถวายความอาลัยต่อสมเด็จควีนเอลิซาเบธที่ 2  โดยทรงเขียนจดหมายแสดงความเสียใจถึงพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 

“ฉันส่งความคิดและคำอธิษฐานอันอบอุ่นที่สุดของฉันไปให้คุณและคามิลลา พระองค์ (ควีนเอลิซาเบธ) เป็นบุคคลที่โดดเด่นในหมู่กษัตริย์ยุโรปและเป็นแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่สำหรับเราทุกคน เราคงคิดถึงเธอมาก”

ควีนมาร์เกรเธอ เคยพระราชทานสัมภาษณ์แก่สำนักข่าว ITV News ในปี 2022 ว่า ควีนเอลิซาเบธเป็นแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ในการใช้ชีวิตของพระองค์

“ฉันประทับใจในตัวพระองค์มาก พระองค์ทรงอุทิศทั้งชีวิตเพื่อชาวอังกฤษ ฉันเข้าใจทันทีว่าหน้าที่ของเราคืออะไร นั่นคือทั้งหมดในชีวิตของฉัน พ่อแม่ของฉันบอกว่าให้ดูสิ่งที่เธอทำให้อังกฤษ แล้วฉันก็เห็นว่าตัวเองก็ทำได้เหมือนกัน สามารถใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ แม้จะมีงานที่ต้องทำมากมายก็ตาม”

 

  • ควีนแห่งความสมถะ

ตลอดรัชสมัยของควีนมาร์เกรเธอที่ 2 พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ผู้เป็นที่รักของประชาชนชาวเดนมาร์กเสมอมา โดยมักจะเรียกพระองค์ว่า “เดซี่” แม้จะมีในบางครั้งประชาชนจะตั้งคำถามถึงพฤติกรรมระหว่างการปราศรัยทางโทรทัศน์ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ไปบ้างก็ตาม

นอกจากนี้ควีนมาร์เกรเธอยังถือเป็นกษัตริย์ไม่กี่พระองค์ที่เปิดเผยว่า “สูบบุหรี่” โดยเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2006 หนังสือพิมพ์เดนมาร์ก บี.ที. พิมพ์ประกาศจากราชสำนักว่าต่อจากนี้ไปพระราชินีจะทรงสูบบุหรี่เฉพาะในพื้นที่ส่วนพระองค์เท่านั้น ทั้งนี้หลังจากที่พระองค์เข้ารับการผ่าตัดพระขนอง (หลัง) เมื่อเดือนก.พ. 2023 ควีนมาร์เกรเธอไม่สูบบุหรี่อีกเลย 

พระองค์ทรงใช้ชีวิตอย่างสมถะ นิยมไปจับจ่ายซื้อสินค้าที่ในซูเปอร์มาร์เก็ตด้วยพระองค์เอง และหนึ่งในภาพที่โด่งดังที่สุดของพระองค์ที่ถูกถ่ายได้ คือ ตอนที่พระองค์เสวยฮอตดอกอยู่ริมถนน แสดงถึงความติดดินได้อย่างดี อีกทั้งปฏิเสธการใช้สมาร์ทโฟนและเล่นอินเทอร์เน็ต โดยพระองค์ตรัสว่า

 “เรามีความสุขดีแม้ไม่มีสิ่งเหล่านี้ในชีวิต”

เพื่อปรับปรุงสถาบันกษัตริย์ให้เหมาะกับยุคสมัย เมื่อปี 2022 สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 ทรงถอดพระยศพระราชนัดดา 4 พระองค์ ซึ่งเป็นพระโอรสและพระธิดาของเจ้าชายโจอาคิม พระราชโอรสลำดับที่ 2 ของควีนมาร์เกรเธอ โดยทั้ง 4 พระองค์จะได้รับขนานนามว่า “ท่าน” (Exellency) แทน ส่งผลให้ราชวงศ์มีขนาดเล็กลง และใช้ภาษีประชาชนลดลง

เปิดประวัติ ‘ควีนมาร์เกรเธอที่ 2’ ราชินีนาถสุดอาร์ตแห่งเดนมาร์ก

  • ทรงรับจ็อบออกแบบฉากและเสื้อผ้าให้ Netflix

ควีนมาร์เกรเธอที่ 2 มีความสนพระราชหฤทัยและมีพระปรีชาสามารถในงานด้านโบราณคดีอย่างมากโดยพระองค์ได้เข้าร่วมขุดแหล่งโบราณคดีหลายครั้ง ทั้งในเดนมาร์ก อิตาลี อียิปต์ และอเมริกาใต้ โดยในสมัยพระองค์ยังเยาว์วัยทรงเข้าร่วมขุดโบราณวัตถุต่าง ๆ ในแหล่งโบราณสถานอิทรูเรียร่วมกับสมเด็จพระเจ้ากุสตาฟที่ 6 อดอล์ฟแห่งสวีเดน พระอัยกาของพระองค์ในปี 1962

นอกจากนี้สมเด็จพระราชินีนาถทรงมีพระปรีชาสามารถด้านงานศิลปะและแฟชั่น ในช่วงต้นทศวรรษ 1970 สมเด็จพระราชินีทรงหลงใหลในหนังสือชุดเรื่อง “The Lord of the Rings” ของ เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน ถึงขั้นวาดภาพประกอบบรรยายหนังสือส่งไปให้กับผู้แต่งในนามแฝง “อิงกาฮิลด์ กราธแมร์” (Ingahild Grathmer) และภาพเหล่านี้ได้ถูกนำมาตีพิมพ์ประกอบหนังสือชุดนี้ตั้งแต่ปี 1977

เปิดประวัติ ‘ควีนมาร์เกรเธอที่ 2’ ราชินีนาถสุดอาร์ตแห่งเดนมาร์ก

ตัวอย่างภาพวาดประกอบหนังสือ The Lord of the Ring โดย ควีนมาร์เกรเธอที่ 2 

 

หลังจากนั้น ควีนมาร์เกรเธอที่ 2 ทรงวาดภาพอย่างต่อเนื่อง ตลอดเวลาที่ผ่านมาพระองค์ทรงพกสมุดวาดภาพเล่มเล็ก ๆ คู่พระวรกายเสมอ ทำให้สามารถวาดภาพได้ทันทีที่มีแรงบันดาลใจ โดยมีการจัดนิทรรศการแสดงภาพวาดฝีพระหัตถ์อยู่เสมอ ข้อมูลจากเว็บไซต์สำนักพระราชวังระบุว่าปัจจุบันได้ตีพิมพ์หนังสือภาพฝีพระหัตถ์ของราชินีไปแล้ว 11 เล่มด้วยกัน หนึ่งในนั้นคือ สมุดภาพประกอบนิทานที่พระองค์ใช้เล่าให้พระราชโอรสฟังก่อนนอนด้วย 

ควีนมาร์เกรเธอที่ 2 ยังทรงเป็นผู้ออกแบบฉาก เขียนบท รวมถึงแสดงในภาพยนตร์เรื่อง “De vilde svaner” (2009) และการแสดงบัลเลต์เรื่อง “Snedronningen” (2000) หรือ ราชินีหิมะ ซึ่งเป็นหนึ่งในบัลเลต์ที่มีชื่อเสียงของเดนมาร์กและถูกนำมาสร้างหลายครั้ง โดยในการแสดงรอบปฐมทัศน์สมเด็จพระราชินีเสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย พระบรมวงศานุวงศ์ ไปในการทอดพระเนตรการแสดงละครบัลเลต์เรื่องนี้เสมอ

ผลงานการสร้างสรรค์งานศิลปะของควีนมาร์เกรเธอที่ 2 ยังคงมีออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดพระองค์ทรงร่วมเป็นทีมผู้สร้างภาพยนตร์ของ Netflix เรื่อง  “Ehrengard: The Art of Seduction” (2023) ในฐานะผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย ฉากและสถานที่อีกด้วย ซึ่งได้รับคำชมนักวิจารณ์ในแง่ดีเกี่ยวกับองค์ประกอบศิลป์และเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย

ขณะเดียวกัน การแต่งกายของพระองค์ก็ถือว่ามีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แม้จะไม่ค่อยมีใครเข้าใจในสไตล์ของพระองค์ แต่ก็งดงามในแบบฉบับของพระองค์ จนนิตยสาร Vogue อังกฤษ ยกย่องให้พระองค์เป็น “An Unsung Style Heroine” หมายถึง ผู้ที่แต่งกายเพื่อความสุขของตนเอง ไม่ได้ต้องการคำชื่นชม 

เปิดประวัติ ‘ควีนมาร์เกรเธอที่ 2’ ราชินีนาถสุดอาร์ตแห่งเดนมาร์ก

ส่วนจูลี บรอกเกอร์ ผู้ก่อตั้ง Brøgger แบรนด์เสื้อผ้าหรูกล่าวว่า “สไตล์การแต่งตัวของควีนมาร์เกรเธอที่ 2 โดดเด่นกว่าทุกคน พระองค์ไม่สนใจว่าใครจะคิดอย่างไร แต่สาธารณชนสามารถรับรู้ว่าตัวตนของพระองค์เป็นอย่างไร เพราะความสนใจของพระองค์ถูกถ่ายทอดออกผ่านเสื้อผ้าแล้ว”

สำนักข่าว The Guardian รายงานว่า ชาวเดนมาร์กส่วนใหญ่ต่างตกใจกับการประกาศสละราชสมบัติของสมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 เนื่องจากคนส่วนมากผูกพันกับพระองค์ ชาวเดนมาร์กจำนวนมากเคยพบกับสมาชิกราชวงศ์ในชีวิตประจำวันของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นในร้านอาหาร สวนสาธารณะหรือบนถนนในกรุงโคเปนเฮเกน ที่ราชวงศ์ขี่จักรยานและส่งลูกหลานไปเรียน และไม่ได้มองราชวงศ์เป็น“ผู้ปกครอง” แต่เป็นพลังขับเคลื่อนธุรกิจและการทูต ทำให้ชาวเดนมาร์กไม่ได้ตั้งคำถามเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์มากนัก

 

ที่มา: BBCIndependentThe Guardian

เปิดประวัติ ‘ควีนมาร์เกรเธอที่ 2’ ราชินีนาถสุดอาร์ตแห่งเดนมาร์ก