เคืองสงครามอิสราเอล-ฮามาส ผู้นำมุสลิมรณรงค์ไม่เลือกไบเดน

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงาน ผู้นำมุสลิมในรัฐที่ไม่เป็นฐานเสียงพรรคใดอย่างมิชิแกน, มินเนโซตา และแอริโซนา เริ่มการรณรงค์ ไม่เอาไบเดน #AbandonBiden อย่างเป็นทางการเมื่อไม่กี่วันก่อน พวกเขาไม่เห็นชอบกับการที่ไบเดนสนับสนุนอิสราเอลโจมตีตอบโต้ฮามาส คร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์ผู้บริสุทธิ์หลายหมื่นคน

ถึงขณะนี้แนวร่วมมุสลิมตั้งใจขยายแคมเปญกดดันไปทั่วทั้ง 50 รัฐ

“เราจะปกป้องอเมริกาจากตัวมันเอง ด้วยการลงโทษไบเดนที่หีบลงคะแนน” เจย์ลานี ฮุสเซน ผู้นำแคมเปญประกาศ

ซีเอ็นบีซีสอบถามไปยังทีมหาเสียงของไบเดนยังไม่ให้ความเห็น

ทั้งนี้ แนวร่วมมีแผนสนับสนุนผู้สมัครอิสระลงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ และไม่สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวเก็งจากพรรครีพับลิกัน แม้ยอมรับว่าการรณรงค์ของกลุ่มเสี่ยงทำลายฐานเสียงของไบเดนก็ตาม

“เป็นไปได้ว่าคะแนนเสียงของเราอาจทำลายเดโมแครต และรีพับลิกันอาจชนะ เราไม่โง่ในเรื่องนี้” ฮุสเซนกล่าว และว่า #AbandonBiden ยินดีรับความเสี่ยงหากได้ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีไปอีกสี่ปี

ที่ผ่านมาประวัติการปกป้องเสรีภาพชาวมุสลิมของทรัมป์ไม่ได้ดีนัก อดีตประธานาธิบดีรายนี้บอกด้วยว่า จะเดินหน้าแผนการที่เคยทำไว้ และหากชนะเลือกตั้งสมัยที่ 2เขาต้องการห้ามและขยายคำสั่งห้ามประชาชนจากเจ็ดประเทศมุสลิมเข้าสหรัฐ เหมือนที่เคยทำมาในสมัยแรก 

กระนั้น การรับมือกับ สงครามอิสราเอล-ฮามาส ของไบเดน สร้างความเสียหายต่อการหาเสียงของเขามาถึงขณะนี้ โดยเฉพาะในกลุ่มโหวตเตอร์หลักที่เคยเลือกเขาเมื่อสี่ปีก่อน

โพลของเอ็นบีซีในเดือน พ.ย. เรตติ้งไบเดนในหมู่โหวตเตอร์หนุ่มสาวลดลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ จากการดำเนินนโยบายต่างประเทศในสงครามอิสราเอล-ฮามาส

ชาวอเมริกันมุสลิมในรัฐที่การแข่งขันดุเดือด ที่ช่วยให้ไบเดนคว้าชัยชนะเฉียดฉิวในปี 2563 กล่าวว่า รอบนี้พวกเขายินดีเลือกพรรคที่ 3 หรือไม่เลือกใครเลยดีกว่า

นั่นไม่ใช่เฉพาะชาวอเมริกันมุสลิมเท่านั้น ผลสำรวจแกลลัพโพลในเดือน ต.ค.พบว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งส่วนใหญ่ไม่พอใจกับทั้งพรรครีพับลิกันและเดโมแครต พวกเขาคิดว่าจำเป็นต้องมีผู้สมัครอิสระ

อย่างไรก็ตาม ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่าพรรคที่ 3 กำลังมา นับจากนี้ยังมีเวลาเหลืออีกราวหนึ่งปีกว่าจะถึงวันเลือกตั้ง โพลเหล่านี้บ่งบอกความเห็นในช่วงเวลาสั้นๆ ไม่ได้ทำนายได้อย่างแม่นยำ แต่ก็ชี้ให้เห็นเทรนด์ที่ทีมหาเสียงต้องนำไปพิจารณา

รัฐบาลไบเดนกล่าวเสมอมา หวังว่าอิสราเอลจะปฏิบัติตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ และใช้ทุกมาตรการที่เป็นไปได้ลดการเสียชีวิตของพลเรือน ทว่า ทำเนียบขาวยังไม่ได้กำหนดเงื่อนไขอย่างเป็นทางการในการให้ความช่วยเหลือของสหรัฐต่ออิสราเอลตามมาตรฐานมนุษยธรรมอย่างที่ว่ามา

เมื่อวันศุกร์ (29 ธ.ค.) ไบเดนหลีกเลี่ยงคองเกรสเป็นครั้งที่ 2 ในเดือนนี้เห็นชอบความช่วยเหลือฉุกเฉินทางทหารให้อิสราเอล 147.5 ล้านดอลลาร์