รู้จัก ‘ต้าลี่’ สวรรค์ (ลวง) ดิจิทัลโนแมด

รู้จัก ‘ต้าลี่’ สวรรค์ (ลวง) ดิจิทัลโนแมด

“ต้าลี่” เมืองภูเขาทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของจีน มีเสน่ห์ดึงดูดมากขึ้นทุกขณะ ที่นี่เหล่าดริฟเตอร์กับหมอดูไพ่ทาโรต์ นั่งเคียงบ่าเคียงไหล่กับผู้ประกอบการเทคโนโลยีและศิลปิน

คนเหล่านี้หลายคนเคยเป็นคนเมืองผู้แสวงหารางวัลชีวิตที่หาได้ยากในประเทศอำนาจนิยมอย่างจีน พวกเขาต้องการพื้นที่ที่เปิดให้ถกเถียงแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ และสิ่งที่พวกเขาต้องการมีอยู่ในต้าลี่ รู้จัก ‘ต้าลี่’ สวรรค์ (ลวง) ดิจิทัลโนแมด

ณ พื้นที่โคเวิร์กกิงแห่งหนึ่งนักข่าวจีนรายหนึ่งเปิดประเด็นด้วยการตั้งคำถามถึงจุดยืนของสหรัฐต่อความขัดแย้งอิสราเอล-กาซา การสนทนายืดยาวกลายเป็นการตั้งคำถามของคนหนุ่มสาวถึงผลกระทบจากประชานิยมยุคทรัมป์ที่มีต่อสื่อสหรัฐ ส่วนที่คาเฟ่ใกล้กันผู้คนถกเถียงกันเรื่องศิลปะ การคุกคามทางเพศ และความร้อนรนของเยาวชนจีน

 

เมื่อประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ควบคุมเสรีภาพส่วนบุคคลของเยาวชนจีนมากขึ้นและเศรษฐกิจสะดุด ซ้ำเติมวิกฤติว่างงานของคนหนุ่มสาว เมืองต้าลี่ในมณฑลยูนนานยิ่งกลายเป็นสวรรค์ของคนที่ต้องการหนีจากแรงกดดัน

พวกเขามาที่นี่เพราะที่พักราคาถูก อากาศดี วิวสวยชวนตะลึง และประวัติศาสตร์ของเมืองที่ค่อนข้างยอมรับความแตกต่างได้ ยิ่งปีนี้มีละครโทรทัศน์บอกเล่าเรื่องราวของดิจิทอลโนแมด‘บุคคลที่ทำงานโดยใช้เทคโนโลยีเป็นหลักและใช้ชีวิตแบบพเนจร’ รายหนึ่งยิ่งทำให้ต้าลี่เป็นที่นิยม

หลิง หมิ่นฮัว ผู้เชี่ยวชาญด้านการย้ายถิ่นของชาวจีน จากสถาบันบัณฑิตเจนีวา เผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า เมืองต้าลี่มีประชากร 650,000 คน ย่านเมืองเก่าซึ่งเป็นย่านราชการดึงดูดคนทำงานศิลปะมาตั้งแต่ปลายทศวรรษ 1990 การทำงานทางไกลกันจนกลายเป็นเรื่องปกติ และนโยบายควบคุมโควิดที่เข้มงวดน้อยกว่าที่อื่นของต้าลี่ช่วงที่จีนใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์ ช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้เมืองนี้ รู้จัก ‘ต้าลี่’ สวรรค์ (ลวง) ดิจิทัลโนแมด

ในเดือน พ.ย. การค้นคำว่า “ต้าลี่” บนวีแช็ตเพิ่มขึ้น 70% จากปี 2565 ช่วงปลายเดือน ก.ค. การค้นหาเคยพุ่งขึ้นวันเดียว 290% ตอนที่ชาวจีนจำนวนมากกำลังจองทริปท่องเที่ยวฤดูร้อน

รอยเตอร์สัมภาษณ์ชาวจีน 13 คนที่ย้ายถิ่นมาอยู่ต้าลี่ หลายคนเล่าโดยไม่เปิดเผยชื่อเพราะกลัวโดนรัฐบาลเล่นงาน พวกเขาต้องการหลบลี้จากการเป็นคนชายขอบในสังคมกระแสหลัก ซึ่งนี่ถือเป็นความท้าทายโดยปริยายต่ออุดมคติชาติมั่งคั่งด้วยการภักดีต่อพรรคคอมมิวนิสต์ หรือ “ความฝันแบบจีน” (China Dream) ของประธานาธิบดีสี 

“เมื่อคนหนุ่มสาวมีวัตถุเพียงพอแต่สูญเสียทางจิตวิญญาณ แน่นอนว่าพวกเขาต้องแสวงหาการเติบโตส่วนตัวและเสรีภาพ” ไป่ ยุ่นสี ข้าราชการต้าลี่วัย 33 ปีที่ตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นหมอดูกล่าวกับรอยเตอร์

อย่างไรเสีย ต้าลี่ก็ไม่ได้มีดีไปเสียทั้งหมด แหล่งข่าวหกคนแสดงความกังวลกับรอยเตอร์ ต่อกรณีที่ตำรวจตรวจตรากิจกรรมของพวกเขามากขึ้น เช่น จู่ๆ งานใหญ่ก็ยกเลิกกะทันหันและการที่ตำรวจบุกตรวจค้นที่โน่นที่นี่

รอยเตอร์สอบถามไปยังสำนักโฆษณาชวนเชื่อเมืองต้าลี่ขอความเห็นเรื่องการควบคุมความเคลื่อนไหวของประชาชน และความพยายามดึงแรงงานทักษะหนุ่มสาวเข้ามาในเมืองแต่ยังไม่ได้รับคำตอบ

อาณาจักรแห่งอุดมคติ

ด้วยอัตราการว่างงานของเยาวชนสูงทุบสถิติในฤดูร้อนนี้ จนจีนเลิกเปิดเผยตัวเลข ประกอบกับประชากรในชนบทไม่เติบโตเนื่องจากอัตราการเจริญพันธุ์ต่ำและการย้ายถิ่นเข้าเมือง รัฐบาลปักกิ่งพยายามเกณฑ์คนหนุ่มสาวเข้าร่วม “การพลิกฟื้นชนบท”

สีกระตุ้นบัณฑิต “กลับบ้านเกิด” และ “มุ่งมั่นแสวงหาความยากลำบาก” โดยยกตัวอย่างประสบการณ์ของตนเองช่วงปฏิวัติวัฒนธรรม แต่สารดังกล่าวไปไม่ถึงเยาวชนคนเมืองที่เติบโตมากับความคาดหวังถึงความมั่งคั่ง แต่กลับพบว่าการยกระดับทางสังคมในปัจจุบันไม่สามารถนำพาไปถึงจุดนั้นได้

กระนั้น ต้าลี่ เมืองที่ผู้ให้ข้อมูลหลายคนพบว่า เป็นสถานที่หลีกหนีจากค่านิยมเก่าแก่ของชนบทจีน เป็นข้อยกเว้นสำหรับคนหนุ่มสาวที่หนีไปเมืองใหญ่นับตั้งแต่เศรษฐกิจจีนปรับตัวเข้าสู่ความทันสมัย

ตัวอย่างเช่น ไป่ ลาออกจากงานราชการแล้วย้ายมาอยู่ต้าลี่ในเดือน ก.ย. หันมาเป็นหมอดูออนไลน์ เธอเช่าบ้านสามชั้นกับเพื่อนและแมวสามตัว

“ชีวิตความเป็นอยู่ของฉันมีพื้นที่มากพอให้พัฒนาการงานอาชีพและชีวิตส่วนตัวโดยไม่ต้องมีคนอื่นมายุ่ง” ไป่เล่าโดยเรียกต้าลี่ด้วยชื่อเล่น“อาณาจักรแห่งอุดมคติ” ซึ่งการเล่นคำของตัวอักษรจีนสะท้อนถึงสถานะรัฐเอกราชของต้าลี่ในสมัยศตวรรษที่ 10 ที่ถือเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของต้าลี่

 ด้าน เฉินเจิ้งหยุน ผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพรับสมัครงาน วัย 37 ปี กล่าวว่า ต้าลี่ปลดปล่อยเขาจากแรงกดดันทางสังคมให้รีบแต่งงาน เนื่องจากเสียงเรียกร้องให้แต่งงานจากรัฐดังขึ้นทุกขณะท่ามกลางวิกฤติประชากรของจีน

“มีเรื่องส่วนตัวบางอย่างที่คุณพูดที่อื่นไม่ได้แต่พูดที่นี่ได้” เฉินกล่าวและว่า การที่คนหนุ่มสาวหัวอกเดียวกันมากระจุกกันที่นี่ กิจกรรมทางสังคม และการยอมรับวิถีชีวิตที่หลากหลายเปิดช่องให้เขาอยากมองหาความสัมพันธ์

ตำรวจสอดส่อง

แต่สวรรค์ต้าลี่ก็มีข้อบกพร่อง ผู้จัดงานสองรายเผยกับรอยเตอร์ว่า รัฐบาลท้องถิ่นพยายามดึงดูดคนเก่งด้านเทคโนโลยี และในเดือน ก.ย.เคยขอข้อมูลนโยบายจากเหล่าดิจิทัลโนแมด แต่ประชาชนต้าลี่รวมถึงคนหนุ่มสาวหลายคนเผยด้วยว่า ไม่ไว้ใจความพยายามของรัฐบาลที่ต้องการกำหนดชีวิตส่วนตัวของพวกเขา

ความไม่น่าไว้วางใจ เช่น เมื่อวันที่ 2 พ.ย. บริษัทโคเวิร์กกิงสเปซ “เอ็นซีซี” ผู้จัดงานประชุมดิจิทัลโนแมดที่มีการสัมมนาเรื่องศิลปะและเทคโนโลยีจู่ๆ ก็ประกาศยกเลิกกะทันหันโดยไม่ให้เหตุผลอ้างว่าเป็นเรื่องอ่อนไหว

ระหว่างการไปต้าลี่ครั้งล่าสุด รอยเตอร์เห็นกล้องวงจรปิดของตำรวจติดในพื้นที่ส่วนกลางหลักของเอ็นซีซีด้วย

แหล่งข่าววงในสามคนที่รู้เรื่องการจัดงานในต้าลี่กล่าวว่า งานเสวนาเดือน พ.ย.เหมือนกับอีกงานหนึ่งที่วางแผนไว้ตั้งแต่ปีก่อน ตั้งใจให้เป็นเวทีพูดคุยเรื่องเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตกระจายศูนย์แต่ถูกยกเลิกหลังรัฐบาลถอนงบประมาณและการสนับสนุนกะทันหัน

ผู้จัดงานหลายคนกล่าวว่า ทางการท้องถิ่นต้าลี่ตรวจสอบดิจิทัลโนแมดบางคนอย่างละเอียด คนกลุ่มนี้ใช้โคเวิร์กกิงสเปซที่ต้องใช้เทคโนโลยีเช่นบล็อกเชน

โคเวิร์กกิงสเปซอีกสองแห่งถูกปิดลงอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัวมาหลายเดือนแล้ว โดยแห่งหนึ่งถูกตำรวจท้องที่ไปตรวจสอบมาก่อน

ทั้งนี้ จีนห้ามการขุดและซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีในปี 2564 ส่วนหนึ่งของการปราบปรามภาคส่วนเทคโนโลยี คนทำโคเวิร์กกิงสเปซในต้าลี่จึงต้องทำตัวเงียบๆ และทำตลาดโดยไม่เน้นดิจิทัลโนแมดอีกต่อไป เนื่องจากรัฐบาลท้องถิ่นเมืองชนบทอย่างต้าลี่นั้นอนุรักษนิยม “ระมัดระวังเทคโนโลยีใหม่ๆ”

แต่ความพยายามตรวจตราของรัฐไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจสำหรับนักวิชาการอย่างหลิง เพราะดิจิทัลโนแมดไม่เหมือนนักศึกษามหาวิทยาวิทยาลัย “ไม่ต้องปฏิบัติตามวินัยของพรรค การจัดการพวกเขาทำได้ยากกว่า”

จากปฏิบัติการอันเข้มงวดของทางการแม้น้อยกว่าที่อื่น นั่นเท่ากับว่า ต้าลี่อาจเป็นแค่สวรรค์ (ลวง) ของเหล่าดิจิทัลโนแมดก็ได้