ราคาทองฟิวเจอร์ปรับตัวลงหลังดอลล์แข็ง, จับตาแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด
![ราคาทองฟิวเจอร์ปรับตัวลงหลังดอลล์แข็ง, จับตาแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด](https://image.bangkokbiznews.com/uploads/images/md/2023/12/TqD8zRVdWGIgQJw4l68r.webp?x-image-process=style/LG)
ราคาทองฟิวเจอร์ ปิดวันอังคาร(5ธ.ค.)ปรับตัวลง โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ซึ่งลดความน่าดึงดูดของทอง เนื่องจากทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
สัญญาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 5.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 2,036.30 ดอลลาร์/ออนซ์
ตลาดจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งอาจจะช่วยนักลงทุนประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ ในขณะที่เจ้าหน้าที่เฟดเริ่มเข้าสู่ช่วงงดเว้นการแสดงความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการเงิน (Blackout Period) ก่อนที่เฟดจะจัดการประชุมกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ในวันที่ 12-13 ธ.ค.นี้
นักลงทุนเทน้ำหนักเกือบ 100% ในการคาดการณ์ว่า เฟดจะประกาศคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในการประชุมเดือนมี.ค. 2567
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 97.5% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 12-13 ธ.ค. 2566 และให้น้ำหนัก 83.8% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในเดือนม.ค. 2567
ด้านสำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน ลดลง 617,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 8.733 ล้านตำแหน่งในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2564 และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 9.300 ล้านตำแหน่ง
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานยังปรับลดตัวเลขของเดือนก.ย.สู่ระดับ 9.350 ล้านตำแหน่ง จากเดิมรายงานที่ระดับ 9.553 ล้านตำแหน่ง
ตัวเลข JOLTS ถือเป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสนใจ โดยมองว่าเป็นมาตรวัดภาวะตึงตัวในตลาดแรงงาน ซึ่งเป็นปัจจัยในการพิจารณานโยบายการเงินและอัตราดอกเบี้ยของเฟด