‘สี จิ้นผิง’ เยือนเซี่ยงไฮ้ 28 พ.ย. สร้างความเชื่อมั่นให้ฮับแห่งการเงินจีน

‘สี จิ้นผิง’ เยือนเซี่ยงไฮ้ 28 พ.ย. สร้างความเชื่อมั่นให้ฮับแห่งการเงินจีน

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง” เตรียมเยือนเซี่ยงไฮ้วันอังคาร (28 พ.ย.66) เพื่อสร้างกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ในเซี่ยงไฮ้ในการส่งเสริมความพยายามเปิดตลาดเสรี และความมุ่งมั่นในการฟื้นความเชื่อมั่นต่อภาคเอกชนในเมืองแห่งการเงิน และเทคโนโลยี

สำนักข่าวเซาท์ ไชนา มอร์นิงรายงานว่า “ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง” เตรียมเยือนเซี่ยงไฮ้วันอังคาร (28 พ.ย.66) ถือเป็นการเยือนศูนย์กลางทางการเงินครั้งแรก นับตั้งแต่ล็อกดาวน์เพื่อควบคุมโควิดนานถึง 2 เดือนเมื่อปีก่อน

ขณะที่สำนักข่าวโพสต์อ้างอิงแหล่งข่าวระบุว่า สีมีกำหนดอยู่เซี่ยงไฮ้เป็นเวลา 3 วัน โดยมีกำหนดเยือน Shanghai Futures Exchange และบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งที่ดำเนินธุรกิจในเมืองนี้ และสีคาดว่าตนเองสามารถสร้างกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ในเซี่ยงไฮ้ในการส่งเสริมความพยายามเปิดตลาดเสรี เพื่อกระตุ้นการค้าข้ามพรมแดน และการหมุนเวียนของเงินทุน

ทริปเซี่ยงไฮ้ของสี อาจส่งสัญญาณเกี่ยวกับความมุ่งมั่นในการสร้างความเชื่อมั่นต่อภาคเอกชน ช่วงที่เศรษฐกิจจีนชะลอตัว หลังผ่านพ้นช่วงการแพร่ระบาดโควิดมาได้ยากลำบาก

งานประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค) เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ผู้นำจีนได้ให้คำมั่นว่าจะอำนวยความสะดวกให้นักลงทุนต่างชาติง่ายขึ้น ด้วยความพยายามแสวงหาเงินทุนจากต่างประเทศนี้จึงก่อให้เกิดความสงสัย

ตามข้อมูลของรัฐบาลที่เผยแพร่เมื่อต้นเดือน ระบุว่า ตัวชี้วัดการลงทุนจากต่างประเทศของจีนติดลบเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เริ่มบันทึกเมื่อไตรมาส 3 ของปี 2541 แต่ด้วยการควบคุมการแพร่ระบาดโควิดที่เข้มงวด ความปั่นป่วนทางภูมิรัฐศาสตร์กับสหรัฐ และการผลักดันการรักษาความมั่นคงของชาติที่เพิ่มขึ้น ได้บั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนไปแล้ว

เมื่อปีก่อน จีนล็อกดาวน์เซี่ยงไฮ้มากกว่า 60 วันเพื่อควบคุมโคโรนาไวรัส ทำให้เมืองที่มีประชาชนราว 25 ล้านคน เกิดการประท้วงในปลายปี 2565 เนื่องจากไม่พอใจกับมาตรการควบคุมโควิด-19

ขณะที่ในวันนี้หุ้นจีนก็ขาดทุนในตลาดเอเชีย โดยดัชนี CSI 300 ลดลง 1% ในการซื้อขายช่วงบ่าย และนักลงทุนต่างชาติก็พร้อมที่จะขายหุ้นเป็นครั้งที่สองติดต่อกัน เนื่องจากความเชื่อมั่นยังเปราะบางท่ามกลางการฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ถดถอย

ส่วนการเยือนบริษัทเทคโนโลยีของสี อาจได้รับการจับตาอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับนโยบายเพิ่มเติม หลังเมื่อต้นปีส่งสัญญาณว่าได้ยุติการปราบปรามที่บั่นทอนมูลค่าตลาดหลายพันล้านในภาคธุรกิจเทคโนโลยี

ทั้งนี้ เซี่ยงไฮ้ถือเป็นฐานการดำเนินธุรกิจที่สำคัญ และเป็นด่านหน้าที่สำคัญต่อบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่และธุรกิจเอกชนหลายแห่ง

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์