คาดศก. 'เอเปค' ปีหน้าโตลดลง อนาคตจ่อโตต่ำกว่าค่าเฉลี่ยโลก

คาดศก. 'เอเปค' ปีหน้าโตลดลง  อนาคตจ่อโตต่ำกว่าค่าเฉลี่ยโลก

คาด 21 เขตเศรษฐกิจเอเปคโตลดลงในปีหน้า และโตน้อยกว่าค่าเฉลี่ยโลก เหตุเงินเฟ้อกลับมาทำให้ต้องใช้นโยบายการเงินตึงตัว

รอยเตอร์สรายงานอ้างข้อมูลจากสำนักเลขาธิการกรอบความร่วมมือในภูมิภาคเอเชีย-แแปซิฟิก (เอเปค) ว่า 21 เขตเศรษฐกิจเอเปคซึ่งรวมถึงประเทศไทย จะมีการเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ที่ 2.8% ในปีหน้า ซึ่งถือว่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยโลก และลดลงจากที่คาดว่าจะโตได้ 3.3% ในปีนี้ 

การเติบโตที่ลดลงเป็นผลมาจากเศรษฐกิจสหรัฐที่ชะลอตัวลงเพราะอัตราดอกเบี้ยสูง เศรษฐกิจจีนที่ยังต้องรับมือกับความท้าทายต่างๆ และความตึงเครียดจากข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน 

สำหรับคาดการณ์การเติบโตในปี 2568 และ 2569 จะขยายตัวได้เล็กน้อยอยู่ที่ 2.9% หรือแทบไม่เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า และยังถือเป็นอัตราที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยโลกซึ่งอยู่ที่เฉลี่ย 3.2% และ 3.5 - 3.6% ตามลำดับ

รายงานระบุว่า หนึ่งในปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญที่สุดของ 21 เขตเศรษฐกิจเอเปค คือการต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อที่กลับมา ซึ่งเกี่ยวข้องกับมาตรการจำกัดการส่งออก สภาพอากาศที่ส่งผลให้ราคาข้าวและสินค้าเกษตรอื่นๆ ปรับตัวสูงขึ้น และปัญหาด้านซัพพลายเชนในอุตสาหกรรมปุ๋ย โดยการแก้ปัญหาเงินเฟ้อนั้นอาจทำให้ต้องใช้นโยบายการเงินที่ตึงตัวมากขึ้น ซึ่งจะกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจตามมา       

สำหรับการค้าของเอเปคจะเริ่มกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นในปีหน้า หลังจากแทบไม่ขยับขึ้นในปีนี้เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจในจีน โดยคาดว่าปีหน้าปริมาณการส่งออกจะเติบโตได้ 4.3% และการนำเข้าเติบโต 3.5% แต่ทั้งการส่งออกและนำเข้าจะเติบโตได้มากสุด 4.4% ในปี 2568 ก่อนจะปรับลดลงเล็กน้อยในปี 2569 เพราะความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่จะกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน