ยล ‘อัสตานา’ คาซัคสถาน เมืองแห่งแลนด์มาร์ก

ยล ‘อัสตานา’ คาซัคสถาน เมืองแห่งแลนด์มาร์ก

เมื่อพูดถึง “คาซัคสถาน” มักต้องกำกับด้วยคำว่า ประเทศใหญ่สุดในเอเชียกลาง ไม่รู้ด้วยเหตุนี้หรือไม่สังเกตว่าเมืองหลวงกรุงอัสตานาจึงมีการสร้างอาคารที่ได้ชื่อว่า “ใหญ่ที่สุดในเอเชียกลาง” หลายแห่ง World Pulse ไปทุกทีก็ได้เจอสิ่งก่อสร้างใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิมน่าตื่นเต้นตระการตาไปเสียทุกครั้ง

เริ่มต้นจากเมื่อสี่ปีก่อน  World Pulse ได้ไปเยือนกรุงอัสตานาครั้งแรก ระหว่างวันที่ 4-6 ก.ย.2562 ในงานประชุมนักเขียนเอเชีย (The First Forum of Asian Countries’ Writers) ที่คาซัคสถานจัดขึ้นเป็นครั้งแรก ตอนนั้นเมืองหลวงยังใช้ชื่อว่า “นูร์ซุลตัน” เพื่อเป็นเกียรติแด่ “นูร์ซุลตัน นาซาร์บาเยฟ” ประธานาธิบดีคนแรกของรัฐเอกราชคาซัคสถานหลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียต เจ้าภาพได้นำคณะสื่อมวลชนนานาชาติไปเยี่ยมชมสถานที่สำคัญในเมืองหลวงหลายแห่งรวมถึงมัสยิดใหญ่ (Grand Mosque)

ล่วงเข้าเดือน พ.ย.2565 World Pulse มีโอกาสไปเยือนอัสตานาอีกครั้งตอนไปทำข่าวการเลือกตั้งประธานาธิบดี อ่านโปรแกรมเยี่ยมเยือนพบว่ามีการไปเยี่ยมชมมัสยิดใหญ่ด้วย ในใจก็นึกว่า ที่นี่เคยไปมาแล้ว แต่ที่ไหนได้ กลายเป็นมัสยิดใหญ่แห่งใหม่ ใหญ่กว่าเดิม!!! เพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือน ส.ค.2565 เป็นมัสยิดใหญ่สุดแห่งเอเชียกลางและใหญ่ติดอันดับท็อปเท็นของโลก พื้นที่รวม 68,062 ตารางเมตร รองรับประชาชนละหมาดได้พร้อมกัน 2.35 แสนคน มีหออะซานสี่เสา ความสูง 130 เมตรโดมใหญ่ยาว 83.2 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลาง 62 เมตรการตกแต่งภายในใช้พรมทอมือทำจากขนแกะแท้ใหญ่ที่สุดในโลก โมเสกแก้วทำมือ 25 ล้านชิ้น จารึกพระนามอัลเลาะห์ 99 พระนาม ประตูทางเข้าแกะสลักจากไม้เนื้อแข็งแอฟริกา ถือเป็นประตูไม้สูงที่สุดบานหนึ่งของโลก มัสยิดแห่งนี้ไม่เพียงเป็นแหล่งปฏิบัติศาสนกิจ แต่ยังเป็นพื้นที่เปิดกว้างสำหรับกิจกรรมอื่นๆ ทั้งศูนย์การเรียนรู้ พิพิธภัณฑ์หรือสนามเด็กเล่น เรียกได้ว่าเป็นพื้นที่ของชีวิต  ยล ‘อัสตานา’ คาซัคสถาน เมืองแห่งแลนด์มาร์ก (Grand Mosque ภาพโดย Katsuhiro Asagiri)

ยล ‘อัสตานา’ คาซัคสถาน เมืองแห่งแลนด์มาร์ก (บรรยากาศภายนอก)

ยล ‘อัสตานา’ คาซัคสถาน เมืองแห่งแลนด์มาร์ก

เดือน ต.ค.ปีนี้ World Pulse ได้ไปเยือนอัสตานาอีกครั้งในงานการประชุมเลขาธิการสภาผู้นำศาสนาโลกและศาสนาดั้งเดิมครั้งที่ 21 เมื่อไปงานประชุมเกี่ยวกับศาสนาก็ต้องไปเยี่ยมชมสถานที่เกี่ยวกับศาสนา มัสยิดใหญ่เป็นอีกแห่งหนึ่งที่คณะผู้สื่อข่าวนานาชาติต้องไป หลายคนเคยมาแล้ว หลายคนเพิ่งมาเป็นครั้งแรก สำหรับ World Pulse คราวก่อนไปตอนหิมะตก คราวนี้ไปช่วงฤดูใบไม้ร่วง ความงดงามแตกต่างกัน ปีนี้ศูนย์การเรียนรู้และพิพิธภัณฑ์ของมัสยิดเปิดให้บริการเต็มรูปแบบ ตอกย้ำภาพพื้นที่ชีวิตนอกเหนือจากการเป็นสถานที่ปฏิบัติศาสนกิจ 

พูดถึงศาสนาแม้ประชากรส่วนใหญ่ 70% ของคาซัคสถานจะนับถือศาสนาอิสลาม แต่คาซัคสถานมีความหลากหลายในด้านศรัทธาและความเชื่อ คาซัคสถานเป็นรัฐโลกย์วิสัยที่มีถึงเกือบ 18 ศาสนาเด่น ได้รับการรับรองเสรีภาพทางความเชื่อไว้ในรัฐธรรมนูญ สังคมพหุวัฒนธรรมของคาซัคสถานมีประชากร 19.8 ล้านคน มีศาสนสถาน 3,200 แห่ง สมาคมศาสนาราว 4,000 สมาคม นอกจากมัสยิดใหญ่แล้วกรุงอัสตานายังเป็นที่ตั้งของอาสนวิหารอัสสัมชัญ  (Assumption Cathedral) โบสถ์ออร์โธดอกซ์ใหญ่สุดในเอเชียกลาง (อีกแล้ว) งามตระหง่านด้วยความสูง 68 เมตร ประกอบด้วยห้องนมัสการสามห้อง ห้องหลักสร้างขึ้นเพื่อถวายพระเกียรติการเสด็จสู่สวรรค์ทั้งกายและวิญญาณของพระแม่มารีย์ผู้บริสุทธิ์ ห้องนมัสการด้านขวา สร้างเพื่อเป็นเกียรติแด่นักบุญซิริลและเมโทเดียส ส่วนห้องซ้ายถวายเกียรติแด่อัครทูตไมเคิลและองค์อื่นๆ ห้องนมัสการด้านล่างอุทิศแด่ผู้พลีชีพและผู้สารภาพใหม่แห่งคาซัคสถาน ยล ‘อัสตานา’ คาซัคสถาน เมืองแห่งแลนด์มาร์ก

(อาสนวิหารอัสสัมชัญ ภาพโดย Katsuhiro Asagiri)

อาสนวิหารอัสสัมชัญไม่ใช่ของใหม่ก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2549 รองรับประชาชนได้ถึง 4,000 คนที่อลังการมากคือภาพวาดฝาผนังสไตล์ศตวรรษที่ 18 ที่เรียกว่า “มอสโกบาโรก” (Moscow baroque) พื้นที่กว่า 6,000 ตารางเมตร 

ยล ‘อัสตานา’ คาซัคสถาน เมืองแห่งแลนด์มาร์ก

ตัวอาสนวิหารยังเป็นที่ตั้งของศูนย์วัฒนธรรม โรงเรียนสอนศาสนาวันอาทิตย์ และศูนย์เยาวชนออร์โธดอกซ์ และที่น่าประทับใจคือแม้ยิ่งใหญ่เพียงใด อาสนวิหารอัสสัมชัญกลับรายล้อมไปด้วยอพาร์ตเมนต์สะท้อนถึงการใช้ชีวิตที่ใกล้ชิดกันของผู้คนกับศาสนาในประเทศคาซัคสถาน  ยล ‘อัสตานา’ คาซัคสถาน เมืองแห่งแลนด์มาร์ก (บรรยากาศภายนอกอาสนวิหารอัสสัมชัญ)

ทั้งมัสยิดใหญ่และอาสนวิหารอัสสัมชัญเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ของสถาปัตยกรรมงดงามระดับแลนด์มาร์กมากมายในอัสตานา บนภูมิประเทศดั้งเดิมแบบทุ่งหญ้าสเตปป์กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา ยิ่งขับให้อาคารต่างๆ โดดเด่นมากขึ้น บวกกับผังเมืองที่สะอาดเป็นระเบียบทางเท้ากว้างน่าเดิน อัสตานาจึงเป็นเมืองที่ไปเยือนเพื่อตื่นตากับแลนด์มาร์กแห่งเอเชียกลางได้หลายครั้งไม่รู้เบื่อ