อิหร่านว่าไง! เรือดำน้ำสหรัฐติดโทมาฮอว์กถึงตะวันออกกลางแล้ว

อิหร่านว่าไง! เรือดำน้ำสหรัฐติดโทมาฮอว์กถึงตะวันออกกลางแล้ว

กองทัพสหรัฐแถลง เรือดำน้ำติดขีปนาวุธนำวิถีมาถึงตะวันออกกลางแล้ว คำประกาศที่ไม่ค่อยมีให้เห็นบ่อยนี้ถือเป็นการส่งสารเพื่อป้องปรามอริในภูมิภาค เมื่อรัฐบาลไบเดนพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้สงครามอิสราเอล-ฮามาสบานปลาย

เว็บไซต์ซีเอ็นเอ็นรายงาน กองบัญชาการกลางสหรัฐ แถลงผ่านโซเชียลมีเดียเมื่อวันอาทิตย์ (5 พ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น เรือดำน้ำชั้นโอไฮโอลำหนึ่งกำลังเข้ามาในน่านน้ำเขตความรับผิดชอบของตน ภาพที่โพสต์ประกอบคำประกาศดูเหมือนเรือดำน้ำลำดังกล่าวอยู่ในคลองสุเอซทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงไคโร ประเทศอียิปต์

โพสต์ดังกล่าวไม่ระบุชื่อเรือ แต่กองทัพเรือสหรัฐมีเรือดำน้ำติดขีปนาวุธนำวิถี (SSGN) 4 ลำ ซึ่งเคยเป็นเรือดำน้ำติดขีปนาวุธแล้วเปลี่ยนมาใช้เพื่อปล่อยยิงขีปนาวุธร่อนโทมาฮอว์ก ไม่ใช่ขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์

SSGN แต่ละลำสามารถบรรทุกโทมาฮอว์กได้ 154 ลูก มากกว่าที่ติดตั้งในเรือพิฆาตของสหรัฐถึง 50% และมากกว่าเกือบสี่เท่าเมื่อเทียบกับเรือดำน้ำโจมตีรุ่นล่าสุดของกองทัพเรือสหรัฐ โทมาฮอว์กแต่ละลูกสามารถบรรทุกหัวรบระเบิดแรงสูงได้ถึง 1,000 ปอนด์

คาร์ล ชัสเตอร์ อดีตผู้อำนวยการปฏิบัติการศูนย์บัญชาการข่าวกรองร่วมแปซิฟิกของสหรัฐ เผยกับซีเอ็นเอ็นในปี 2564 ว่า

SSGN สามารถยิงได้อย่างรุนแรงในเวลาอันรวดเร็ว โทมาฮอว์ก 154 ลูก ส่งพลังมหาศาลอย่างรวดเร็ว ไม่มีฝ่ายตรงข้ามสหรัฐรายใดเมินเฉยกับภัยคุกคามนี้ได้

โทมาฮอว์กเคยประกาศศักดาเมื่อเดือน มี.ค.2554 เมื่อเรือดำน้ำติดขีปนาวุธนำวิถียูเอสเอสฟลอริดา ยิงโทมาฮอว์กเกือบ 100 ลูกทำลายเป้าหมายในลิเบียระหว่างปฏิบัติการ Odyssey Dawn ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ใช้ SSGN ในการสู้รบ

โดยปกติกองทัพจะไม่ประกาศข่าวความเคลื่อนไหวหรือปฏิบัติการของกองเรือดำน้ำติดขีปนาวุธและขีปนาวุธนำวิถี แต่จะปิดข่าวเงียบแทบจะเป็นความลับ

การที่สหรัฐประกาศออกมาย่อมเป็นการส่งสารป้องปรามโดยตรงไปยังอิหร่านและตัวแทนอิหร่านในตะวันออกกลาง เรือดำน้ำลำนี้จะเข้ามาสมทบกับกองเรือกองทัพเรือสหรัฐที่เข้าพื้นที่ก่อนแล้ว รวมถึงกองเรือบรรทุกเครื่องบินสองกองและกลุ่มเรือสะเทินน้ำสะเทินบกอีกหนึ่งกลุ่ม

เดือน เม.ย. กองทัพเรือประกาศว่า เรือยูเอสเอสฟลอริดา SSGN หนึ่งในสองลำที่ประจำการบริเวณชายฝั่งตะวันออกกำลังปฏิบัติการในตะวันออกกลาง

เดือน มิ.ย. กองทัพเรือประกาศข่าวเรือยูเอสเอสมิชิแกน SSGN หนึ่งในสองลำที่ประจำการชายฝั่งตะวันตก ไปเยือนเกาหลีใต้เพื่อแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบของสหรัฐต่อพันธมิตรในอินโดแปซิฟิกรายนี้

คำประกาศว่าเรือดำน้ำติดตั้งขีปนาวุธนำวิถีอยู่ในตะวันออกกลางเกิดขึ้นในช่วงที่นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐกำลังเดินสายประชุมกับพันธมิตรในภูมิภาค ทริปนี้บลิงเคนเยือนทั้งตุรกี อิรัก อิสราเอล เวสต์แบงก์ จอร์แดน และไซปรัส

ด้านนายลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐหารือกับนายโยอาฟ แกลแลนต์ รมว.กลาโหมของอิสราเอลเมื่อวันอาทิตย์ (5 พ.ย.) นอกเหนือจากย้ำถึงความจำเป็นในการปกป้องพลเรือนและให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมสู่กาซาแล้ว นายออสตินกล่าวด้วยว่า สหรัฐมุ่งมั่นป้องปราม “ไม่ให้รัฐหรือตัวแสดงที่ไม่ใช่รัฐพยายามทำให้วิกฤตินี้บานปลาย” ชัดเจนว่าหมายถึงอิหร่านและฮิซบอลเลาะห์ กลุ่มติดอาวุธที่อิหร่านหนุนหลัง

ทั้งนี้ กลุ่มติดอาวุธที่อิหร่านหนุนหลังโจมตีกองกำลังสหรัฐในอิรักและซีเรียอยู่บ้างประปราย แต่สหรัฐต้องการบอกให้ชัดว่า การโจมตีใหญ่กว่านี้ถือเป็นการยั่วยุให้ต้องตอบโต้หนัก

นายออสตินกล่าวเมื่อไม่กี่วันก่อนว่า การส่งกำลังเข้ามาเพิ่มเติมก็เพื่อ “เพิ่มความพยายามป้องปรามในภูมิภาค เพิ่มกำลังคุ้มกันกองทัพสหรัฐในภูมิภาค และเพื่อช่วยการป้องกันของอิสราเอล”

นายพลจัตวาแพต ไรเดอร์ โฆษกเพนตากอลกล่าวไว้เมื่อวันที่ 23 ต.ค.

“เราจะทำทุกอย่างและดำเนินทุกมาตรการที่จำเป็น ปกป้องกองกำลังสหรัฐและผลประโยชน์ของเราในต่างแดน ขอบอกอีกครั้ง ไม่มีใครอยากเห็นความขัดแย้งขยายวง และนั่นคือเป้าหมายแรกของเรา แต่เราก็ไม่เคยลังเลที่จะปกป้องกองกำลังของเราด้วย”