เปิดแหล่งทุนสนับสนุนฮามาส 'เงินบริจาค-คริปโทฯ' คือขุมทรัพย์สำคัญ

เปิดแหล่งทุนสนับสนุนฮามาส 'เงินบริจาค-คริปโทฯ' คือขุมทรัพย์สำคัญ

เปิดแหล่งทุนสนับสนุนฮามาส พบเงินบริจาคจากพันธมิตร และคริปโทเคอร์เรนซีเป็นขุมทรัพย์สำคัญ ซึ่งอิหร่านบริจาคให้ฮามาสมากถึง 100 ล้านดอลลาร์ ขณะที่กาตาร์เคยบริจาคให้ฉนวนกาซาสูงถึง 30 ล้านดอลลาร์ต่อเดือน และบริษัทวิจัยคาดว่าฮามาสถือคริปโทฯ ราว 14.5 ล้านบาท

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวันศุกร์ (13 ต.ค.66) ว่า กองกำลังติดอาวุธฮามาส ใช้เครือข่ายการเงินทั่วโลกคอยหนุนกองกำลังของตน ซึ่งเป็นเงินที่มาจากองค์กรการกุศล และชาติพันธมิตร โดยส่งเงินผ่านอุโมงค์กาซา หรือใช้คริปโทเคอร์เรนซีเพื่อหลีกเลี่ยงการคว่ำบาตรจากนานาชาติ

อย่างไรก็ตาม ฮามาสอาจเผชิญกับอุปสรรคในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน หลังมือปืนของกลุ่มสั่งหารประชาชนอิสราเอลหลายร้อยคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพลเรือน ขณะที่อิสราเอลก็โจมตีฉนวนกาซาอย่างหนัก

  • ขุมรายได้ฮามาส ทะลุ 300 ล้านดอลลาร์

ช่วงต้นสัปดาห์นี้ ตำรวจอิสราเอลเผยว่า เจ้าหน้าที่ระงับบัญชีธนาคารบาร์เคลย์ ที่เชื่อมโยงกับการให้ทุนแก่กลุ่มฮามาส และบล็อกบัญชีคริปโทเคอร์เรนซีที่ใช้รวบรวมเงินบริจาค แต่ไม่ระบุว่ามีกี่บัญชี และมีมูลค่าสินทรัพย์เท่าไร

ความเคลื่อนไหวนี้ เผยให้เห็นเครือข่ายทางการเงินที่ซับซ้อน และมีความถูกต้องตามกฎหมายในบางช่องทาง 

“แมทธิว เลวิตต์” อดีตเจ้าหน้าที่ต่อต้านกลุ่มก่อการร้ายอาวุโสของสหรัฐ คาดว่า ขุมรายได้ของฮามาสอาจมีมากกว่า 300 ล้านดอลลาร์ (ราว 1 หมื่นล้านบาท) ซึ่งมาจากการเก็บภาษีธุรกิจ รวมถึงมาจากประเทศอื่นๆ ทั้งอิหร่าน กาตาร์ และองค์กรการกุศลต่างๆ

เมื่อเดือนก.พ. มีรายงานระบุว่า ฮามาสได้เงินทุนเพิ่มจากประเทศอ่าวอาหรับ เงินบริจาคจากชาวปาเลสไตน์ ชาวต่างชาติประเทศอื่นๆ และองค์กรการกุศลของตนเอง

อย่างไรก็ตาม รอยเตอร์ไม่สามารถเข้าถึงเจ้าหน้าที่ในกลุ่มฮามาสเพื่อยืนยันข้อมูลดังกล่าวได้

  • ผู้ประสบความสำเร็จใช้คริปโทฯ

ฮามาส ที่ถูกคว่ำบาตรในฐานะกลุ่มก่อการร้าย ได้เพิ่มการใช้คริปโทเคอร์เรนซี บัตรเครดิต และข้อตกลงการค้าที่วางแผนไว้ เพื่อหลีกเลี่ยงมาตรการข้อจำกัดอื่นๆ เพิ่มเติมจากนานาชาติ

“ทอม โรบินสัน” ผู้ร่วมก่อตั้ง Elliptic ธุรกิจวิจัยบล็อกเชน บอกว่า

ฮามาสเป็นหนึ่งในผู้ใช้คริปโทฯ ที่ประสบความสำเร็จ ในการใช้เป็นช่องทางหาเงินก่อการร้าย

อย่างไรก็ตาม ปีนี้ฮามาสบอกว่าจะเลิกใช้คริปโทฯ หลังขาดทุนย่อยยับ และระบบบัญชี และประเภทของคริปโทฯ สามารถติดตามการทำธุรกรรมได้

ทีอาร์เอ็มแลปส์ ผู้วิจัยบล็อกเชน เปิดเผยผ่านบทความวิจัยสัปดาห์นี้ว่า การระดมทุนคริปโทเคอร์เรนซีเพิ่มขึ้น หลังเกิดความรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มฮามาส และเสริมว่า หลังการสู้รบเมื่อเดือนพ.ค.2564 คริปโทฯที่ฮามาสถืออยู่มีมูลค่ามากกว่า 400,000 ดอลลาร์ (14.5 ล้านบาท)

ตั้งแต่เกิดเหตุความรุนแรงเมื่อสัปดาห์ก่อน ทีอาร์เอ็มเผยว่า กลุ่มสนับสนุนที่เชื่อมโยงกับฮามาส ลงทุนในคริปโทฯ เพิ่มเพียง 2,000-3,000 ดอลลาร์

“สาเหตุเป็นไปได้ที่ยอดบริจาคเงินให้ฮามาสตกต่ำ เป็นเพราะเจ้าหน้าที่อิสราเอลจับจ้องพวกเขาอยู่” อีอาร์เอ็มเสริม และว่าอิสราเอลยึดคริปโทฯ จากบัญชีที่เกี่ยวข้องกับฮามาสได้หลายสิบล้านดอลลาร์แล้ว โดยระหว่างเดือนธ.ค.2564 และเดือนเม.ย. ปีนี้ อิสราเอลอายัดบัญชีคริปโทฯ ที่เกี่ยวข้องกับฮามาสได้ เกือบ 190 บัญชี

  • อิหร่านคอยหนุน

รัฐบาลสหรัฐเผยว่า อิหร่านให้เงินสนับสนุนฮามาสสูงถึง 100 ล้านดอลลาร์ต่อปี โดยใช้วิธีโยกย้ายเงินผ่านบริษัทเชลล์หลายแหล่ง หรือบริษัทที่ไม่มีการดำเนินงานใดๆ ใช้เป็นทางผ่านการทำธุรกรรมการเงิน ผ่านการขนส่ง และผ่านรูปแบบสินทรัพย์โลหะมีค่าเจ้าหน้าที่อิหร่านยังไม่ตอบกลับคำขอแสดงความเห็น

นอกจากนี้ กระทรวงการคลังสหรัฐ รายงานว่า เมื่อปีก่อน ฮามาสสร้างเครือข่ายลับของบริษัทจัดการเงินทุน 500 ล้านดอลลาร์ ตั้งแต่ตุรกีไปจนถึงซาอุดีอาระเบีย และประกาศคว่ำบาตรธุรกิจเหล่านั้นในเดือนพ.ค. ปี 2565

  • กาตาร์คอยช่วยเหลือ

ประเทศกาตาร์ก็มอบเงินให้กับฉนวนกาซาหลายล้านดอลลาร์ตั้งแต่ 2557 ซึ่งมีอยู่ช่วงหนึ่งให้เงิน 30 ล้านดอลลาร์ต่อเดือน เพื่อช่วยดำเนินการสร้างโรงไฟฟ้า สนับสนุนครอบครัว และข้าราชการที่ยากจนของรัฐบาลที่ควบคุมโดยฮามาสเจ้าหน้าที่กาตาร์ตอบกลับคำขอความเห็นของรอยเตอร์ว่า

กาตาร์ให้เงินช่วยเหลือครอบครัวปาเลสไตน์ที่ยากจนที่สุด 100 ดอลลาร์ และขยายเวลาการใช้ไฟฟ้า เพื่อเสถียรภาพและความมั่นคงของครอบครัวชาวปาเลสไตน์

แหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องกับการให้เงินทุนฮามาส บอกว่า จริงๆ แล้ว การให้เงินทุนของกาตาร์ผ่านทางอิสราเอล โดยเงินทุนโอนผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์จากกาตาร์ไปอิสราเอล เจ้าหน้าที่อิสราเอล และสหประชาชาติ (ยูเอ็น) จึงถือเงินสดอยู่เหนือชายแดนกาซา

ทั้งนี้ เงินสดเหล่านั้นจะนำไปแจกจ่ายให้ครอบครัวยากจน และเจ้าหน้าที่รัฐในกาซาโดยตรง และผู้รับต้องเซ็นรับรองว่าได้รับเงินแล้ว จากนั้นเอกสารสำเนารายชื่อหนึ่งฉบับจะส่งไปยังอิสราเอล อีกฉบับส่งไปให้ยูเอ็น และอีกหนึ่งฉบับส่งให้กาตาร์

รัฐบาลกาตาร์เผยว่า ความช่วยเหลือกาตาร์ที่มอบให้กับฉนวนกาซา ได้รับความร่วมมือกับอิสราเอล ยูเอ็น และสหรัฐโดยตรง

ไม่กี่ปีที่ผ่านมา กาตาร์ซื้อเชื้อเพลิงจากอิสราเอลให้โรงไฟฟ้าในฉนวนกาซา และส่งเชื้อเพลิงจากอียิปต์ให้ฉนวนกาซา ซึ่งฮามาสสามารถขายต่อได้และนำเงินที่ได้ไปเป็นเงินเดือน

“สตีเฟน ไรเมอร์” จากสถาบันคลังสมองรอยัล ยูไนเต็ด เซอร์วิส “กลยุทธ์ทางการเงินของฮามาสจะพัฒนา เพื่อหลีกเลี่ยงวิกฤติเข้าถึงแหล่งเงินทุนเหล่านี้”

 

อ้างอิง:Reuters

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์