จับตาผลกระทบทางศก.สงครามอิสราเอล-ฮามาส

จับตาผลกระทบทางศก.สงครามอิสราเอล-ฮามาส

นักวิเคราะห์มีความเห็นว่า สงครามนี้จะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ แต่ความเสียหายทางเศรษฐกิจจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ทหารกองหนุนของอิสราเอลต้องละทิ้งงานในประเทศ

สงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสในปาเลสไตน์ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจ และเศรษฐกิจโดยรวม ล่าสุด บริษัทชั้นนำระดับโลกหลายแห่งระงับการดำเนินงานในอิสราเอลเป็นการชั่วคราว บางแห่งขอให้พนักงานในอิสราเอลทำงานจากที่บ้าน สำนักข่าวรอยเตอร์ได้รวบรวมบริษัทที่ได้รับผลกระทบจากการทำสงครามครั้งนี้ ซึ่งมีตั้งแต่ธุรกิจสายการบินไปจนถึงธนาคาร

ธุรกิจสายการบิน

ธุรกิจสายการบินทั้งสหรัฐ ยุโรป และเอเชียหลายแห่ง ต้องระงับเที่ยวบินตรงไปยังกรุงเทลอาวีฟหลายเที่ยวบิน รวมทั้งสายการบินเดลต้าแอร์ไลน์เผยว่า บริษัทจะจับตาสถานการณ์ในภูมิภาคอย่างใกล้ชิดและได้ตัดสินใจยกเลิกเที่ยวบินไปเทลอาวีฟจนถึง 31 ต.ค.

ขณะที่สายการบินแอล อัล ของอิสราเอล เตรียมเพิ่มไฟลต์ เพื่อนำกองหนุนกลับอิสราเอลเป็นส่วนหนึ่งของการระดมพลครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์

ด้านรอยัล แคริบเบียน บริษัทเดินเรือสำราญสัญชาติอเมริกัน ปรับแผนเดินทางหลายโปรแกรมในพื้นที่เสี่ยงและจะแจ้งให้ลูกค้าที่ได้รับปลกระทบทราบโดยตรง เช่นเดียวกับ คาร์นิวัล บริษัทเดินเรือสำราญสัญชาติอเมริกันอีกแห่งที่ปรับแผนการเดินทางเช่นกัน
 

บริษัทน้ำมัน

เชฟรอน บริษัทผลิตน้ำมันและก๊าซรายใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของสหรัฐ ได้รับคำสั่งจากกระทรวงพลังงานของอิสราเอล ให้ระงับดำเนินงานแหล่งก๊าซธรรมชาติทามาร์ นอกชายฝั่งภาคเหนือของประเทศ

ธนาคาร

รอยเตอร์รายงานว่า เจพีมอร์แกนเชส ขอให้พนักงาน 200 คน ในอิสราเอล ทำงานจากที่บ้าน ส่วนโกลด์แมนแซคส์ ให้พนักงานในกรุงเทลอาวีฟ ทำงานจากที่บ้านเช่นกันพร้อมทั้งปิดสำนักงานในกรุงเทลอาวีฟ โดยบริษัทจะจับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิดแบบวันต่อวัน

ส่วนมอร์แกน สแตนลีย์ ที่มีสำนักงานในกรุงเทลอาวีฟ ให้พนักงานทำงานจากที่บ้าน
 

ธุรกิจโลจิสติกส์

ท่าเรืออดานี ของโกตัม อดานี มหาเศรษฐีชาวอินเดีย ที่ดำเนินงานท่าเรือไฮฟาทางภาคเหนือของอิสราเอล บอกว่า ท่าเรือดำเนินงานอยู่ แต่จะจับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และจัดทำแผนธุรกิจอย่างต่อเนื่อง  ส่วนเฟดเอ็กซ์ ธุรกิจดิลิเวอรีระดับโลก ระงับบริการในอิสราเอล

บริษัทเทคโนโลยี

อินวิเดีย ผู้ผลิตชิปที่ใช้สำหรับปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) และคอมพิวเตอร์กราฟิกรายใหญ่ที่สุดของโลก ยกเลิกกำหนดการประชุมสุดยอดในกรุงเทลอาวีฟสัปดาห์หน้า ซึ่งงานนี้  เจนเซ่น หวง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) เตรียมปราศรัยในงานดังกล่าวด้วย

บริษัทค้าปลีก

เอชแอนด์เอ็ม ธุรกิจเสื้อผ้า เผยว่า พาร์ทเนอร์แฟรนไชส์ในท้องถิ่น ปิดร้านเอชแอนด์เอ็มในอิสราเอลชั่วคราว  ส่วนอินดิเตกซ์ ธุรกิจเสื้อผ้าสัญชาติสเปน เผยว่า บริษัทยังคงปิดร้านชั่วคราวและระยะเวลาการคืนสินค้าจะขยายออกไปอีก 30 วัน หลังกลับมาเปิดร้าน

ธุรกิจยา

อีลี ลิลลี แอนด์ โค ธุรกิจยา เผยว่า บริษัทกำลังจับตาดูสถานการณ์ในอิสราเอลอย่างใกล้ชิด และจะดำเนินการทุกอย่างที่จำเป็น เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับเพื่อนร่วมงานในและใกล้พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ และยังคงดำเนินการต่าง ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าการดำเนินธุรกิจที่สำคัญยังคงอยู่ในระดับที่สามารถจัดหาซัพพลายยาลิลลีให้แก่ผู้ป่วยในภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง

ด้าน‘อียัล วินเทอร์’ ศาสตราจารย์เศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยฮิบรูในกรุงเยรูซาเล็ม ซึ่งศึกษาผลกระทบทางเศรษฐกิจจากสงครามของอิสราเอล ให้ความเห็นว่า สงครามนี้จะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ แต่ความเสียหายทางเศรษฐกิจจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ทหารกองหนุนของอิสราเอลต้องผละจากงานในประเทศ ที่มีประชากรกว่า 9 ล้านคน และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศมีมูลค่า 5.2169 แสนล้านดอลลาร์

วินเทอร์ อธิบายเพิ่มเติมว่า ในสถานการณ์ปัจจุบัน อุตสาหกรรมที่รับผลกระทบแล้วแทบจะในทันทีคืออุตสาหกรรมท่องเที่ยว แต่ เมื่อการต่อสู้ขัดแย้งสิ้นสุดลง ก็มีแนวโน้มทางบวกที่การท่องเที่ยวจะพลิกกลับมาฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน

ส่วนบรรดานักลงทุนในตลาดวอลล์สตรีท มีความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับปัญหาอุปทานโพแทช ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกสำคัญของอิสราเอล โดยราคาหุ้นกลุ่มบริษัทปุ๋ยหลายรายการพุ่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เช่นหุ้นของโมซาอิก และซีเอฟ อินดัสตรีส์ ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบ 7%

ขณะที่ดัชนีหุ้นหลักของอิสราเอลปรับตัวลงแล้ว 6% แต่ก็ไม่มีคำเตือนใหม่จากหน่วยงานจัดอันดับเกี่ยวกับหนี้ของอิสราเอลแต่อย่างใด ทุกฝ่ายต่างกังวลเกี่ยวกับปัญหาทางเศรษฐกิจก่อนการสู้รบ แต่ส่วนใหญ่ก็เชื่อมั่นว่า แม้สถานการณ์จะดูมืดมนอย่างมากหลังเกิดสงคราม แต่ในที่สุด การปฏิรูปประเทศและเศรษฐกิจของอิสราเอลจะสำเร็จลุล่วง โดยหลายฝ่ายเชื่อมั่นว่า ในที่สุดแล้วอิสราเอลจะเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะ แม้จะต้องสูญเสียและเสียหายหนัก