ไทย 'ปรับท่าที' เป็นกลางสงคราม 'อิสราเอล-ฮามาส' สนับสนุนแนวทาง 2 รัฐ

ไทย 'ปรับท่าที' เป็นกลางสงคราม 'อิสราเอล-ฮามาส' สนับสนุนแนวทาง 2 รัฐ

รมช. ต่างประเทศจักรพงษ์ แสงมณีรายงานผลการประชุม Rapid Response Center โดยไทยปรับท่าทีทางการ โดยประกาศวางตัว ‘เป็นกลาง’ ต่อสงครามอิสราเอล-ฮามาสโดยสนับสนุนแนวทาง 2 รัฐ จากเดิมที่นายกฯเศรษฐา ทวีสิน ขึ้นข้อความตามกระทรวงต่างประเทศเบื้องต้น ‘ประณาม’ ผู้ก่อเหตุต่ออิสราเอล

สรุปประเด็นการประชุมดังนี้ 1. ไทยวางตัวเป็นกลางต่อปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้น โดยสนับสนุนแนวทางสองรัฐ (Two-State solution) ที่อยู่เคียงคู่กัน โดยขอให้ทั้งสองฝ่ายเจรจาเพื่อหาแนวทางแก้ไขและหาทางออกร่วมกันอย่างยั่งยืนและสันติ  ทั้งนี้ ไทยขอประณามความรุนแรงที่เกิดขึ้นในสถานการณ์ดังกล่าว โดยมิได้เจาะจงกลุ่มใด

2. มีคนไทยพำนักอยู่ในอิสราเอลประมาณ 30,000 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานภาคการเกษตร และได้รับรายงานว่ามีคนไทยเสียชีวิตทั้งหมด 12 คน โดยได้รับการยืนยันจากทางการอิสราเอลแล้ว 2 คน ส่วนอีก 10 คนได้รับทราบข้อมูลจากนายจ้าง โดยยังไม่มีชื่อและต้องรอการตรวจสอบจากทางการอิสราเอลต่อไป

นอกจากนี้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 8 คน โดยบาดเจ็บสาหัส 2 คน และถูกลักพาตัว 11 คน

3. ที่ประชุมเน้นเตรียมความพร้อมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อสถานการณ์เอื้ออำนวยและจำเป็นต้องอพยพคนไทยออกจากอิสราเอลจะได้ดำเนินการได้อย่างทันท่วงที

พร้อมกับกำลังพิจารณาร่วมกับคณะทูตในอิสราเอลถึงความจำเป็นในการอพยพคนไทยออกมาจากอิสราเอลโดยรัฐบาลอิสราเอลให้คำมั่นในการดูแลความปลอดภัยคนต่างชาติอย่างเต็มที่

4. ที่ประชุมเห็นควรที่จะดำเนินการตามแนวทาง ดังนี้ (1) อพยพคนไทยจากพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบออกไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย (2) แสวงหามิตรประเทศในการอพยพคนไทย

(3) กองทัพอากาศมีความพร้อมในการอพยพคนไทยภายใน 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ การเดินทางกลับประเทศไทยจะเป็นไปตามความสมัครใจของคนไทย 5. สำหรับการประสานงานเรื่องคนไทยถูกควบคุมตัวได้มอบหมายให้สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประสานกับผู้แทนปาเลสไตน์ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ เพื่อแสดงความห่วงกังวลและขอความเห็นใจในการปล่อยตัวคนไทยที่ถูกลักพาตัว ซึ่งเป็นผู้บริสุทธิ์ และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสถานการณ์แต่อย่างใด