เยนอ่อนดึงนักลงทุนสิงคโปร์ซื้ออสังหาฯ ญี่ปุ่น

เยนอ่อนดึงนักลงทุนสิงคโปร์ซื้ออสังหาฯ ญี่ปุ่น

รายงานฉบับใหม่ระบุ นักลงทุนต่างชาติกำลังหันกลับมาหาตลาดอสังหาริมทรัพย์ญี่ปุ่น เนื่องจากเงินเยนอ่อนค่าและเศรษฐกิจฟื้นตัวหนุนภาคโลจิสติกส์และบริการ

เว็บไซต์เซาท์ไชนามอร์นิงโพสต์เผยรายงานจากบริษัทที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์ “ไนท์แฟรงก์” เผยแพร่เมื่อวันที่ 12 ก.ย. ว่า นักลงทุนแห่เข้าซื้ออสังหาฯ ญี่ปุ่นด้วยเหตุผลเรื่องเงินเฟ้อเบาบางและต้นทุนการเงินเอื้ออำนวยด้วย

สิงคโปร์เข้าไปลงทุนด้านอสังหาฯ ในญี่ปุ่นมากที่สุดเกือบ 3 พันล้านดอลลาร์ ระหว่างเดือน ม.ค.-ก.ย. เหนือกว่าสหรัฐที่ลงทุน 2.5 พันล้านดอลลาร์ และแคนาดาราว 1 พันล้านดอลลาร์

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์อยู่ในอันดับสี่ ตามด้วยนักลงทุนจากฮ่องกงที่เข้าไปลงทุนในญี่ปุ่นราว 750 ล้านดอลลาร์ และฝรั่งเศส

ทาเคชิ อาคากิ หัวหน้าฝ่ายวิจัยตลาดญี่ปุ่น บริษัทบริการอสังหาริมทรัพย์โจนส์แลงลาซาล เผยว่า ตลาดการลงทุนอสังหาฯ ญี่ปุ่นปีนี้โดดเด่นมาก คึกคักยิ่งกว่าประเทศอื่นๆ
 

ข้อมูลของบริษัทช่วงครึ่งปีแรกชี้ว่า ปริมาณธุรกรรมทั่วโลกลดลง 54% เนื่องจากหลายเขตเศรษฐกิจกำลังเผชิญความท้าทายนานัปการ อาทิ เงินเฟ้อ การขึ้นดอกเบี้ยแต่ในช่วงเวลาดังกล่าวญี่ปุ่นกลับทำธุรกรรมเพิ่มขึ้น 52%

ตลาดสำนักงานทั่วโลกได้รับผลกระทบหนักตั้งแต่โควิด-19 ระบาดในปี 2563 ปัจจุบันซานฟรานซิสโกมีอัตราว่างราว 28% เมืองหลักอื่นๆ ในสหรัฐส่วนใหญ่อัตราว่างเกินกว่า 20% ตรงข้ามกับญี่ปุ่นที่อัตราสำนักงานว่างแค่ 4.8%

ตลาดญี่ปุ่นยังได้แรงหนุนจากการที่พนักงานกลับเข้าออฟฟิศอย่างรวดเร็ว พนักงานกว่า 80% ของประเทศเข้าออฟฟิศแล้ว ขณะที่ในหลายพื้นที่ของสหรัฐ ตัวเลขยังคงต่ำกว่า 50% ส่วนยุโรปอยู่ที่ 60%

ภาคโลจิสติกส์แข็งแกร่งเช่นกัน ขณะที่ธุรกรรมโรงแรมเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา

บลูมเบิร์กรายงานว่า ปีนี้กองทุนความมั่งคั่งแห่งรัฐสิงคโปร์ “จีไอซี” ซื้อคลังสินค้าหกแห่งในญี่ปุ่นจากยักษ์ใหญ่วาณิชธนกิจสหรัฐ “แบล็กสโตน” ในราคา 800 ล้านดอลลาร์