'จีน-อินเดีย'ผลิตไฟฟ้าพลังน้ำต่ำสุด สวนทางผลิตพลังงานจากฟอสซิล

'จีน-อินเดีย'ผลิตไฟฟ้าพลังน้ำต่ำสุด สวนทางผลิตพลังงานจากฟอสซิล

เอ็มเบอร์ (Ember) องค์กรด้านสิ่งแวดล้อมและพลังงานสะอาดระดับโลกเผยแพร่ข้อมูลว่า การผลิตไฟฟ้าพลังน้ำในเอเชียลดลงในอัตราเร็วที่สุดในรอบหลายทศวรรษ เนื่องจากจีนและอินเดียลดการผลิตลงอย่างมาก

เอ็มเบอร์ (Ember) องค์กรด้านสิ่งแวดล้อมและพลังงานสะอาดระดับโลกเผยแพร่ข้อมูลว่า การผลิตไฟฟ้าพลังน้ำในเอเชียลดลงในอัตราเร็วที่สุดในรอบหลายทศวรรษ เนื่องจากจีนและอินเดียลดการผลิตลงอย่างมาก ส่งผลให้หน่วยงานกำกับดูแลกฎระเบียบด้านพลังงานต้องรับมือกับอุปสงค์ไฟฟ้าที่พุ่งขึ้นและสภาพอากาศที่ไม่แน่นอน ด้วยการหันไปพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลมากขึ้น

จีนและอินเดีย ซึ่งผลิตไฟฟ้าคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 3 ใน 4 ของผลผลิตไฟฟ้าทั่วเอเชีย และเป็นผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากที่สุดลดการใช้พลังงานหมุนเวียนลงและหันไปใช้พลังงานฟอสซิลเพิ่มขึ้น เพื่อชดเชยภาวะขาดแคลนไฟฟ้าพลังน้ำและการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้น

ประเทศเศรษฐกิจใหญ่ ๆ หลายแห่งของเอเชียได้เผชิญกับการขาดแคลนพลังงานในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากปัญหาสภาพอากาศสุดขั้ว ได้แก่ อุณหภูมิที่ร้อนจัดและปริมาณน้ำฝนที่ลดลงทั่วพื้นที่ส่วนใหญ่ทางตอนเหนือของจีนและเวียดนาม รวมถึงพื้นที่ทางตะวันออกและทางตอนเหนือของอินเดีย

เอ็มเบอร์ ระบุว่าการใช้เชื้อเพลิงที่ก่อให้เกิดมลพิษ เช่น ถ่านหิน ซึ่งมีการใช้เพิ่มมากขึ้น เพื่อตอบสนองอุปสงค์ด้านไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และการขาดแคลนอุปทาน ยิ่งเน้นย้ำถึงความท้าทายในการบรรลุเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

ในช่วง 7 เดือนจนถึงเดือน ก.ค. ผลผลิตไฟฟ้าพลังน้ำของเอเชียลดลง 17.9% ส่วนพลังงานที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล เพิ่มขึ้น 4.5%

นายคาร์ลอส ดิอาซ ตอร์เรส ผู้อำนวยการฝ่ายตลาดพลังงานและก๊าซของริสตาด เอเนอร์จี (Rystad Energy) กล่าวว่า "แม้ว่าการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมในเอเชียจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง แต่ผลผลิตจากโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลก็เพิ่มขึ้นเช่นกันในปีนี้ ซึ่งเป็นผลมาจากการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำลดลงอย่างมาก"

"คลื่นความร้อนที่รุนแรงและกินเวลายาวนานทั่วภูมิภาคส่งผลให้ระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำลดต่ำลง ซึ่งสิ่งนี้ทำให้ต้องมีแหล่งพลังงานทางเลือกเพื่อช่วยตอบสนองความต้องการไฟฟ้า" นายตอร์เรส กล่าว

การวิเคราะห์ข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) ระบุว่า การผลิตไฟฟ้าพลังน้ำของจีนในช่วง 8 เดือนจนถึงเดือนส.ค. ลดลง 15.9% ซึ่งเป็นอัตราเร็วที่สุดนับตั้งแต่ปี 2532

ส่วนที่อินเดีย ข้อมูลการวิเคราะห์ของรัฐบาลระบุว่า การผลิตไฟฟ้าพลังน้ำลดลง 6.2% ในช่วง 8 เดือนจนเดือนส.ค. ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2559 ในขณะที่ส่วนแบ่งการผลิตไฟฟ้าลดลงเหลือ 9.2% ซึ่งต่ำที่สุดในรอบอย่างน้อย 19 ปี