เปิดสาเหตุ 'เบอร์มิงแฮม' เมืองใหญ่อังกฤษ ประกาศ 'ล้มละลาย'

เปิดสาเหตุ 'เบอร์มิงแฮม' เมืองใหญ่อังกฤษ ประกาศ 'ล้มละลาย'

ช็อก! ทั่วเกาะอังกฤษ เมื่อ “เบอร์มิงแฮม” เมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ ประกาศ “ล้มละลาย” พร้อมโทษรัฐบาลอนุรักษนิยมที่จัดสรรงบประมาณน้อยเกินไปมาหลายปี ขณะที่ท้องถิ่นบางแห่งก็ประสบชะตากรรมเดียวกันก่อนหน้านี้

Keypoints:

  • เบอร์มิงแฮม ประกาศล้มละลาย ตามมาตรา 114 ทำให้ไม่สามารถเบิกจ่ายงบประมาณใหม่ในปีนี้ ยกเว้นการใช้จ่ายจำเป็น
  • ปัญหา “เงินเฟ้อรุนแรง” ประกอบกับต้นทุนที่สูงขึ้นในการดูแลทางสังคมสำหรับผู้ใหญ่และอัตรารายได้ที่ลดลงของภาคธุรกิจ ทำให้เกิด “มหาพายุ” ต่อสถานะการคลังของเมือง
  • สภาเมืองต้องจ่ายค่าชดเชยมูลค่าสูงเกือบ 34,000 ล้านบาท ให้แก่กลุ่มลูกจ้างหญิงทั้งในอดีตและปัจจุบัน ในคดีจ่ายค่าตอบแทนไม่เท่าเทียมกันระหว่างเพศ

ไม่ได้มีเพียง “ธุรกิจ” เท่านั้นที่ล้ม แต่รัฐบาลท้องถิ่นก็ “ล้มละลาย” ได้เช่นกัน ล่าสุด สภาเมืองเบอร์มิงแฮมของสหราชอาณาจักร แถลงเมื่อวันอังคาร (5 ก.ย.) ว่า ได้ประกาศใช้ “มาตรา 114” ภายใต้กฎหมายการเงินรัฐบาลท้องถิ่น ปี 2532 ที่ส่งผลให้ท้องถิ่นจะไม่สามารถเบิกจ่ายงบประมาณใหม่ในปีนี้ ยกเว้นการใช้จ่ายที่จำเป็น เช่น การดูแลประชาชนกลุ่มเปราะบาง บริการสาธารณะขั้นพื้นฐาน และภาระผูกพันทางการเงินที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้

ขณะที่บริการจากรัฐที่คาดว่าจะถูกปรับลดงบประมาณนั้น รวมไปถึงการทำความสะอาดถนน การดูแลรักษาสวนสาธารณะ ห้องสมุด บริการเกี่ยวกับเด็กที่อยู่นอกเหนือจากการช่วยเหลือทางสังคม และการเก็บขยะที่อาจต้องเว้นรอบเก็บนานขึ้น

  • 2 พรรคการเมืองโยนบาปใส่กัน

บรรดาผู้นำในสภาเมืองเบอร์มิงแฮมซึ่งพรรคแรงงานครองเสียงข้างมาก เรียกร้องให้ใช้ “มาตรการที่จำเป็น” ในการบริหารงบประมาณรายจ่ายให้กลับมามีรากฐานที่แข็งแกร่งอีกครั้ง พวกเขาระบุว่า ปัญหาคาราคาซังซึ่งรวมไปถึงการเปิดใช้ระบบคอมพิวเตอร์ใหม่ในหน่วยงานท้องถิ่น ถูกนำไปรวมกับแผนหั่นงบรายจ่าย 1,000 ล้านปอนด์โดยรัฐบาลพรรคอนุรักษนิยมนับตั้งแต่เข้าสู่อำนาจในปี 2553

นอกจากนั้น ปัญหา “เงินเฟ้อรุนแรง” ประกอบกับต้นทุนที่สูงขึ้นในการดูแลทางสังคมสำหรับผู้ใหญ่และอัตรารายได้ที่ลดลงของภาคธุรกิจ ทำให้เกิด “มหาพายุ” ต่อสถานะการคลังของเมืองเบอร์มิงแฮม ซึ่งมีประชากรราว 1.1 ล้านคน

อย่างไรก็ตาม สมาชิกสภาเมืองเบอร์มิงแฮมจากพรรคอนุรักษนิยม ตอบโต้ว่า การบริหารจัดการงบประมาณสาธารณะ “ที่ไร้ประสิทธิภาพ” ของพรรคแรงงานต่างหาก ที่เป็นต้นเหตุของปัญหานี้

สำหรับสาเหตุหลักที่เบอร์มิงแฮมขาดแคลนเงินทุนมหาศาลนั้น ส่วนใหญ่เป็นผลจากการที่สภาเมืองต้องจ่ายค่าชดเชยมูลค่าสูงถึง 760 ล้านปอนด์ หรือเกือบ 34,000 ล้านบาท ให้แก่กลุ่มลูกจ้างหญิงทั้งในอดีตและปัจจุบัน ที่รวมตัวยื่นฟ้องในคดีประวัติศาสตร์เกี่ยวกับการจ่ายค่าตอบแทนไม่เท่าเทียมกันระหว่างเพศ

  • ยังค้างจ่ายค่าชดเชยอีกกว่า 3 หมื่นล้าน

การจ่ายเงินค่าชดเชยดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการต่อสู้ทางกฎหมายกับสหภาพแรงงานที่ดำเนินมาอย่างยาวนาน

สภาเมืองเบอร์มิงแฮมเปิดเผยในเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า ได้จ่ายค่าชดเชยให้กับพนักงานหญิงไปแล้ว 1,100 ล้านปอนด์ (เกือบ 50,000 ล้านบาท) แต่ยังเหลือยอดหนี้อีกราว 650-750 ล้านปอนด์ (ราว 28,988-33,448 ล้านบาท) ทำให้มีภาระเพิ่มขึ้นเดือนละ 5-15 ล้านปอนด์ (ราว 178-669 ล้านบาท) ซึ่งสภาเมืองไม่สามารถหาเงินมาชำระได้

นอกจากเมืองเบอร์มิงแฮมแล้ว ยังมีสภาท้องถิ่นอีกหลายแห่งในสหราชอาณาจักรที่ประกาศล้มละลายตามมาตรา 114 ตั้งแต่ปีที่แล้ว เช่น โวคกิง ครอยดอน และเทอร์ร็อก หลังจากแผนลงทุนหลายโครงการประสบปัญหาทางการเงิน และเผชิญกับการปรับลดงบประมาณ

  • ท้องถิ่นส่อขาดแคลนงบ 9 หมื่นล้านปีนี้

สมาคมองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นสหราชอาณาจักร (LGA) ประเมินว่า ภายในปีงบประมาณนี้ สภาเมืองต่าง ๆ ในอังกฤษและเวลส์จะประสบปัญหาขาดแคลนเงินทุนเพิ่มเป็น 2,000 ล้านปอนด์ (เกือบ 90,000 ล้านบาท) หรือมากกว่านั้น

สัปดาห์ที่แล้ว กลุ่ม SIGOMA ซึ่งมีสภาท้องถิ่น 47 แห่งภายใต้สมาคม LGA ร่วมเป็นสมาชิก เตือนว่า 1 ใน 10 ของสมาชิกกลุ่ม มีความเสี่ยงที่จะต้องยื่นเรื่องตามกฎหมายเพื่อประกาศว่าไม่สามารถหารายได้ให้เพียงพอกับรายจ่ายได้อีกต่อไป

สตีเฟน โฮตัน ประธาน SIGOMA กล่าวว่า รัฐบาลอังกฤษจำเป็นต้องตระหนักถึงแรงกดดันเงินเฟ้ออันหนักหน่วง ที่ทางการท้องถิ่นต้องรับมือมาตลอด 12 เดือนหลังสุด

“ตอนนี้ระบบจัดสรรงบประมาณล่มสลายโดยสมบูรณ์ สภาท้องถิ่นต่าง ๆ ทำงานมาได้ถึง 13 ปีก็ถือว่าปาฏิหาริย์แล้ว แต่สุดท้ายก็ไม่เหลืออะไรเลยอยู่ดี” โฮตันระบุ

อ้างอิง: AFP, Financial Times