'จีน' จ่อโค่นเยอรมนี-ญี่ปุ่น สู่ประเทศส่งออกยานยนต์มากที่สุดในโลก

'จีน' จ่อโค่นเยอรมนี-ญี่ปุ่น สู่ประเทศส่งออกยานยนต์มากที่สุดในโลก

จีน ผู้นำด้านการผลิตรถยนต์ของโลก จ่อโค่นแบรนด์รถยนต์เยอรมนีและญี่ปุ่น ขึ้นเป็นประเทศส่งออกยานยนต์อันดับต้น ๆ ของโลก ด้วยแรงหนุนจากการเป็นผู้นำตลาดรถยนต์ไฟฟ้า

สำนักข่าวดิ อีโคโนมิสต์ เผย (10 ส.ค.) ว่า หลายสิบปีแล้วที่เยอรมนีและญี่ปุ่น ต่างแย่งชิงตำแหน่งผู้นำด้านการส่งออกรถยนต์ของโลก แต่ยุคการครอบครองตลาดทั้งสองแบนด์กำลังถึงจุดจบ เมื่อจีน ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของโลก กำลังแย่งชิงตำแหน่งด้านการส่งออกอีกราย

  • เส้นทางสู่ผู้นำส่งออกรถยนต์

เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความพยายามขยายตลาดไปยังต่างประเทศของผู้ผลิตรถยนต์จีนหยุดชะงัก โดยในปี 2558 จีนส่งออกรถยนต์ได้เพียง 375,000 คัน น้อยกว่าอินเดีย และส่งออกได้เทียบเท่าการส่งออกรถยนต์ของเยอรมนีและญี่ปุ่นในหนึ่งเดือน

จากนั้นประมาณปี 2563 จีนก็เปลี่ยนยุทธศาสตร์ใหม่ จนในปี 2564 จีนส่งออกรถยนต์ได้ 1.6 ล้านคัน และในปี 2565 ยอดส่งออกทะลุ 2.7 ล้านคัน และคาดว่ายอดขายรถยนต์จีนในต่างประเทศจะเติบโตขึ้นอีกในปี 2566

ข้อมูลจากศุลกากร แสดงให้เห็นว่า จีนส่งออกรถยนต์ได้มากกว่า 2 ล้านคันในช่วง 6 เดือนแรกของปี หรือเท่ากับส่งออกมากกว่า 10,000 คันต่อวัน

ปกติแล้วอุตสาหกรรมรถยนต์จีนส่งออกไปยังประเทศยากจน แต่ตอนนี้ลูกค้าชาติตะวันตกเริ่มซื้อรถยนต์ที่ผลิตในจีนเป็นครั้งแรก และในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 จีนส่งออกรถยนต์ไปยังออสเตรเลียได้มากกว่า 100,000 คัน เพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่าครั้งแรก เมื่อเทียบแบบปีต่อปี ขณะที่ยอดจำนห่ายรถยนต์ในสเปนเพิ่มขึ้น 17 เท่า สู่ระดับ 70,000 คัน แต่ยอดส่งออกรถยนต์เหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นแบรนด์ตะวันตก และ 1 ใน 10 ของยอดส่งออกเป็นของแบรนด์เทสลา

  • ยานยนต์ไฟฟ้าทางถนัดของจีน

อย่างไรก็ตาม การที่จีนส่งออกรถยนต์ได้เพิ่มมากขึ้นหลายเท่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความเชี่ยวชาญด้านยานยนต์ไฟฟ้าของจีน

ในด้านศักยภาพการผลิตทั้งหมด จีนไม่เคยเชี่ยวชาญด้านเครื่องยนต์สันดาปภายใน ที่มีชิ้นส่วนประกอบยากหลายร้อยชิ้น แต่เมื่อเริ่มมีความนิยมรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ที่มีกลไกลและการผลิตง่ายกว่า จึงช่วยให้จีนตามทันคู่แข่งได้

การลงทุนเทคโนโลยีอีวีของจีน ระหว่างปี 2552 และ 2562 มูลค่าประมาณ 676,000 ล้านหยวน ช่วยหนุนให้จีนกลายเป็นผู้นำด้านการส่งออกเช่นกัน

ปัจจุบัน รถยนต์ไฟฟ้าคิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 5 ของยอดขายรถยนต์ในจีน และคิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 3 ของการส่งออกจีน

ขณะที่รถยนต์ไฟฟ้าของแบรนด์ญี่ปุ่นและเยอรมนีคิดเป็นสัดส่วนเพียง 4% และ 20% ของการส่งออกในแต่ละประเทศ ตามลำดับ

  • สงครามหนุนส่งออกรถยนต์จีน

นอกจากนี้ สงครามยังหนุนการส่งออกรถยนต์ของจีนไปยังรัสเซียด้วย เพราะหลังจากรัสเซียรุกรานยูเครนเมื่อเดือน ก.พ. ผู้ผลิตรถยนต์ชาติตะวันตกต่างหยุดดำเนินธุรกิจในรัสเซีย การออกจากตลาดของแบรนด์ตะวันตก เปิดทางให้คู่แข่งจีนเข้าแย่งส่วนแบ่งในตลาดรัสเซียได้

ในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ รัสเซียนำเข้ารถยนต์จากจีนเกือบ 300,000 คัน มูลค่ารวมราว 4,500 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 6 เท่าจากปี 2565

บริษัทวิจัยออโตสแตท เผยว่า ในเดือน ก.ค. รัสเซียนำเข้ารถยนต์จีนคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 80%

อลิกซ์พาร์ทเนอร์ส บริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน คาดว่า ยอดขายรถยนต์จีนในต่างประเทศอาจแตะถึง 9 ล้านคัน ภายในปี 2573 มากกว่าการส่งออกรถยนต์ของญี่ปุ่นในปี 2565 2 เท่า

แม้แบรนด์ในจีนยังไม่เป็นที่รู้จักในชาติตะวันตกมากนัก แต่รถยนต์ราคาถูก ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วรถยนต์จีนมีราคาประมาณ 40% ของรถยนต์เยอรมนี เริ่มเป็นที่นิยมในประเทศตลาดเกิดใหม่อย่างเช่น บราซิล แล้ว