ผลสำรวจชี้ แรงงานเอเชีย ใช้เวลาไปกับการทำงานยุ่ง ๆ ที่ไม่เกิดประสิทธิผล

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีเผยว่า แรงงานในเอเชีย ใช้เวลาไปกับการทำงานแบบ performative work มากที่สุด หรืออีกนัยคือ การให้ความสำคัญกับงานที่ยุ่งยาก มากกว่างานที่สร้างประสิทธิผลจริง ๆ เช่น การส่งอีเมลทั้งวันทั้งคืน

ซึ่งข้อมูลดังกล่าวมาจากผลการศึกษาของสแล็ก บริษัทในเครือเซลส์ฟอซ และธุรกิจวิจัยควอลทริกซ์ ที่สำรวจข้อมูลจากพนักงานออฟฟิศมากกว่า 18,000 คน รวมถึงตำแหน่งงานระดับผู้บริหาร

“เดเร็ก เลนนีย์” ผู้ให้ความรู้ด้านเทคโนโลยีในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของสแล็ก บอกว่า Performative work รวมการใช้เวลาไปกับการประชุมที่นำเสนอแต่ความสำเร็จ มากกว่าการประชุมเพื่อตัดสินใจหรือแก้ไขปัญหาด้วย

ผลสำรวจดังกล่าวพบว่า พนักงานในอินเดีย 43%, ญี่ปุ่น 37%, และสิงคโปร์ 36% ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการทำงานแบบ Performative work มากกว่าค่าเฉลี่ยโลกที่ 32%

• 9 ประเทศที่ใช้เวลาไปกับการทำงานแบบ performative work 

1.อินเดีย 43%

2.ญี่ปุ่น 37%

3.สิงคโปร์ 36%

4.ฝรั่งเศส 31%

5.อังกฤษ 30%

6.ออสเตรเลีย 29%

7.เยอรมนี 29%

8.สหรัฐ 28%

9.เกาหลีใต้ 28%

และทั้ง 3 ประเทศยังรั้งท้าย ประเทศที่ใช้เวลาไปกับการทำงานจริง ๆ หรือการทำงานที่สร้างประสิทธิผล

• 9 ประเทศที่ใช้เวลาไปกับการทำงานแบบ real work

1.เกาหลีใต้ 72%

2.ออสเตรเลีย 71%

3.เยอรมนี 71%

4.สหรัฐ 71%

5.อังกฤษ 70%

6.ฝรั่งเศส 69%

7.ญี่ปุ่น 63%

8.สิงคโปร์ 63%

9.อินเดีย 57%

เลนนีย์ เผยว่า แรงงานที่ให้ความสำคัญกับการทำตัวให้ยุ่ง ได้รับอิทธิพลมาจากแนวทางที่ผู้นำหรือหัวหน้า ใช้วัดประสิทธิภาพการทำงาน

“ผู้นำมักตัดสินประสิทธิภาพการทำงานจากการปฏิบัติงานที่มองเห็นได้ แทนที่จะให้ความสำคัญกับผลลัพธ์ของงาน การขาดความต่อเนื่องในการทำงาน จึงนำไปสู่ความพยายามที่สูญเปล่า  ซึ่งเป็นการแสดงว่าตนทำงานดีต่อหน้าผู้นำ” เลนนีย์ กล่าว

รายงานนี้ ระบุด้วยว่า ตัวชี้วัดการปฏิบัติงานที่มองเห็นได้โดยทั่วไป เช่น จำนวนชั่วโมงทำงานออนไลน์หรือปริมาณการส่งอีเมล เป็นมาตรการวัดประสิทธิภาพการทำงานอันดับต้น ๆ ของผู้นำบริษัท จึงทำให้พนักงานอาจรู้สึกดดันที่ต้องทำงานนานขึ้น ต้องตอบอีเมลทันที หรือต้องเข้าร่วมทุกประชุม

ตัวอย่างเช่น พนักงานในสิงคโปร์ 44% บอกว่า ประสิทธิภาพการทำงานได้รับผลกระทบจากการใช้เวลาไปกับการประชุม และส่งอีเมลมากเกินไป

รายงานพบอีกว่า แรงงานส่วนใหญ่ อยากให้ผู้นำวัดประสิทธิผลของการทำงานให้แตกต่างกันออกไป