เที่ยวทุกประเทศใน 10 ปี ไม่ง้อเครื่องบิน! ทำได้ไง?

ชายเดนมาร์กอ้างว่า เป็นคนแรกที่ไปทุกประเทศทั่วโลกด้วยการเดินทางเพียงครั้งเดียวโดยไม่โดยสารเครื่องบินเลย นับตั้งแต่ออกจากบ้านเมื่อ 10 ปีก่อน
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเรื่องราวของทอร์บียอร์น พีเดอร์เซน ชายเดนมาร์ก วัย 44 ปี หรือที่เพื่อนๆ เรียกว่า “ธอร์” อดีตเจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพของสหประชาชาติ เขาออกเดินทางเมื่อวันที่ 10 ต.ค.2556 ด้วยรถไฟ รถบัส เรือ กระทั่งเดินเท้าไปมาแล้วทุกประเทศรวม 203 ประเทศทั่วโลก
มหากาพย์การเดินทางของธอร์เริ่มขึ้นเมื่อต้นปี 2556 เมื่อเขาได้รับอีเมลที่เปลี่ยนแปลงชีวิตเขาไปตลาดกาล
“พ่อส่งลิงค์บทความชิ้นหนึ่งมาให้ ผมก็คลิกอ่าน แล้วเข้าใจทันทีว่า ไม่เคยมีใครในประวัติศาสตร์ที่ไปทุกประเทศโดยไม่นั่งเครื่องบิน ความจริงข้อนี้โดนใจผมเต็มๆ”
ไม่นานธอร์ก็แพ็กกระเป๋าที่กลายเป็นการผจญภัยสิบปี ระยะทาง 359,000 กิโลเมตร
ภารกิจของเขาไม่มีอะไรมากแค่เดินทางไปเยือนทุกประเทศโดยไม่ต้องนั่งเครื่องบินเท่านั้น แต่ธอร์รู้ดีว่า จริงๆ แล้วไม่มีอะไรง่ายเลย “บางครั้งผมต้อรอวีซ่า บางครั้งต้องรอเรือ มีอยู่ครั้งหนึ่งผมนั่งบนหลังคารถบรรทุกสองวันในคองโก และต้องหยุดกลางดึกเพราะเสี่ยงถูกโจรปล้น”
ติดในฮ่องกงช่วงโควิดระบาด
เดือน ม.ค.2563 ธอร์มาถึงฮ่องกงโดยเรือขนส่งสินค้าจากสหพันธรัฐไมโครนีเซีย เหลืออีกเพียง 9 ประเทศเท่านั้นก็บรรลุภารกิจ ได้แก่ ปาเลา, วานูอาตู, ตองกา, ซามัว, ตูวาลู, นิวซีแลนด์, ออสเตรเลีย และมัลดีฟส์
ชายเดนมาร์กผู้นี้มีกำหนดออกจากฮ่องกงด้วยเรือสินค้าเพื่อไปยังปาเลา แต่การเดินทางถูกระงับเพราะโรคระบาด
“ตอนที่ประกาศให้โควิดเป็นการระบาดใหญ่ทั่วโลก ผู้รู้เลยว่าเกมโอเวอร์แล้ว อย่างน้อยก็สักพักหนึ่ง”
แทนที่จะอยู่ฮ่องกง 4 วันตามที่วางแผนไว้ตอนแรก ธอร์อยู่ที่นั่นสองปีก่อน เมื่อพรมแดนเปิดเขาจึงขึ้นเรือสินค้าเดินทาง 27 วันไปออสเตรเลีย
“ผมมีเหตุผลทุกอย่างให้กลับบ้าน เลิกทริปนี้ซะ โดยเฉพาะช่วงโควิดระบาด เรื่องนี้กวนใจผม แต่ผมมุ่งมั่นและให้กำลังใจตัวเองว่า ถ้าคุณอยากบรรลุบางสิ่งบางอย่างในชีวิต มันไม่ง่ายเลย ความมุ่งมั่นเท่านั้นที่เป็นหนทางเดียวทำให้คุณบรรลุเป้าหมายได้ในที่สุด”
ระหว่างอยู่ฮ่องกง พีเดอร์เซนไม่ได้ปล่อยเวลาให้เสียเปล่า ได้ท่องเที่ยวปีนเขา ทำงานให้กับกาชาดฮ่องกง และบันทึกประสบการณ์ผ่านบล็อก Once Upon a Saga
แต่ที่แตกต่างกันคือ พีเดอร์เซนไม่เคยกลับบ้านที่เดนมาร์กเลยตลอดสิบปี ฮิวจ์สกลับได้รับอนุญาตให้บินกลับบ้านที่อังกฤษสองครั้งระหว่างการเดินทาง
“การไปทุกประเทศในโลกด้วยการเดินทางเพียงครั้งเดียว ไม่นั่งเครื่องบินเลยสักเที่ยว เป็นอะไรที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน” พีเดอร์เซนยืนยัน ตัวเขาได้ทดลองใช้การคมนาคมนานารูปแบบระหว่างเดินทาง ส่วนใหญ่เป็นรถบัสกับรถไฟ
“ผมได้รับสิทธิพิเศษไปต่างประเทศด้วยเรือสินค้า 25 ลำ เชื่อมทวีปและประเทศเกาะต่างๆ เคยนั่งเรือยอชท์สมรรถนะสูงด้วย ซึ่งสุดพิเศษ”
ระยะทางไม่เป็นอุปสรรครัก-แต่งงานออนไลน์
แม้ห่างกันด้วยระยะทาง แต่ความสัมพันธ์ระหว่างธอร์กับคนรักไม่มีปัญหา ตลอด 10 ปีเธอไปเยี่ยมเขา 27 ครั้งและในครั้งที่ 10 เขาได้คุกเข่าขอเธอแต่งงาน แต่น่าเสียดายโควิดทำให้พวกเขาต้องแต่งงานกันทางออนไลน์
เล เยรัม ภรรยา เผยว่า ความดื้อดึงของเขาที่ต้องการทำภารกิจให้สำเร็จเป็นสิ่งน่าชื่นชม แต่เธอก็รอคอย “ใช้ชีวิตประจำวันด้วยกัน”
ตามแผนการของธอร์เขาคิดว่าน่าจะใช้เวลามากที่สุดสี่ปี หรืออาจเป็นสามปีครึ่งถ้าเขาทำเวลาได้เร็ว
วันที่ได้กลับบ้าน
26 ก.ค.ที่ผ่านมา พีเดอร์เซนก้าวลงจากเรือขนส่งสินค้าบริษัทเมิร์สก ณ เมืองท่าออฮุสของเดนมาร์ก เสร็จสิ้นภารกิจเยือน 203 ประเทศทั่วโลก ประเทศสุดท้ายคือมัลดีฟส์เมื่อปลายเดือน พ.ค.
“ผมฝันมานานเรื่องการได้กลับบ้าน และวันนี้ก็ได้กลับแล้ว ในเวลาเดียวกันผมก็กังวลเรื่องอนาคต” พีเดอร์เซนกล่าวและว่าการกลับบ้านนั้นเป็นเรื่องหวานอมขมกลืน “ยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป ทุกอย่างผสมปนเปกันไปหมด” รวมถึงการเริ่มต้นการงานใหม่และปรับตัวให้เข้ากับชีวิตประจำวัน







