สถิติฆ่าตัวตาย ใน 'สิงคโปร์' พุ่งสูงสุด จากความกดดันสังคม-ปัญหาเศรษฐกิจ

สถิติฆ่าตัวตาย ใน 'สิงคโปร์' พุ่งสูงสุด จากความกดดันสังคม-ปัญหาเศรษฐกิจ

สถิติฆ่าตัวตาย ใน สิงคโปร์ สูงสุดเป็นประวัติการณ์ 476 ราย ในปี 2565 นับตั้งแต่ ปี 2543 บ่งชี้ถึงปัญหาความทุกข์ใจของชาวสิงคโปร์หลายอย่าง ทั้งความกดดันทางสังคม และเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก อ้างอิงข้อมูลจากบริษัทสามาริตันส์ ออฟ สิงคโปร์ (เอสโอเอส) จำกัด เผยว่า สถิติฆ่าตัวตายใน สิงคโปร์ สูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ ปี 2543 บ่งชี้ว่า ความทุกข์ใจของชาวสิงคโปร์มาจากปัจจัยหลายอย่าง รวมถึงความกดดันทางสังคม และเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน

เอสโอเอส เปิดเผยรายงานผ่านเว็บไซต์ ระบุว่า ในปี 2565 มีประชาชนสิงคโปร์เสียชีวิตด้วยการฆ่าตัวตาย 476 ราย ซึ่งจำนวนผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาวและผู้สูงอายุ และปัญหาการฆ่าตัวตายเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของคนกลุ่มอายุ 10-29 ปีของสิงคโปร์ ติดต่อกันเป็นปีที่ 4 หรือคิดเป็นสัดส่วน 39% ของการเสียชีวิตของคนกลุ่มนี้

จำนวนผู้เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้นดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงปัญหาสุขภาพจิตและการรับรู้ปัญหาของประชาชนในสิงคโปร์

จากรายงานขององค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) ระบุว่า สถิติการฆ่าตัวตายทั่วโลก ในปี 2562 คาดว่าอยู่ที่ประมาณ 703,000 ราย จนกลายเป็นหนึ่งในสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของโลก 

ดับเบิลยูเอชโอ ตั้งเป้าลดอัตราการฆ่าตัวตายทั่วโลกให้ได้ 1 ใน 3 ภายในปี 2573 แต่คาดว่า อัตราการฆ่าตัวตายที่ลดลงจาก 20 ปีก่อนจนถึงปี 2562 ประมาณ 36% ยังคงต่ำเกินไปที่จะทำให้บรรลุเป้าหมายลดสถิติดังกล่าว