'ลาฟรอฟ' เรียกร้อง UNSC เพิ่มเก้าอี้สมาชิก ปิดฉากการครองโลกของตะวันตก

'ลาฟรอฟ' เรียกร้อง UNSC เพิ่มเก้าอี้สมาชิก  ปิดฉากการครองโลกของตะวันตก

นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย กล่าวเรียกร้องให้ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) เพิ่มจำนวนสมาชิก เพื่อทำลายการครองโลกของชาติตะวันตก

นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย กล่าวเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) เพิ่มจำนวนสมาชิก โดยให้มีตัวแทนจากเอเชีย แอฟริกา และลาตินอเมริกาเข้าร่วมเพื่อทำลายการครองโลกของชาติตะวันตก

"ประเทศส่วนใหญ่ในโลกไม่ต้องการอยู่ภายใต้การปกครองของชาติตะวันตก" นายลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย กล่าว

นายลาฟรอฟกล่าวย้ำว่า ชาติตะวันตก โดยเฉพาะสหรัฐ กำลังพยายามที่จะขัดขวางไม่ให้รัสเซียและจีนดำเนินการอย่างอิสระภายใต้โลกหลายขั้ว

นอกจากนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ยังกล่าวว่า รัสเซียมักมีความแข็งแกร่งขึ้น หลังผ่านพ้นความยากลำบาก แม้มีหลายฝ่ายตั้งคำถามเกี่ยวกับเสถียรภาพของรัสเซีย หลังเกิดเหตุการณ์ไม่สงบเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

นายลาฟรอฟ กล่าวว่า การที่ชาติตะวันตกให้ความเห็นว่า การก่อกบฏของกลุ่มทหารรับจ้างวากเนอร์ ได้แสดงให้เห็นถึงภาวะไร้เสถียรภาพของรัสเซีย เป็นคำกล่าวของผู้ที่กำลังทำสงครามกับรัสเซีย

"เราไม่จำเป็นต้องอธิบายทุกสิ่งทุกอย่างกับใคร เรามีความโปร่งใส โดยท่านประธานาธิบดีและฝ่ายการเมืองของเราได้พูดเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว และถ้าตะวันตกยังคงมีข้อสงสัย มันก็เป็นเรื่องของคุณ" นายลาฟรอฟ กล่าว

คำกล่าวของรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียมีขึ้นในช่วงที่ค่าเงินรูเบิลของรัสเซียทรุดตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 15 เดือนเทียบดอลลาร์ในวันศุกร์(30มิ.ย.) ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ทางการเมืองในรัสเซีย หลังเกิดเหตุการณ์ไม่สงบในสัปดาห์ที่แล้ว

ทั้งนี้ รูเบิลดิ่งลงสู่ระดับ 88.6775 เทียบดอลลาร์ในวันนี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2565 ก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้นสู่ระดับ 88.25 ในเวลาต่อมา

นอกจากนี้ รูเบิลทรุดตัวลงแตะระดับ 96.3225 เทียบยูโร ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือน และร่วงลง 0.6% สู่ระดับ 12.13 เทียบหยวน หลังจากดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 14 เดือนก่อนหน้านี้

นักวิเคราะห์ระบุว่า แม้ว่าสถานการณ์ทางการเมืองรัสเซียได้คลี่คลายลง จากการที่นายเยฟเกนี ปริโกซิน หัวหน้ากลุ่มวากเนอร์ ตัดสินใจยุติการเคลื่อนกองกำลังมุ่งหน้าสู่กรุงมอสโก และได้เดินทางไปยังเบลารุส เพื่อแลกกับการไม่ถูกดำเนินคดีข้อหากบฏ แต่เหตุการณ์ดังกล่าวก็ได้แสดงให้เห็นถึงภาวะไร้เสถียรภาพของรัสเซีย