‘ทูตสหรัฐ’ ยันไม่แทรกแซง - เคลื่อนไหวเบื้องหลังการเมืองไทย

‘ทูตสหรัฐ’ ยันไม่แทรกแซง - เคลื่อนไหวเบื้องหลังการเมืองไทย

“ทูตสหรัฐ” ยืนยันไม่แทรกแซงการเมือง หรือหนุนพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง และไม่รู้เหตุจูงใจคนปล่อยข่าวทฤษฎีสมคบคิดที่มีขึ้น ส่วนเรื่องแก้ ม.112 เป็นเรื่องของคนไทย

"โรเบิร์ต เอฟ. โกเดค" เอกอัครราชทูตสหรัฐ กล่าวระหว่างการเสวนาโต๊ะกลมเกี่ยวกับความคืบหน้าเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างสหรัฐกับไทยในเรื่องสำคัญๆ และบรรยายถึงพัฒนาการในระหว่างการเฉลิมฉลองครบรอบ 190 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสหรัฐและไทย 

สื่อมวลชนได้หยิบยกเรื่องสถานการณ์เมียนมา และกรณีมีรายงานอ้างทฤษฎีสมคบคิดที่สหรัฐให้การสนับสนุนพรรคก้าวไกลที่ชนะเลือกตั้งขึ้นมาสอบถาม โดยทูตสหรัฐกล่าวว่า ผมไม่รู้เหตุจูงใจผู้ที่ปล่อยข่าวเท็จ

ผมอยากจะขอใช้เวลาสักครู่กล่าวถึงการเลือกตั้งของไทยครั้งล่าสุดนี้ ผมขอแสดงความยินดีกับชาวไทยที่ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งเป็นจำนวนมากและเจตจำนงของพวกเขาที่จะแสดงเสียงของตนให้เป็นที่ประจักษ์ สหรัฐ สนับสนุนการเลือกตั้งที่เสรี เป็นธรรม น่าเชื่อถือ และให้ทุกคนมีส่วนร่วม ซึ่งเป็นหนึ่งในค่านิยมขั้นพื้นฐานของเรา

ทูตไม่รู้เหตุจูงใจปล่อยเฟคนิวส์

สำหรับคำกล่าวอ้างถึงทฤษฎีสมคบคิดที่เป็นอันตรายและเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น ผมขอกล่าวอย่างชัดเจนว่า ข่าวลือที่ว่าสหรัฐ แทรกแซงการเลือกตั้งของไทยนั้นไม่เป็นความจริงอย่างแน่นอน เราไม่ได้สนับสนุนผู้ลงสมัครเลือกตั้งหรือพรรคการเมืองใด ๆ เราสนับสนุนเฉพาะกระบวนการประชาธิปไตย และมีแต่คนไทยด้วยกันเองเท่านั้นที่จะเลือกได้ว่าใครควรจะมาเป็นรัฐบาลของประเทศตัวเอง

‘ทูตสหรัฐ’ ยันไม่แทรกแซง - เคลื่อนไหวเบื้องหลังการเมืองไทย

"คนไทยเหมือนกับคนอเมริกันตรงที่เราให้ความสำคัญกับค่านิยม เสรีภาพ ความยุติธรรม ประชาธิปไตย และอธิปไตย เรารอคอยที่จะได้ทำงานร่วมกับรัฐบาลชุดใหม่ต่อไป" ทูตโกเดคกล่าว 

 

“สหรัฐไม่ได้แทรกแซงการเลือกตั้งของไทยแต่อย่างใด ทฤษฎีสมคบคิดและข่าวลือใดๆ ได้สร้างความเสียหายให้กับประชาชนหลายล้านคนที่ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งครั้งนี้ สำหรับสหรัฐในฐานะผู้เฝ้าติดตามสถานการณ์การ เราไม่ได้ให้การสนับสนุนผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใดเป็นพิเศษ สิ่งที่เราทำคือสนับสนุนกระบวนการประชาธิปไตย และประชาชนไทยก็มีสิทธิเลือกผู้นำและการปกครองของตนเอง” ทูตสหรัฐกล่าว 

เมื่อถามถึงความร่วมมือที่จะมีขึ้นกับรัฐบาลใหม่และข้อกังวลเป็นพิเศษ ทูตโกเดคกล่าวว่า การเลือกตั้งของไทยที่มีขึ้นในวันที่ 14 พ.ค.2566 ผมได้ออกไปสังเกตการณ์เลือกตั้งด้วยตนเอง และส่งเจ้าหน้าที่ไปร่วมสังเกตการณ์ยังหน่วยเลือกตั้งหลายแห่งทั่วกรุงเทพ และกระจายไปยังสถานที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ผมคิดว่าสิ่งที่ได้เห็นคือ กกต.ดำเนินการเลือกตั้งอย่างราบรื่นและเรียบร้อย

สหรัฐ แค่อยากเห็นกระบวนการทางประชาธิปไตย

เมื่อถามว่า กรณีถ้าพรรคก้าวไกลที่ชนะเลือกตั้งมา หากไม่ผ่านโหวตเสียงรับรองนายกรัฐมนตรีในสภา สหรัฐมองเรื่องนี้ว่าเป็นไปตามหลักประชาธิปไตยไหม ทูตสหรัฐบอกว่า  เป็นการตัดสินใจของ ส.ส.และส.ว. ตามกระบวนการภายใต้รัฐธรรมนูญ ผมยืนยันสหรัฐไม่แทรกแซงและไม่สนับสนุนพรรคการเมืองไหนเป็นพิเศษ แค่สหรัฐอยากเห็นกระบวนการทางประชาธิปไตยเท่านั้น 

เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคการเมืองของไทยที่ชนะเลือกตั้ง มีนโยบายแก้มาตรา 112 ทูตสหรัฐกล่าวว่า ผมขอเน้นย้ำในสิ่งที่ทำมาแล้วในช่วงที่ผ่านมา หลายๆคน รวมถึงสหรัฐเคารพสถาบันกษัตริย์มาอย่างยาวนาน และเราเข้าใจถึงความเคารพอย่างสูงของผู้คนที่ยึดมั่นในราชวงศ์

‘ทูตสหรัฐ’ ยันไม่แทรกแซง - เคลื่อนไหวเบื้องหลังการเมืองไทย

“การตัดสินใจเกี่ยวกับมาตรา 112 เป็นการตัดสินใจของรัฐบาลไทยที่ชนะการเลือกตั้งจะดำเนินการเรื่องดังกล่าว และสุดท้ายเป็นเรื่องประชาชนไทยตัดสินใจ” ทูตสหรัฐกล่าว

ยืนยันไม่มีฐานทัพสหรัฐในไทย

เรามีความสัมพันธ์อันยาวนานระหว่างกองทัพสหรัฐกับกองทัพไทย มีความร่วมมือด้านความมั่นคง เช่น การฝึกซ้อมเช่น คอบร้าโกลด์ เป็นต้น แต่ผมต้องการเน้นว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่แค่เรื่องการทหารหรือการป้องกัน ยังมีเรื่องการเตรียมพร้อมรับมือกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ การเตรียมพร้อมสำหรับวิกฤตการณ์ด้านมนุษยธรรม ยืนยันว่าฉันได้กล่าวถึงการเป็นหุ้นส่วนอันยาวนานกับไทย 

สหรัฐ มองไทยแสดงบทบาทนำแก้ปมเมียนมา

ผู้สื่อข่าวถามถึงบทบาทผู้นำไทยในอาเซียน และการจัดประชุมสนทนาอย่างไม่เป็นทางการของนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกับเมียนมาล่าสุด ซึ่งมีจีนเข้าร่วมด้วยนั้น ทูตโกเดคกล่าวว่า สหรัฐเคารพการเป็นศูนย์กลางของอาเซียนและความเป็นผู้นำของไทยเป็นอย่างมาก เห็นได้ชัดว่าอาเซียนมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อภูมิภาคนี้ และไทยมีบทบาทสำคัญ ทำสิ่งต่างๆ มากมายในฐานะผู้นำต่อสถานการณ์เมียนมา และผมคิดว่ามีโอกาสที่จะก้าวหน้าต่อไปในการจัดการกับสถานการณ์รุนแรงที่รัฐบาลทหารเมียนมาต้องรับผิดชอบ 

'สหรัฐ' เดินหน้ากดดันคว่ำบาตรเมียนมา

สหรัฐประณามความรุนแรงของรัฐบาลทหารเมียนมาที่กระทำต่อประชาชนของตนเอง มีความจำเป็นต้องยุติเรื่องนี้ให้ชัดเจน ตามที่ผมเข้าใจ การประชุมครั้งล่าสุดไม่ใช่การริเริ่มของอาเซียน และเรายินดีต่อความพยายามของอาเซียนในการแก้ไขปัญหาวิกฤติ รัฐบาลทหารต้องรับผิดชอบในการเรียกร้องดังกล่าว และดำเนินการตามฉันทามติ 5 ประการ เพื่อดำเนินการตามฉันทามติ 5 ประการต่อไป นี่เป็นสิ่งสำคัญสำหรับอนาคตของประชาชนเมียนมาทุกคน 

“เป็นเวลานานแล้วที่สหรัฐได้เจรจาเชิงลึกกับรัฐบาลไทย เรื่องสถานการณ์เมียนมา โดยหาวิธีการต่างๆ เพื่อผลักดันให้มีการปฏิบัติการฉันทามติ 5 ข้อ ช่วยเหลือผู้ลี้ภัยตามแนวชายแดน ทั้งนี้สหรัฐจะพิจารณาการคว่ำบาตร เพิ่มแรงกดดันรัฐบาลทหารเมียนมา เพื่อยุติความรุนแรงต่อประโยชน์” ทูตสหรัฐกล่าว