'K-culture'กระหึ่มสหรัฐ หนุนธุรกิจเกาหลีใต้ลงทุนเพิ่ม

'K-culture'กระหึ่มสหรัฐ หนุนธุรกิจเกาหลีใต้ลงทุนเพิ่ม

'K-culture'กระหึ่มสหรัฐ หนุนธุรกิจเกาหลีใต้ลงทุนเพิ่ม โดย BTS บอยแบนด์เกาหลีใต้ ติดชาร์ตบิลบอร์ดอันดับต้น ๆ และเมื่อปี 2563 การลงทุนโดยตรงจากต่างชาติของสหรัฐ โดยเฉพาะเกาหลีใต้ก็พุ่งขึ้น

ข้อมูลจากสำนักวิเคราะห์เศรษฐกิจสหรัฐ ระบุว่า การลงทุนจากเกาหลีใต้ในปี 2564 ทำสถิติสูงสุดที่ 72,500 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 15% จากปีก่อนหน้า มีการลงทุนในภาคการผลิต, บริการทางการเงิน, การค้าปลีกและค้าส่ง, อสังหาริมทรัพย์ และบริการเทคโนโลยี หากนับตั้งแต่ปี 2559 เมื่อ BTS เริ่มมีชื่อเสียงในสหรัฐ การลงทุนจากเกาหลีใต้พุ่งสูงขึ้นมากกว่า 70% แล้ว

“เจฟฟ์ ลี” หุ้นส่วนบริษัทร่วมทุน NLVC ในซิลิคอนวัลเลย์บอกว่า ความนิยม K-culture โดยเฉพาะเคป็อบในสหรัฐ ที่เป็นแรงขับเคลื่อนขนานใหญ่ของธุรกิจเกาหลีใต้ แสดงให้เห็นความเป็นไปไม่ได้ที่เป็นไปได้ เพราะธุรกิจเชิงวัฒนธรรมเป็นธุรกิจที่ขยายในตลาดต่างประเทศได้ยาก

“ผู้ประกอบการหนุ่มสาวชาวเกาหลีใต้รู้จักตลาดสหรัฐดี และไม่ใช่แค่พูดอังกฤษเก่งเท่านั้น แต่พวกเขายังเข้าใจว่าคนอเมริกันทำงานอย่างไร ซึ่งเป็นเพราะความสัมพันธ์ในการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมของทั้งสองประเทศที่มีมายาวนาน” ลี ย้ำ

ขณะที่ตลาดสหรัฐเต็มไปด้วยเงินทุนจากเกาหลีใต้ แต่หลายบริษัทยังคงเผชิญกับความท้าทายเหมือนกับชาติเอเชียอื่น ๆ
 

“ซอกจิน ชาง” ประธานบริษัทสตาร์ตอัป Born2Global Centre ที่ได้รับทุนจากกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเกาหลีใต้ บอกว่า ตลาดสหรัฐมีการแข่งขันสูงในทุกอุตสาหกรรม บริษัทเกาหลีใต้จึงจำเป็นต้องสร้างสัมพันธ์ร่วมกับนักลงทุนและชุมชนท้องถิ่น รวมถึงสร้างความคุ้นเคยกับรูปแบบธุรกิจอเมริกัน

“สื่อและวัฒนธรรมเกาหลี ช่วยสร้างความน่าสนใจและดึงดูดให้ลงทุนในสหรัฐ ซึ่งเป็นผลจากศักยภาพตลาด, ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี, การเข้าถึงเงินทุนและทรัพยากร, นโยบายที่เอื้อต่อการทำธุรกิจ และความร่วมมือเชิงกลยุทธ์” ชาง กล่าว

เมื่อปีก่อน “โจ ไบเดน” ประธานาธิบดีสหรัฐ และกลุ่มบริษัทเอสเคกรุ๊ปของเกาหลีใต้ ประกาศแผนลงทุนในเทคโนโลยีอเมริกัน 22,000 ล้านดอลลาร์ รวมถึงอุตสาหกรรมชิป ขณะที่กฎหมาย CHIPS มีเป้าหมายดึงดูดซัพพลายเชนชิปเข้าสู่ตลาดสหรัฐ 

ด้วยงบอุดหนุนของรัฐบาลภายใต้กฎหมายชิปส์และกฎหมายลดเงินเฟ้อ ทำให้อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และการผลิตยานยนต์น่าดึงดูดสำหรับนักลงทุนต่างชาติ

ซึ่งการพัฒนาตลาดสหรัฐที่สำคัญล่าสุด คือ บริษัทผลิตรถยนต์ฮุนไดวางแผนสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าขนาดใหญ่ ในเมืองซาวานนาห์ รัฐจอร์เจีย ซึ่งใหญ่กว่าโรงงานในรัฐอลาบามา 3 เท่า และเงินลงทุน 5,500 ล้านดอลลาร์ของฮุนได ที่จะนำซัพพลายเออร์ชิ้นส่วนมาตั้งร้านใกล้ ๆ เป็นเงินทุนพัฒนาเศรษฐกิจก้อนใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์รัฐจอร์เจีย

“แพต วิลสัน” เจ้าหน้าที่จากกรมพัฒนาเศรษฐกิจจอร์เจีย เผยว่า รัฐจอร์เจียมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับประเทศเอเชีย รัฐนี้มีสำนักงานพาณชิย์ในเกาหลีใต้ และผู้ว่าการรัฐคอยเยี่ยมเยียนเพื่อสานสัมพันธ์มาตลอด ทั้งยังช่วยให้ ครอบครัวชาวเกาหลีใต้หลายสิบครอบครัว ที่เป็นทั้งเจ้าหน้าที่และพนักงานของบริษัทลงทุน สามารถย้ายไปอยู่จอร์เจียได้ง่าย

การอำนวยความสะดวกจากรัฐบาลท้องถิ่น สามารถช่วยแรงงานหาที่อยู่และโรงเรียนสำหรับลูก ๆ ตั้งถิ่นฐานใหม่ในชานเมือง และในการรองรับครอบครัวใหม่ได้ โดยโรงเรียนท้องถิ่นได้เพิ่มครูชาวเกาหลีใต้และเพิ่มคลาสเรียนภาษาอังกฤษสำหรับชาวต่างชาติ รวมถึงบริการทางการแพทย์ได้รับสมัครหมอเกาหลีด้วย

“ยุนนี คิม” ประธานฝ่าญการลงทุนเกาหลีใต้ จากกรมพัฒนาเศรษฐกิจจอร์เจียบอกว่า รัฐจอร์เจียมีประชากรชาวเกาหลีใต้มากที่สุดเป็นอันดับ 3 ในสหรัฐ รองจากนิวยอร์กและแคลิฟอร์เนีย และคาดว่า ประชากรจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมมีแผนรองรับแรงงานจากฮุนไดซัพพลายเออร์ที่ดำเนินการอยู่

“แจ คิม” ผู้จัดการฝ่ายตรวจสอบจาก Aprio ได้เทียบโคเรียทาวน์ในแอตแลนตากับจอร์เจีย ในฐานะกรุงโซลทางใต้ของสหรัฐ ระบุว่า มีขนาดใหญ่กว่า สะอาดกว่า และมีร้านอาหารหลากหลายประเทศกว่าโคเรียทาวน์ในเมืองใหญ่เมืองอื่น ๆ

ทั้งนี้ อิทธิผลของโคเรียทาวน์และกระแสสื่อบันเทิงเกาหลี ช่วยเป็นสะพานเชื่อมช่องว่างระหว่างวัฒนธรรมทั้งสองประเทศ ทำให้บริษัทเกาหลีใต้จ้างงานในท้องถิ่นง่ายยิ่งขึ้น

“สตีฟ ชุง” ประธานเจ้าหน้าที่กิจการทั่วโลกของ บริษัทซีเจ อีแเอนด์เอ็ม กลุ่มบริษัทเกาหลีใต้ ผู้อยู่เบื้องหลังภาพยนตร์ ‘ปรสิต’ ความสำเร็จในการเผยแพร่วัฒนธรรมที่ช่วยหนุนหลายอุตสาหกรรม บอกว่า “ความสำเร็จของสื่อเกาหลี บริษัทซัมซุง และรถยนต์ฮุนได สร้างความเชื่อมั่นให้กับบริษัทเกาหลีใต้หลายแห่งที่เข้าถึงตลาดสหรัฐไม่ได้ ช่วยหนุนผู้ประกอบการหนุ่มสาวเกาหลีใต้ ให้เริ่มธุรกิจใหม่นอกประเทศ ซึ่งในอีก 10-20 ปีข้างหน้า คาดว่าจะมีบริษัทเกาหลีใต้ลงขยายตลาดไปสหรัฐมากขึ้น”