‘รัสเซีย’ ไม่ดำเนินคดี ‘กลุ่มแวกเนอร์’ ก่อกบฏ ปล่อยลี้ภัยต่างชาติ

‘รัสเซีย’ ไม่ดำเนินคดี ‘กลุ่มแวกเนอร์’ ก่อกบฏ ปล่อยลี้ภัยต่างชาติ

เกาะติดสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างกองทัพรัสเซียกับกลุ่มนักรบรับจ้างแวกเนอร์ที่สะท้อนถึงความไร้เอกภาพและเสถียรภาพในรัสเซีย ท้ายที่สุดก็คลี่คลาย หลังเจรจาตึงเครียดที่ได้ข้อตกลงทางบวกให้กับแวกเนอร์และรัฐบาลมอสโก

เมื่อกองทหารรับจ้าง แวกเนอร์ ตัดสินใจยอมถอยจากการเดินทัพมุ่งหน้าสู่กรุงมอสโก ในช่วงคืนที่ผ่านมา โดยให้สาเหตุว่าไม่อยากให้เกิดเหตุสถานการณ์นองเลือด

รัฐบาลรัสเซียได้ยกเลิกข้อกล่าวหาว่า ทหารรับจ้าง แวกเนอร์ เป็น กบฏ และผู้นำกองทหารแวกเนอร์ก็ได้ ลี้ภัย ไปที่เบลารุส

รัฐบาลรัสเซีย เปิดเผยว่า จะไม่มีการดำเนินคดีหรือตั้งข้อกล่าวหากับกลุ่ม นักรบรับจ้าง แวกเนอร์ ได้บุกยึดศูนย์บัญชาการใหญ่ของกองทัพรัสเซียที่เมืองรอสตอฟ 

ก่อนหน้านี้ กลุ่มแวกเนอร์ปฏิบัติการในช่วง 24 ชั่วโมง สั่งเคลื่อนทัพเข้าใกล้กรุงมอสโกจนห่างเพียงแค่ 200 กิโลเมตร แต่แล้วกองทหารรับจ้างแวกเนอร์ได้ตัดสินใจยุติการเคลื่อนทัพเข้าใกล้กรุงมอสโกและยอมถอยออกมา 

กลุ่มนักรบแวกเนอร์ให้เหตุผลว่าหลีกเลี่ยงการนองเลือด ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนับว่าเป็นวิกฤติด้านความมั่นคงครั้งรุนแรงที่สุด ที่เคยเกิดขึ้นในรัสเซีย ภายใต้การปกครองของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน

หลังจากที่กองทหารแวกเนอร์ ประกาศว่าจะถอยทัพออกจากมอสโกเพียงไม่กี่ชั่วโมง รัฐบาลรัสเซียประกาศว่า เยฟเกนี พริโกซิน หัวหน้ากลุ่มนักรบรับจ้างแวกเนอร์ จะได้ลี้ภัยไปที่เบลารุส 

แม้ว่าเมื่อวานนี้ ปูตินเพิ่งบอกว่าการหยิบอาวุธขึ้นมาต่อต้านกองทัพรัสเซียถือว่าเป็นการก่อกบฏและเป็นการแทงกันข้างหลัง แต่เพื่อเห็นแก่ ความดีความชอบของกลุ่มนักรบรับจ้างแวกเนอร์ที่สู้รบในยูเครนมาอย่างยากลำบาก จึงมีการยกเลิกข้อกล่าวหาดังกล่าวและยอมให้ผู้นำของแวกเนอร์ลี้ภัยไปที่เบลารุส 

ประธานาธิบดีเบลารุส อเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก เป็นผู้เข้ามาช่วยเจรจาให้ผู้นำกองทหารรับจ้างแวกเนอร์ยอมถอยทัพ โดยแลกกับการไม่ต้องถูกดำเนินคดีในข้อหากบฏ และได้ลี้ภัยมาที่เบลารุส

สื่อต่างประเทศรายงานว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ปูตินรู้สึกเสียหน้ามากที่ถูกคนสนิทหยิบอาวุธขึ้นมาต่อต้าน และยิ่งแสดงให้เห็นว่ารัสเซียกำลังสูญเสียการควบคุมทหารของตัวเองที่ทำสงครามในยูเครน โดยเฉพาะการที่พริโกชินออกมาแฉก่อนหน้านี้ว่า ทหารของกองทัพรัสเซียนั้นล้วน “ไร้ความสามารถ” และเหตุผลที่รัสเซียใช้อ้างในการรุกรานยูเครนล้วน “เป็นเรื่องโกหก” ซึ่งสาเหตุที่แท้จริง ที่กองทัพรัสเซียต้องการรุกรานยูเครนเพื่อกอบโกยทรัพยากรและความร่ำรวยของตัวเองเท่านั้น