จับตา วิกฤติอสังหาฯ ‘สวีเดน’ โดมิโนแรก ล้มก่อนลามทั่วยุโรป?
“รัฐบาลสวีเดน” เตรียมใช้นโยบายการเงิน เข้าสกัดผลกระทบปัญหาราคาอสังหาริมทรัพย์ตกต่ำ ก่อนลุกลามไปธุรกิจอื่น และอาจเป็นลางร้ายวิกฤติเศรษฐกิจในยุโรป
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า หนี้สินและอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้น รวมไปถึงเศรษฐกิจสวีเดนที่ถดถอยได้ส่งผลกระทบต่อบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในประเทศ ซึ่งหลายหน่วยงานได้จัดอันดับความน่าเชื่อถือลดต่ำลงสู่ “ระดับขยะ”
องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ระบุว่า ราคาบ้านลดลงประมาณ 1 ใน 5 จากราคาปกติเมื่อเดือน มี.ค. 2565 ซึ่งสะท้อนการจำนองบ้านพุ่งสูงขึ้นด้วย
"นิกลาส วีคแมน" รัฐมนตรีตลาดเงินสวีเดนกล่าวกับรอยเตอร์ว่า ประเทศมีนโยบายการเงินเข้าไปปกป้องตลาดอสังหาฯ ไม่ให้ดิ่งลงเหว
ทั้งนี้ สวีเดนเป็นหนึ่งในประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในยุโรป
นโยบายการเงิน จัดการวิกฤติอสังหาฯ
“เราพร้อมจะดำเนินการในเรื่องนี้ หากเกิดเหตุการณ์ซ้ำๆ หรือสัญญาณความเสี่ยงใหม่ๆ หรือภัยคุกคามระบบการเงิน” รัฐมนตรีตลาดเงินสวีเดนกล่าว และเสริมว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือตอนนี้เรามีนโยบายทางการเงินที่นำไปจัดการผลกระทบได้
ความกังวลต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้ส่งผลกระทบต่อค่าเงิน ขณะที่นักลงทุนพากันสงสัยว่า “สวีเดนอาจเป็นโดมิโนชิ้นแรกที่ล้มลงก่อนขยายวงกว้างไปทั่วยุโรป หรือไม่
ตามรายงาน Eurostat ระบุว่า สวีเดนและเยอรมนีเป็นสองประเทศในยุโรปที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด จากปัญหาราคาอสังหาฯ ตกต่ำ
OECD เตือนเสถียรภาพการเงินสวีเดน
เมื่อต้นสัปดาห์ OECD เตือนเสถียรภาพทางการเงินในสวีเดนจะเผชิญความเสี่ยง เนื่องจากการปล่อยกู้เงินจำนวนมากจากธนาคารให้กับบริษัทอสังหาริมทรัพย์และสินเชื่อซื้อบ้าน ซึ่งส่วนใหญ่ปล่อยอัตราดอกเบี้ยลอยตัวเป็นแบบบล็อกสเต็ปไปพร้อมกับดอกเบี้ยที่ค่อยๆเพิ่มสูงขึ้น
แม้ว่ารัฐมนตรีตลาดเงินสวีเดนจะยังไม่ได้บอกว่า รัฐบาลจะดำเนินการอย่างไร แต่เขาย้ำว่า ธนาคารต่างๆ ในประเทศยัง “มีกำไรและมีความมั่นคง”
หากแต่การแสดงความคิดเห็นของเขา ได้เพิ่มความกังวลให้กับประชาชนและนักลงทุนในสตอกโฮล์ม
มีรายงานว่า ในช่วงต้นทศวรรษ 1990 ได้เกิดวิกฤติฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์ในสวีเดน จนทำให้รัฐเข้าไปอุ้มธนาคาร 2 แห่ง รวมถึงให้เงินช่วยเหลือหนึ่งในสาม และลดค่าเงินสวีเดน โดยครั้งนั้นทำให้เศรษฐกิจประเทศถดถอยอย่างหนัก