สัมพันธ์ลึก‘ซาอุฯ-จีน’ เปิดทางสู่โลกอาหรับ

สัมพันธ์ลึก‘ซาอุฯ-จีน’ เปิดทางสู่โลกอาหรับ

การประชุมธุรกิจอาหรับ-จีน ครั้งที่ 10 ที่ซาอุดีอาระเบียได้เป็นเจ้าภาพครั้งแรก ไม่ใช่เวทีพูดคุยเรื่องเศรษฐกิจธุรกิจธรรมดา แต่สะท้อนถึงความสัมพันธ์อันแนบแน่นระหว่างพี่ใหญ่โอเปคกับพญามังกร ท่ามกลางความสัมพันธ์ตึงเครียดกับโลกตะวันตก

การประชุมธุรกิจอาหรับ-จีน ครั้งที่ 10 ระยะเวลาสองวันเปิดฉากขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ (11 มิ.ย.) ที่กรุงริยาด ซาอุดีอาระเบีย เจ้าชายไฟซาล บิน ฟาร์ฮัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศซาอุดีอาระเบีย กล่าวเปิดประชุม ตอกย้ำถึงโอกาสเพิ่มความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนกับประเทศอาหรับ

“การประชุมครั้งนี้เป็นโอกาสสร้างอนาคตร่วมกันนำไปสู่ยุคใหม่ที่มีประโยชน์สำหรับประชาชนของเรา” รมว.ต่างประเทศซาอุฯ กล่าว แต่ที่เป็นประเด็นร้อนคือวาทะของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานที่ว่า  ซาอุดีอาระเบียต้องการร่วมมือกับจีนให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นทั้งในด้านการค้าการลงทุนและการไหลเวียนของพลังงาน แทนที่จะแข่งขันกับอภิมหาอำนาจรายนี้

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงาน เจ้าชายอับดุลลาซิส บิน ซัลมาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานซาอุดีอาระเบีย กล่าวในเวทีประชุมธุรกิจอาหรับ-จีน ที่กรุงริยาด เมื่อวันอาทิตย์ 

“เราต้องยอมรับความจริงในวันนี้ที่ว่าจีนกำลังนำอยู่ นำแล้ว และจะนำต่อไป เราไม่ต้องแข่งขันกับจีน เราต้องร่วมมือกับจีน” รมว.ซาอุฯ กล่าวและว่า การร่วมมือกับจีนมีคุณค่าเพราะจีนมีบทบาทนำในแง่“ผู้ผลิตที่เหมาะสม” โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านพลังงานหมุนเวียน “เราจะไม่กลับไปเล่นซีโรซัมเกมอีก”

ส่วนการที่ซาอุฯ พี่ใหญ่กลุ่มโอเปคสนใจจีนนั้น อับดุลลาซิสระบุ เขาเชื่อว่า ความต้องการน้ำมันของจีนยังคงเติบโต นั่นคือส่วนแบ่งที่ซาอุฯ ต้องการคว้าไว้ให้ได้

ทั้งนี้ ซาอุดีอาระเบียเป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่สุดของโลก ขณะที่จีนเป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่สุดของโลก เดือนเม.ย.จีนซื้อจากซาอุฯ มากที่สุด แม้มีน้ำมันราคาถูกเพราะโดนแซงชันของรัสเซียก็ตาม

ความสัมพันธ์ด้านน้ำมันล่าสุดของสองประเทศย้อนกลับไปในเดือน มี.ค. รัฐวิสาหกิจน้ำมัน “ซาอุดีอารามโค” ประกาศข้อตกลงสำคัญสองฉบับว่าด้วยการกลั่นน้ำมัน  จะจัดหาน้ำมันดิบวันละ 690,000 บาร์เรลให้กับหรงเจิ้ง ปิโตรเคมิคอลและเจ้อเจียง ปิโตรเคมิคอล ข้อตกลงนี้เกิดขึ้นไม่นานหลังจาก ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ไปเยือนซาอุดีอาระเบียในเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานชี้แจงว่า ที่พูดแบบนั้นไม่ได้หมายความว่าซาอุฯ จะไม่ร่วมมือกับประเทศอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นยุโรป เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น สหรัฐ และละตินอเมริกา ล้วนเป็นหนึ่งในบรรดาประเทศที่ซาอุฯ ค้าขายด้วย

กล่าวได้ว่าการประชุมธุรกิจจีน-อาหรับ ในกรุงริยาดจัดขึ้นในช่วงที่ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับซาอุฯ เติบโตขึ้นทุกขณะไม่ว่าจะเป็นทางเศรษฐกิจหรือการทูต เนื่องจากทั้งสองประเทศต่างตึงเครียดกับชาติตะวันตกมากขึ้นทุกที อีกทั้งการที่จีนเป็นตัวกลางให้อิหร่านและซาอุฯ กลับมาเปิดสัมพันธ์กันอีกครั้ง ถือเป็นจุดเปลี่ยนความสัมพันธ์ในภูมิภาคตะวันออกกลาง

ในเดือน มี.ค. เช่นกัน คณะรัฐมนตรีซาอุฯ เห็นชอบเข้าร่วม องค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ กลุ่มความมั่นคงนำโดยจีนที่มีรัสเซีย อินเดีย ปากีสถาน และอีกสี่ชาติเอเชียกลางเป็นสมาชิก

ส่วนที่มีคนเคลือบแคลงความสัมพันธ์ ซาอุฯ-จีน ที่กำลังดีวันดีคืน เจ้าชายอับดุลลาซิสตอบชัด “ผมไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย” เขาเปรียบการทำธุรกิจเหมือนกับหม้อใบหนึ่งที่ไม่จำเป็นต้องแยกเป็นประเทศโน้นประเทศนี้ว่า ซาอุดีอาระเบีย “จะไปในที่ที่มีโอกาส ไม่ใช่เรื่องของการเมือง ไม่ใช่เรื่องของยุทธศาสตร์ เราคือซาอุดีอาระเบีย เราไม่จำเป็นต้องเล่นในสิ่งที่ผมเรียกว่าซีโรซัมเกม เราเชื่อว่ามีโอกาสมากมายในโลกนี้”

แค่การประชุมธุรกิจอาหรับ-จีนวันแรกซาอุฯ ประกาศข้อตกลงหลายพันล้านดอลลาร์ระหว่างจีนกับโลกอาหรับ กระทรวงการลงทุนซาอุดีอาระเบีย แถลงว่าตลอดการประชุมสองวันมีเจ้าหน้าที่ทั้งจากรัฐบาลและภาคธุรกิจกว่า 3,500 คน จากจีนและประเทศอาหรับเข้าร่วมงาน วันแรกมีการลงนามข้อตกลงการลงทุน 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่วนใหญ่เป็นโครงการในซาอุฯ  หรือการลงทุนของบริษัทและหน่วยงานรัฐบาลซาอุฯ

ตัวเลขนี้รวมถึงการลงนามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) 5.6 พันล้านดอลลาร์ระหว่างกระทรวงการลงทุนซาอุฯ กับฮิวแมนฮอไรซอนส์ บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าขับเคลื่อนอัตโนมัติของจีน นอกจากนี้กว่าครึ่งของมูลค่าเอ็มโอยู, ข้อตกลงความร่วมมือ และกรอบข้อตกลงเกี่ยวข้องกับบริษัทอื่นๆ โดยรวมเป็นข้อตกลงในหลากหลายสาขา อาทิ เทคโนโลยี เกษตรกรรม พลังงานหมุนเวียน อสัหาริมทรัพย์ ทรัพยากรธรรมชาติและการท่องเที่ยว

แถลงการณ์ของซาอุฯ ยังระบุด้วยว่า  บริษัท AMR ALuwlaa และจงหวนอินเตอร์เนชันแนลกรุ๊ป (ฮ่องกง) ตกลงตั้งโรงงานเหล็กในซาอุฯ มูลค่า 533 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ซาอุดีเอเอสเคกรุ๊ปและไชนาเนชันแนลจีโอโลจิคัลแอนด์มายนิงคอร์ป ลงนามข้อตกลงความร่วมมือเหมืองทองแดงในซาอุฯ มูลค่า 500 ล้านดอลลาร์

ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับซาอุฯ ชัดเจนมาก ตอนที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงมาเยือนในเดือน ธ.ค. 2565 เรียกเสียงวิจารณ์จากสหรัฐ ผู้เป็นพันธมิตรกับรัฐบาลริยาดมายาวนาน ส่วน

งานประชุมธุรกิจจีน-อาหรับเกิดขึ้นหลังจากนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐเพิ่งมาเยือนกรุงริยาดเมื่อสัปดาห์ก่อน เจ้าตัวกล่าวว่า รัฐบาลวอชิงตัน “ไม่ได้ขอให้ใครต้องเลือกระหว่างสหรัฐกับจีน”

อีกหนึ่งบทบาทของจีนที่น่าจับตาคือการอำนวยความสะดวกให้เกิดการเจรจาสันติภาพระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ โจทย์ใหญ่ของโลก

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวันศุกร์ (9 มิ.ย.) รัฐบาลปักกิ่งแถลงว่า ประธานาธิบดีมาห์มุด อับบาส ของปาเลสไตน์จะเยือนจีนอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 13-16 มิ.ย. ตามคำเชิญของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง

“เขาเป็นประมุขแห่งรัฐอาหรับคนแรกที่จีนได้ต้อนรับในปีนี้ ตอกย้ำความสัมพันธ์อันดีในระดับสูงระหว่างจีนและปาเลสไตน์ ที่เป็นมิตรกันมานานแล้ว อับบาสเป็นเพื่อนเก่าแก่แสนดีของประชาชนจีน จีนสนับสนุนอย่างหนักแน่นเสมอมาให้ชาวปาเลสไตน์ได้ฟื้นฟูสิทธิความเป็นชาติอันชอบธรรม” นายหวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนแถลง

เอเอฟพีรายงานด้วยว่า รัฐบาลปักกิ่งพยายามเพิ่มความสัมพันธ์กับตะวันออกกลางท้าทายอิทธิพลสหรัฐที่มีมายาวนานในภูมิภาคนี้ ซึ่งความพยายามนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากสหรัฐ

ตอนที่สีเยือนซาอุ ในเดือน ธ.ค.2565 เพื่อเพิ่มการเข้าถึงชาติอาหรับ เขาได้พบกับอับบาสและให้คำมั่น “จะทำงานเพื่อหาทางออกอย่างยุติธรรมและยั่งยืนเสียแต่เนิ่นๆ ในการแก้ปัญหาปาเลสไตน์”