เคลื่อนไหวบ้าง!'สี จิ้นผิง' เปิดเเผนพัฒนาครั้งใหญ่ร่วมชาติเอเชียกลาง

เคลื่อนไหวบ้าง!'สี จิ้นผิง' เปิดเเผนพัฒนาครั้งใหญ่ร่วมชาติเอเชียกลาง

เคลื่อนไหวแล้ว!'สี จิ้นผิง' เปิดเเผนพัฒนาครั้งใหญ่ร่วมชาติเอเชียกลาง ขณะ G7 ที่ญี่ปุ่นเจรจาเพื่อหามาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่ม และลดอิทธิพลของจีน

สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ประกาศเมื่อวันศุกร์(19พ.ค.) เกี่ยวกับเเผนพัฒนาภูมิภาคเอเชียกลาง ที่มีเป้าหมายเพื่อสร้างระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานที่สนับสนุนการค้า ถือเป็นการยกระดับบทบาทของรัฐบาลปักกิ่งในภูมิภาคนี้ ที่แต่เดิมอยู่ภายใต้อิทธิผลอของรัสเซีย

ประธานาธิบดีสี กล่าวที่เวทีประชุมสุดยอดจีน-เอเชียกลาง ที่ตะวันตกเฉียงเหนือของจีนว่า จีนพร้อมที่จะร่วมมือพัฒนายุทธศาสตร์กับประเทศคาซัคสถาน คีร์กีซสถาน ทาจีกิสถาน เติร์กเมนิสถาน และอุซเบกิสถาน โดยจะนำความทันสมัยมาสู่ภูมิภาคนี้

ทั้งนี้ ประเทศในเอเชียกลางทั้งห้าประเทศ เสนอให้จีนเข้าถึงเส้นทางการขนส่งพลังงานเชื้อเพลิงอาหารและสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ หากเส้นทางในส่วนอื่น ๆ ของโลกเกิดปัญหาขึ้น

นอกจากนี้ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ยังกล่าวว่า จีนจะให้การสนับสนุนด้านการเงินต่อภูมิภาคเอเชียกลางมูลค่า 26,000 ล้านหยวน

ข้อมูลล่าสุด ระบุว่าปริมาณการค้าระหว่างจีนและเอเชียกลางเมื่อปีที่เเล้วอยู่ที่ 70,000 ล้านดอลลาร์ ถือว่ามากที่สุดเป็นประวัติการณ์ นำโดยการค้าระหว่างจีนและคาซัคสถานซึ่งมีมูลค่า 31,000 ล้านดอลลาร์

การเคลื่อนไหวของจีนครั้งนี้ มีขึ้นในช่วงเดียวกับที่บรรดาผู้นำของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ (G7) เห็นพ้องร่วมกันที่จะกำหนดมาตรการต่างๆเพิ่มเติมเพื่อกดดันรัสเซียขณะที่รัสเซียยังคงเดินหน้าโจมตียูเครนเป็นปีที่สอง    

“เราจะตัดช่องทางทำรายได้ด้านการบริการ,เครื่องไม้เครื่องมือด้านอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีที่สนับสนุนเครื่องจักรสงครามของรัสเซียและเรายังคงเดินหน้าสนับสนุนยูเครนต่อไป รวมถึงช่วยปรับปรุงและซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของประเทศนี้ ทำการฟื้นฟูและร่วมกันสร้างประเทศที่บอบช้ำจากสงครามนี้ขึ้นมาใหม่”แถลงการณ์ G7 ระบุ                

ด้านอังกฤษ ประกาศมาตรการคว่ำบาตรระลอกใหม่ต่อรัสเซียในวันเดียวกันโดยพุ่งเป้าไปบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการขโมยธัญพืชของยูเครน และบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งพลังงานของรัสเซีย

อังกฤษระบุว่า จะคว่ำบาตรบุคคลและบริษัท 86 ราย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปราบปรามครั้งใหม่ต่อสิ่งที่เรียกว่า “บุคคลและหน่วยงานที่น่าสงสัย” ซึ่งเชื่อมโยงกับการขโมยและการขายธัญพืชของยูเครน

มาตรการคว่ำบาตรยังมุ่งเป้าไปที่บริษัทขนส่งพลังงานและอาวุธรายใหญ่ของรัสเซีย รวมถึงบริษัทที่เกี่ยวข้องกับบริษัทพลังงานนิวเคลียร์ของรัสเซียอย่างโรซาตอม และนายอิกอร์ อัลทูชกิน เจ้าของบริษัทรัสเซียน คอปเปอร์ คอมปานีของรัสเซีย

นอกจากนี้ นายริชี ซูแน็ก นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ยังได้ประกาศห้ามการนำเข้าเพชร ทองแดง อะลูมิเนียม และนิกเกิลจากรัสเซีย