'กัญชานำเข้าผิดกฎหมาย' สกัดเส้นทางหากินผู้ค้ารายย่อยไทย

'กัญชานำเข้าผิดกฎหมาย' สกัดเส้นทางหากินผู้ค้ารายย่อยไทย

'กัญชานำเข้าผิดกฎหมาย' สกัดเส้นทางหากินผู้ค้ารายย่อยไทย โดยสายพันธุ์กัญชาที่ปลูกในไทยมีราคาอยู่ที่ 300 บาท/กรัม แต่กัญชาที่ลักลอบนำเข้าอย่างผิดกฏหมายมีราคาเพียง 150-180 บาท/กรัม

ผ่านมาแล้วเกือบ 1 ปีที่ประเทศไทยประกาศให้กัญชาเป็นสิ่งถูกกฎหมาย ท่ามกลางคำมั่นสัญญามากมายที่มาพร้อมกับความหวังว่า กัญชาจะช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศเฟื่องฟู แต่บรรดาผู้ปลูกและผู้ขายกัญชารายย่อยชาวไทยพากันโอดครวญว่า พวกเขาถูกตัดราคา จากผู้ลักลอบนำเข้ากัญชาอย่างผิดกฎหมายจากสหรัฐ ที่จำหน่ายพืชเสพติดชนิดนี้ได้ในราคาถูกกว่ากัญชาที่ปลูกในไทย

     ประเทศไทยนำกัญชาออกจากรายชื่อยาเสพติดต้องห้ามเมื่อเดือน มิ.ย. 2565 หลังการรณรงค์ที่โด่งดังไปทั่วโลกของ "อนุทิน ชาญวีรกุล" รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของไทยที่พยายามผลักดันให้ไทยเป็น“ฮับ”กัญชาเพื่อการแพทย์ แต่รัฐสภาไทยยังไม่ผ่านกฎหมายกัญชา ที่รอกันมานาน ทำให้กรอบข้อบังคับของอุตสาหกรรมกัญชายังไม่มีความชัดเจน

      บรรดาเจ้าของธุรกิจกัญชาในไทย บอกว่า ตอนนี้เม็ดเงินกำลังเข้ามาเติมเต็มช่องว่างในตลาด และมีร้านขายกัญชาหลายแห่งทั่วประเทศกำลังใช้กัญชาต้นทุนต่ำที่นำเข้าอย่างผิดกฎหมายจากสหรัฐ

เจ้าของกิจการกัญชาในท้องถิ่นรายหนึ่ง เล่าว่า นายหน้ากัญชาชาวต่างชาติ เข้าถึงร้านขายกัญชาในท้องถิ่นเพื่อขายกัญชาราคาถูก ที่ลักลอบนำเข้ามาโดยขายในราคาที่ถูกกว่าราคาตลาดประมาณ 2-3 เท่า

“ปรัชญา อรเอก” เจ้าของกิจการกัญชาที่มีใบอนุญาติทำธุรกิจประเภทนี้หลายแห่งในกรุงเทพ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอัลจาซีราห์ว่า 

“สายพันธุ์กัญชาที่ปลูกในท้องถิ่น มีราคาอยู่ที่ 300 บาท/กรัม แต่กัญชานำเข้ามีราคาแค่ 150-180 บาท/กรัม ในแต่ละวัน เราจะเจอนายหน้ากัญชาทั้งชาวไทยและต่างชาติ นี่จึงเป็นธุรกิจข้ามชาติอย่างแท้จริง พวกเขาจะเข้ามาในร้าน เสนอขายกัญชานำเข้าราคาถูกให้เรา แต่เราก็ไม่สนใจ”

ปรัญชายังบอกด้วยว่า นายหน้าเล่าให้เขาฟังว่า ลักลอบนำเข้ากัญชาโดยสอดมาในเฟอร์นิเจอร์และภาชนะที่บรรจุผักหรือผลไม้ เมื่อศุลกากรตรวจสอบโดยใช้เครื่องสแกน จึงไม่สามารถระบุได้ว่านั่นคือกัญชา

      ตามกฎหมายของไทยการใช้กัญชาเพื่อสันทนาการ ยังเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ขณะที่การบังคับใช้กฎหมายยังมีความไม่แน่นอน เพราะฉะนั้นจึงยังพบเห็นร้านค้ากัญชาหรือแผงลอยขายกัญชาได้แทบจะทุกมุมถนนทั้งในเมืองหลวงและจังหวัดอื่น ๆ ของประเทศไทย

     นักท่องเที่ยวทะลักเข้ามาในไทยเพื่อต้องการเข้ามาผ่อนคลายด้วยกัญชา แต่ผู้ประกอบการอย่างปรัชญา กังวลว่า ธุรกิจต่างๆ ของไทย จะไม่ได้ประโยชน์จากการที่มีนักท่องเที่ยวทะลักเข้ามา

ปรัชญา กล่าวว่า "ท้ายที่สุดแล้ว ลูกค้าของผมสนใจเกี่ยวกับประสิทธิภาพของสารทีเอชซีมากกว่าต้นกัญชา และต้นกัญชาสหรัฐมีสารทีเอชซีสูงกว่า ซึ่งเป็นสารประกอบที่ทำให้ผู้ใช้งานมึนเมาได้มากกว่ากัญชาที่ปลูกในประเทศ เราต้องปกป้องตลาดกัญชาในประเทศและสนับสนุนผู้ปลูกกัญชาและเกษตรไทย”

พรรคภูมิใจไทย ที่ผลักดันให้กัญชาถูกกฎหมาย โทษเจ้าหน้าที่รัฐทำการทุจริต ปล่อยให้นำเข้ากัญชาแบบผิดกฎหมายจำนวนมาก และพรรคฯฉวยโอกาสทางการเมือง ออกมาตำหนิพาดหัวข่าวเชิงลบเกี่ยวกับการปฏิรูปกัญชา ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งทั่วประเทศในวันอาทิตย์ที่ 14 พ.ค. นี้

“ศุภชัย ใจสมุทร” สมาชิกพรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นแกนนำในการปกป้องการปฏิรูปกัญชา ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอัลจาซีราห์ว่า “ประเทศไทยมีกฎหมายจัดการกับการนำเข้ากัญชาแบบผิดกฎหมายอยู่แล้ว แต่ผู้รับผิดชอบกลับไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายได้ ซึ่งก็คือเจ้าหน้าที่ศุลกากรและกรมวิชาการเษตร แต่ในระยะยาวเราต้องผ่านร่างกฎหมายกัญชา เพื่อให้เป็นกฎหมายเฉพาะที่สามารถใช้จัดการปัญหาลักลอบนำเข้ากัญชาได้อย่างแท้จริง”

 ด้านหอการค้าไทยคาดการณ์ว่า อุตสาหกรรมกัญชาเมื่อปี 2565 สร้างรายได้ให้กับเศรษฐกิจไทยประมาณ 40,000 ล้านบาทแต่ศุภชัยแย้งว่า"จริง ๆ แล้ว อุตสาหกรรมกัญชาสร้างรายได้ให้ประเทศมูลค่าหลายแสนล้านบาท”

      อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นในอุตสาหกรรมกัญชาหลายคน มีความเห็นว่า ตอนนี้ยังมองไม่เห็นผลผระโยชน์ทางเศรษฐกิจที่มาจากกัญชาได้ชัดเจนมากนัก โดยผู้ประกอบการกัญชาที่มากประสบการณ์รายหนึ่ง บอกว่า เขาลงทุนไปกับที่ดินและปุ๋ยจำนวนมาก เพียงเพื่อจะพบว่า กัญชาของเขามีราคาแพงเกินไปในตลาดที่เต็มไปด้วยกัญชานำเข้าราคาถูก

“สวิดโรล เรกคอร์ด” ผู้ที่ใช้นามแฝงเพื่อจำหน่ายกัญชา บอกว่า “ผู้ปลูกกัญชาชาวไทยหลายคน หันไปทำสวนทำไร่กัญชา และพยายามฝึกฝนทักษะของตนเอง แต่ตลาดกัญชาไทยเต็มไปด้วยกัญชาราคาถูกที่นำเข้าผิดกฎหมายจำนวนมาก จากความช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่รัฐบาลที่ทุจริต ทำให้ความต้องการกัญชานำเข้าตอนนี้สูงมาก”

“ช่อขวัญ ช่อผกา” หรือคิตตี้ ผู้สนับสนุนกัญชา กล่าวว่า คำมั่นสัญญาที่ยิ่งใหญ่ของพรรคภูมิใจไทยอาจล้มเหลว เพราะเงินก้อนโตจากสหรัฐ เนเธอร์แลนด์ และแคนาดาในตลาดกัญชาที่เฟื่องฟูของไทย

“ค่อนข้างน่าเสียดายที่เห็นว่าผู้ประกอบการบางคนไม่สามารถเข้าถึงตลาดได้” ช่อขวัญ กล่าว

สควิดโรล เรกคอร์ด บอกว่า ความไม่พอใจของผู้สนับสนุนกัญชามาจากการประชาสัมพันธ์ที่พุ่งเป้าโจมตีกัญชาแผงลอย ซึ่งกระทบต่อส่วนล่างสุดของห่วงโซ่อาหารและผู้เล่นในตลาดรายเล็กที่ไม่ได้บิดเบือนตลาด

“ร้านค้าหลายแห่งในขณะนี้มีเจ้าของเป็นชาวต่างชาติ ปล่อยให้ผู้ประกอบการรายอื่นที่ไม่สามารถเข้าถึงทุน ต้องออกมาจำหน่ายกัญชาตามทางเดิน” สควิดโรล เรกคอร์ด กล่าว