อัตราว่างงานจีนพุ่ง หนุ่มสาวชาวจีนแห่เข้าวัด มูของาน

อัตราว่างงานจีนพุ่ง หนุ่มสาวชาวจีนแห่เข้าวัด มูของาน

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า หนุ่มสาวชาวจีนที่สิ้นหวัง แห่เข้าวัดกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอพรให้มีงานทำ จนแถวรอเข้าวัดยาวหลายร้อยเมตร เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว กำลังฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดโควิด-19 และตัวเลขว่างงานพุ่งสูง

ทริปดอทคอม แพลตฟอร์มจองการเดินทาง เผยว่า การท่องเที่ยววัดเพิ่มขึ้น 30% ในปี 2566 เมื่อเทียบกับปี 2565 โดยนักท่องเที่ยวประมาณครึ่งหนึ่งเป็นผู้ที่เกิดหลังปี 1990 แต่ไม่ได้ระบุตัวเลขโดยรวมทั้งหมด หรือเปรียบเทียบกับช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดโควิด-19

“หวัง เสี่ยวหนิง” ชาวจีนวัย 22 ปี หนึ่งในนักศึกษา 11.58 ล้านคน ที่เพิ่งเรียนจบและเผชิญกับตลาดงานที่มีแต่ความเคว้งคว้าง ผลจากมาตรการล็อกดาวน์โควิด-19 รวมทั้งการปราบปรามอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและการศึกษาของจีน เผยว่า เธอมีความกดดันในการหางานและราคาบ้านไม่สามารถเอื้อมถึงได้

“ฉันหวังว่าจะพบความสงบสุขจากวัดต่าง ๆ” หวัง กล่าว

ทั้งนี้  1 ใน 5 ของคนหนุ่มสาวชาวจีนยังคงว่างงานมากเป็นประวัติการร์

“จาง ฉีตี” นักวิจัยจากศูนย์ศึกษาการเงินนานาชาติ กล่าวว่า จีนมีอุปทานนักศึกษาที่จบระดับมหาวิทยาลัยมากเกินไป และด้วยความสำคัญของคนกลุ่มนี้คือความอยู่รอด หลายคนจึงหันไปทำงานขับรถส่งของหรืองานดิลิเวอรีแทน

กระทรวงแรงงานและกระทรวงศึกษาธิการของจีนยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นใด ๆ

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กระทรวงศึกษาฯ เคยเผยว่า จำนวนนักศึกษาที่จบปริญญาโทและปริญญาเอกในปักกิ่ง มีมากกว่านักศึกษาที่จบปริญญาตรีเป็นครั้งแรก

ต้องละทิ้งมาดบัณทิต?

หนุ่มสาวชาวจีนในโซเชียลมีเดียหลายคน เปรียบเทียบตนเองกับ “กง อี้จี” นักวิชาการขี้เมาที่ว่างงาน ซึ่งเป็นตัวละครในวรรณกรรมยุค 1919 ของนักเขียนหลู่ซิ่น

กงมีความเชื่อว่า เขาจบการศึกษาสูงไปที่จะทำงานต่ำต้อย มีมดังกล่าวเป็นที่พูดถึงอย่างแพร่หลาย เนื่องจากผู้ใช้งานในโซเชียลมีเดียต่างตั้งคำถามว่า

“สังคมให้คุณค่ากับการศึกษาทำไม ถ้าไม่รับประกันว่าพวกเขาจะมีงานทำ”

อัตราว่างงานจีนพุ่ง หนุ่มสาวชาวจีนแห่เข้าวัด มูของาน

ตัวละคร 'กง อี้จี'

ชาวจีนวัย 25 ปี ไม่ขอเอ่ยนาม จบการศึกษาระดับปริญญาโท ในมณฑลเจ้อเจียง และเป็นผู้ที่สมัครงานเฉลี่ย 10 แห่งต่อวัน ตั้งแต่เดือน ก.พ. บอกว่า เธอรู้สึกเหมือนกงที่ถูกจำกัดด้วยระดับการศึกษา

“ฉันไม่เชื่อว่าจะได้งานตามที่หวังไว้ ฉันต้องพบจิตแพทย์บ่อย ๆ เพราะรู้สึกวิตกกังวลและเครียดมาก” เธอ กล่าว และว่าเธอได้รับข้อเสนอเงินเดือน 2,000-3,000 หยวนต่อเดือน หรือบางงานต้องทำงานเกินเวลาแบบไม่สมเหตุสมผล และเธอปฏิเสธงานเหล่านั้นไป 

“ถ้าฉันไม่มีใบปริญญาระดับนี้ ฉันอาจเป็นพนักงานขายในห้างสรรพสินค้าและคงมีความสุขกว่านี้” เธอ ระบุ

“หยาง เสี่ยวชาง” นักศึกษาจบเศรษฐศาสตร์ในปักกิ่ง ตกลงเป็นพนักงานธนาคารหลังสัมภาษณ์ไป 30 ครั้ง เธอรู้สึกโล่งใจแต่ยังไม่พอใจมากนัก “ฉันไม่ได้ดูถูกงานบริการนะ แต่ฉันคิดว่ามันไม่คุ้มกับความรู้ที่ได้เรียนมา” หยาง กล่าว

ซีซีทีวี สื่อรัฐบาลจีน ออกมาตำหนิคนที่เปรียบเทียบตนเองกับตัวละครกง ผ่านแอปพลิเคชันเว่ยป๋อ ว่า “กง อี้จี ตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก เพราะเขาไม่สามารถละทิ้งมาดนักวิชาการได้ และไม่เต็มใจที่จะเปลี่ยนแปลงตนเองไปกับตลาดแรงงาน”

จากนั้นเกิดคอมเมนต์โต้ตอบด้วยความโกรธเคืองมากมาย โดยคอมเมนต์หนึ่งที่มีคนกดถูกใจมากกว่า 300 คน โต้ว่า 

“ทำไมล่ะ แทนที่จะช่วยพัฒนาองค์กรเอกชน คุณกลับโทษนักศึกษาที่เพิ่งจบใหม่ 11.58 ล้านคน ว่าไม่ถอดมาดบัณทิตออกไป?”