‘อีลอน มัสก์’ เตือน ! แบงก์สหรัฐเสี่ยงล้มอีก หลังวิกฤติ SVB

‘อีลอน มัสก์’ เตือน ! แบงก์สหรัฐเสี่ยงล้มอีก หลังวิกฤติ SVB

สำนักข่าวเดอะสตรีท รายงาน (8 เม.ย.) ว่า "อีลอน มัสก์" ออกมาเตือนธนาคารสหรัฐหลายแห่งผ่านทวิตเตอร์ เสี่ยงล้มอีก เพราะความกลัวความเสี่ยงเงินฝาก จนเงินทุนไหลออกจากธนาคารเข้าสู่กองทุมรวมตลาดเงินมากขึ้น

ข้อมูลของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า ธนาคารซิลิคอนวัลเลย์ (เอสวีบี) ของสหรัฐ สูญเสียเงินฝาก 96,200 ล้านดอลลาร์ ภายในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 22 มี.ค.

นักวิเคราะห์หลายคนเชื่อว่า การลดลงของเงินฝากนี้ ทำให้ผู้ฝากเงิน ย้ายเงินสดไปยังกองทุนรวมตลาดเงินที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าแทน

ในสถานการณ์เช่นนี้ “อีลอน มัสก์” ประธานบริหารบริษัทเทสลา เจ้าของทวิตเตอร์และอดีตผู้ร่วมก่อตั้งเพย์พาล ออกมาเตือนเกี่ยวกับสถานการณ์แบงก์รันที่อาจเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งคำเตือนดังกล่าวเผยแพร่ผ่านเธรดในทวิตเตอร์

บัญชีทวิตเตอร์ที่มหาเศรษฐีมัสก์ใช้ตอบโต้เป็นปกติ ทวีตข้อความว่า ธนาคารสหรัฐหลายแห่งเผชิญกับการถอนเงินจำนวนมากออกจากกองทุนลูกค้าอย่างต่อเนื่อง

มัสก์ทวีตเมื่อวันที่ 7 เม.ย. ว่า “เงินล้านล้านดอลลาร์ถูกถอนออกจากธนาคารแล้วย้ายไปกองทุนรวมตลาดเงิน สถานการณ์นี้ทำให้ธนาคารอ่อนแอ“ และทวีตต่อว่า ”ความกลัวว่าธนาคารมีความเสี่ยงนั้น ทำให้เกิดการย้ายเงินทุนและธนาคารอ่อนแอลง”

การย้ายเงินจากบัญชีธนาคารสู่กองทุนรวมตลาดเงิน เป็นเทรนด์ที่อธิบายถึงความเป็นความจริงที่ว่า การลงทุนในระยะสั้น ให้ผลตอบแทนสูงกว่าการฝากเงินในบัญชีธนาคารดั้งเดิม

อย่างไรก็ตาม เมื่อธนาคารไร้เงินฝากสามารถทำให้ธนาคารเกิดวิกฤติสภาพคล่องคล้ายสถานการณ์เดียวกับเอสวีบีได้

สิ่งที่มัสก์ทวีตนั้น เหมือนจะสื่อถึงประเด็นนี้  มัสก์เชื่อว่าปรากฏการณ์ถอนโอนย้ายเงินทุนจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และสิ่งต่าง ๆ กำลังแย่ลงไปอีก

“เทรนด์นี้จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว” มหาเศรษฐี ระบุ แต่ไม่ให้รายละเอียดเพิ่มเติมใด ๆ

ในทางตรงข้าม “เจมี ไดมอน” ประธานบริหารเจพี มอร์แกน กล่าวว่า ธนาคารขนาดใหญ่หลายแห่งมีมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าวมากกว่า

เมื่อถามว่าจะเกิดธนาคารล้มอีกหรือไม่ ไดมอนบอกว่า เขาไม่ทราบ แต่ถ้าเกิดขึ้น ธนาคารจะได้รับความช่วยเหลือ ซึ่งเขาคิดว่าเราใกล้ถึงจุดจบของวิกฤตินี้แล้ว

และย้ำว่า ปัญหาที่ทำให้เอสวีบีล้มเหมือนเส้นผมบังภูเขาและควรได้รับการปกป้องด้วยการบริหารจัดการของธนาคาร