เงินเฟ้ออังกฤษพุ่ง 10.4% หลังราคาอาหารเฟ้อหนัก ขาดแคลนผัก ผลไม้

เงินเฟ้ออังกฤษพุ่ง 10.4% หลังราคาอาหารเฟ้อหนัก ขาดแคลนผัก ผลไม้

สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคอังกฤษพุ่ง 10.4% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากเงินเฟ้ออาหารแตะระดับสูงสุดในรอบมากกว่า 45 ปี ร้านอาหารคิดราคาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากขึ้น และผลจากการขาดแคลนผัก ผลไม้

"แกรนต์ ฟิตซ์เนอร์" นักเศรษฐศาสตร์ จากสำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ แถลงว่า เงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้นในเดือน ก.พ. เป็นผลมาจากราคาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในผับ และร้านอาหารเพิ่มสูงขึ้น 

เงินเฟ้ออาหารแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ด้วยราคาสินค้าเพิ่มสูงขึ้น 18.2% ตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือนก.พ. และสูงกว่าเดือนม.ค. 16.8%

สำนักสถิติบอกว่า ราคาอาหารพุ่งสูงส่วนหนึ่งมีสาเหตุมาจาก ความขาดแคลนผัก และผักสลัดบางชนิดที่จำหน่ายในซูเปอร์มาร์เก็ต

อย่างไรก็ดี เงินเฟ้อลดลงจากระดับสูงสุดในรอบ 41 ปี ที่ 11.1% เมื่อเดือนต.ค. 65 ส่วนใหญ่เป็นเพราะต้นทุนเชื้อเพลิงเครื่องยนต์ลดลง

นักวิเคราะห์ กล่าวว่า ราคาสินค้าเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ อาจทำให้ธนาคารกลางอังกฤษปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้งในการประชุมวันพฤหัสบดี ที่ 23 มี.ค.

แม้ความวุ่นวายในภาคธนาคารล่าสุด อาจทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจชะลอตัวลง เนื่องจากหลักเกณฑ์ในการกู้ยืมเข้มงวด และต้องอิงกับอัตราเงินเฟ้อ

แต่ "พอล เดลส์" หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากแคปปิตอล อีโคโนมิกซ์ บอกว่า แบงก์ชาติอังกฤษอาจต้องการเห็นหลักฐานที่หนักกว่านี้ ก่อนหยุดขึ้นอัตราดอกเบี้ย

“เศรษฐกิจอังกฤษยังคงรอดอย่างหวุดหวิด แต่ตัวเลขเงินเฟ้อทำให้ค่อนข้างมั่นใจในคาดการณ์ของเราว่า แบงก์ชาติจะขึ้นดอกเบี้ยจาก 4% สู่ระดับ 4.25% ในวันพรุ่งนี้” เดลส์ กล่าว

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์