เปิดมิตรภาพไม่เสื่อมคลาย เพื่อนรัก‘สี จิ้นผิง-ปูติน’

เปิดมิตรภาพไม่เสื่อมคลาย  เพื่อนรัก‘สี จิ้นผิง-ปูติน’

เปิดมิตรภาพไม่เสื่อมคลาย เพื่อนรัก‘สี จิ้นผิง-ปูติน’ โดยมิตรภาพเพื่อนรักเริ่มต้นจากวอดกาและแซนด์วิชเมื่อสิบปีก่อน ตอนนี้ประธานาธิบดีจีนกำลังไปเยี่ยมปูตินหลังจากสงครามผ่านไปหนึ่งปี

เว็บไซต์ POLITICO รายงานว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงออกเดินทางไปเยือนกรุงมอสโกอย่างเป็นทางการในวันจันทร์ (20 มี.ค.) ท้าทายแรงกดดันมหาศาลจากประชาคมโลก เพราะประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ชายที่สีเคยยกให้เป็น “เพื่อนที่ดีและสนิทสนมที่สุด” เพิ่งกลายเป็นอาชญากรสงครามที่โลกต้องการตัวมากที่สุด

ศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ออกหมายจับปูตินเมื่อวันที่ 17 มี.ค. จากบทบาทลักลอบโยกย้ายพลเรือนยูเครนเข้าไปในดินแดนรัสเซีย แต่นั่นไม่ได้ขวางสี ผู้เพิ่งแหวกขนบพรรคคอมมิวนิสต์ขึ้นเป็นผู้นำจีนสมัยที่ 3 ในเดือนนี้ ไม่ให้ไปหาปูตินได้

แต่ทำไมผู้นำจีนถึงมุ่งมั่นยืนเคียงข้างปูตินได้ขนาดนี้ ทั้งๆ ที่ต้องโดนโต้กลับมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในช่วงที่ตะวันตกเคลือบแคลงวัตถุประสงค์ทางทหารของปักกิ่งมากขึ้นทุกขณะ

ประการแรก โลกทัศน์ของปักกิ่งต้องการใกล้ชิดเชิงยุทธศาสตร์กับรัสเซียต่อไป ตามที่ผู้นำปักกิ่งมองว่าสหรัฐกำลังปิดกั้นเส้นทางการเป็นผู้นำโลกของจีน รัฐบาลยุโรปร่วมผสมโรง ขณะที่เพื่อนบ้านจีนส่วนใหญ่ตั้งแต่ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไปจนถึงเวียดนามและอินเดียต่างเคลือบแคลงจีนมากขึ้นแทนที่จะสนับสนุน

“ประชาชนจีนไม่อ่อนไหวกับคำขู่ เสือกระดาษอย่างสหรัฐไม่มีสามารถคุกคามจีนได้โดยเด็ดขาด” บททัศนะวิจารณ์ของสำนักข่าวซินหัวประกาศชัดก่อนสีเดินทางไปรัสเซีย บทความชิ้นนี้ยังประณามรัฐบาลวอชิงตันที่ขู่คว่ำบาตรจีนหากจัดหาอาวุธให้รัสเซียรุกรานยูเครน

“ยิ่งสหรัฐต้องการบดขยี้สองมหาอำนาจ จีนและรัสเซียมากเท่าใด จีนและรัสเซียก็ยิ่งเข้าหากันมากขึ้นเท่านั้น”

มุมมองนี้สอดคล้องกับวาทกรรมจากเครมลิน

“วอชิงตันไม่อยากให้สงครามนี้ยุติ วอชิงตันต้องการและทำทุกอย่างให้สงครามดำเนินต่อไป นี่คือมือที่มองเห็น” ดิมิทรี เพสคอฟ โฆษกประจำตัวปูตินกล่าวเมื่อหลายวันก่อน

เพื่อนรัก 10 ปี

การทำความเข้าใจความโปรดปรานที่สีมีต่อปูติน ทั้งๆ ที่เศรษฐกิจจีนผูกพันอยู่กับชาติตะวันตกมาก นักวิเคราะห์กล่าวว่า ไม่ใช่แค่ปัจจัยด้านวิสัยทัศน์ที่ปักกิ่งมีต่อตะวันตก แต่เป็นเรื่องราวในอดีตที่ผู้นำจีนและรัสเซียมีร่วมกัน

“ทั้งสองคนอายุห่างกันแค่หกเดือนเท่านั้น พ่อของพวกเขาทั้งคู่เคยสู้รบในสงครามโลกครั้งที่ 2 ชายทั้งสองมีชีวิตวัยเยาว์ที่ยากลำบาก มีลูกสาวด้วยกันทั้งคู่” อเล็กซานเดอร์ กาบูเอฟ นักวิจัยอาวุโสจากกลุ่มคลังสมองมูลนิธิคาร์เนกีเพื่อสันติภาพระหว่างประเทศให้ความเห็น

“และพวกเขาเหมือนจักรพรรดิและซาร์ไปทุกที หมกมุ่นในการปฏิวัติสี (Color Revolutions) ไม่แพ้กัน" ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์รัสเซีย-จีนย้ำ และว่า “มิตรภาพเพื่อนรัก” นี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี2556 ตอนที่สีพบกับปูตินในการปิดประชุมผู้นำกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิก (เอเปค) ที่บาหลี ซึ่งเป็นวันเกิดปูตินพอดี นั่นไม่ใช่ ”คืนเมาหัวราน้ำ แต่พวกเขาได้เปิดใจและพบว่าเคมีเข้ากันได้ดีจริงๆ

ปูตินเองเล่าว่า สีมอบเค้กวันเกิดให้กับเขา ส่วนเจ้าตัวเปิดขวดวอดกาฉลอง จากนั้นสองชายหวนระลึกถึงความหลังระหว่างดื่มและรับประทานแซนด์วิช

“ผมไม่เคยสร้างความสัมพันธ์แบบนั้น หรือทำการนัดหมายแบบนั้นกับผู้นำต่างชาติคนอื่นเลย แต่ผมทำกับประธานาธิบดีสี” ปูตินกล่าวกับสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีในปี 2561

“นี่ดูเหมือนไม่เกี่ยวข้องกัน แต่ถ้าจะพูดเกี่ยวกับประธานาธิบดีสี ผมอยากเริ่มต้นด้วยเรื่องนี้”

ความเห็นดังกล่าวตามด้วยทริปเยือนปักกิ่ง ที่สีมอบเหรียญมิตราภรณ์เหรียญแรกของจีนให้กับปูติน

“เขาคือเพื่อนที่ดีที่สุด สนิทที่สุดของผม ไม่ว่าสถานการณ์ระหว่างประเทศจะผันผวนเช่นไรจีนและรัสเซียให้ความสำคัญกับการพัฒนาความสัมพันธ์เป็นอันดับแรกเสมอมา” สีกล่าวถึงปูติน

ผู้นำจีนยึดมั่นต่อคำพูดนั้น แม้แต่หลังปูตินรุกรานยูเครนเมื่อหนึ่งปีก่อน ไม่ถึงสามสัปดาห์ก่อนหน้านั้น ปูตินมาเยือนปักกิ่งแล้วลงนามสิ่งที่จีนเรียกว่า ความเป็นหุ้นส่วน “ไม่มีขีดจำกัด” ทางการจีนไม่เคยวิจารณ์รัสเซีย ไม่แม้กระทั่งจะเรียกว่าสงคราม พร้อมๆ กับผลิตซ้ำเรื่องเล่าของปูตินที่กล่าวโทษการขยายสมาชิกขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต)

ใกล้ชิดแต่ไม่เท่าเทียม

มีความกังวลเพิ่มมากขึ้นว่า ปักกิ่งอาจจัดหาอาวุธให้รัสเซีย สัปดาห์ก่อน POLITICO รายงานอ้างข้อมูลศุลกากรว่า บริษัทจีน รวมถึงรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่งส่งปืนไรเฟิลจู่โจม 1,000 กระบอกให้บริษัทรัสเซีย รวมถึงอุปกรณ์อื่นที่อาจนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางทหารได้ เช่นชิ้นส่วนโดรนและเสื้อเกราะ

ไม่เพียงเท่านั้น กองทัพจีนและรัสเซียยังซ้อมรบร่วมกันนอกยุโรปด้วย ล่าสุดซ้อมรับทางทะเลร่วมกับอิหร่านในอ่าวโอมาน

สำนักข่าวทาสส์ของรัสเซียรายงานว่า ระหว่างการเยือนของสีในสัปดาห์นี้ ผู้นำทั้งสองจะสรุปข้อตกลง 12 ฉบับ ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าสีและปูตินน่าจะลงนามข้อตกลงเพิ่มอีก เพื่อส่งเสริมการค้าโดยเฉพาะพลังงาน และเพิ่มความพยายามค้าขายกันด้วยสกุลเงินของตนเอง

นอกจากนี้ สีน่าจะย้ำถึงจุดยืนทางการเมือง 12 ข้อของจีนต่อวิกฤติยูเครน ที่ออกมาเมื่อเดือนก่อน โดยกล่าวถึงความจำเป็นในการเคารพอธิปไตย รื้อฟื้นการเจรจาสันติภาพ รวมถึงประเด็นของรัสเซีย เช่น ห้ามขยายกลุ่มความร่วมมือทางทหาร ซึ่งเป็นการวิจารณ์สหรัฐอย่างเปิดเผยที่สนับสนุนยูเครนเข้าร่วมนาโต อย่างไรก็ตามมีรายงานด้วยว่า สีอาจคุยโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครนหลังจากเยือนมอสโก

 แต่ไรอัน ฮาส นักวิจัยอาวุโสจากกลุ่มคลังสมอง สถาบันบรุคกิงส์ เสริมว่า  ความสำคัญสูงสุดของปักกิ่งคือ “วางตัวรัสเซียในระยะยาวให้เป็นพันธมิตรรายเล็กกว่าของจีน สำหรับสี การผนึกรัสเซียในฐานะพันธมิตรรายเล็กกว่าคือรากฐานวิสัยทัศน์ของเขาต่อการฟื้นฟูชาติ”

เพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ การอยู่ในอำนาจของปูตินเป็นสิ่งที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้สำหรับปักกิ่ง “เป้าหมายของจีนคือปกป้องไม่ให้รัสเซียและปูตินล่มสลาย” เพราะฉะนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือแสดงการสนับสนุนที่ไม่ใช่แค่ไปร่วมงานเลี้ยงรัฐพิธี ในเวลาที่เพื่อนรักต้องการตัวมากที่สุด