‘คาซัคสถาน’ บนก้าวย่างสู่วันสำคัญ

‘คาซัคสถาน’ บนก้าวย่างสู่วันสำคัญ

คาซัคสถานจะมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสภาท้องถิ่นในวันที่ 19 มี.ค. อาร์มัน อิสเซตอฟ (H.E. Mr. Arman Issetov) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐคาซัคสถานประจำประเทศไทย นำเสนอบทความพิเศษชี้ให้เห็นถึงเส้นทางการเปลี่ยนผ่านของประเทศผ่านกระบวนการประชาธิปไตย

การเริ่มต้นปีนี้ของคาซัคสถานช่างแตกต่างเมื่อเทียบกับโศกนาฏกรรมในเดือน ม.ค.ปี 2565 แค่ 12 เดือนก่อนเท่านั้นเองที่ประเทศนี้ตกอยู่ท่ามกลางความรุนแรงเพื่อก่อรัฐประหารผสมโรงกับกลุ่มที่อยากเห็นชาติของเราล่มสลาย มีความเป็นไปได้อย่างมากว่าความเป็นรัฐของคาซัคสถานจะแตกสลายจากภายใน ซึ่งจะส่งผลสะท้อนไปไกลเกินเอเชียกลาง

‘คาซัคสถาน’ บนก้าวย่างสู่วันสำคัญ

โชคดีที่ประเทศเราไม่ใช่แค่ฟื้นตัวจากบาดแผลของเดือน ม.ค.2565 แต่ยังแข็งแกร่งยิ่งขึ้นด้วยพื้นฐานการปกครองที่ดีผ่านการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและเศรษฐกิจสังคม 12 เดือนผ่านไปอย่างรวดเร็วจาก ม.ค.2565 ประเทศเราเปลี่ยนไปจนแทบจำไม่ได้ การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่านการลงประชามติเมื่อเดือน มิ.ย.2565 ได้นำหลักการประชาธิปไตยใหม่มาสู่ประเทศได้แก่ เพิ่มอำนาจรัฐสภา จำกัดอำนาจประธานาธิบดี จดทะเบียนตั้งพรรคการเมืองใหม่ได้ง่ายขึ้น เลือกตั้งนายกเทศมนตรีโดยตรง และอื่นๆ

ม.ค.ปีนี้มีการริเริ่มทางการเมืองหลายอย่าง ที่สำคัญที่สุดน่าจะเป็นการตั้งศาลรัฐธรรมนูญ ที่พลเมืองทุกคนสามารถยื่นฟ้องได้ รวมถึงมีคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนและอัยการสูงสุด ศาลจะเป็นหลักประกันว่า กฎหมายคาซัคสถานสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญและปกป้องสิทธิพื้นฐานของพลเมือง

ตอนนี้ประเทศของเรากำลังจะจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสภาท้องถิ่นในวันที่ 19 มี.ค. การเลือกตั้งเหล่านี้มีความสำคัญหลายประการ ประการแรก สองพรรคการเมืองที่เพิ่งตั้งเมื่อเร็วๆ นี้จะร่วมลงแข่งขันด้วย เมื่อปลายปีที่ผ่านมามีการก่อตั้งพรรคกรีน ซึ่งจะเพิ่มการตระหนักรู้เรื่องปัญหาสิ่งแวดล้อม ประเด็นที่สำคัญมากเนื่องจากความท้าทายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ในภาพรวม การเลือกตั้งครั้งนี้มีพรรคการเมืองเจ็ดพรรคร่วมเสนอทางเลือก การมีส่วนร่วมแข่งขันของพวกเขาจะมีส่วนส่งเสริมระบบหลายพรรคให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ด้วยการเพิ่มเสียงข้างมากและอิทธิพลของฝ่ายค้าน ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ประเทศเราพยายามทำมาตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และที่สำคัญเกณฑ์สำหรับพรรคการเมืองเข้าสภาลดลงจาก 7% มาอยู่ที่ 5% ฝ่ายค้านจึงเข้าสภาและเพิ่มบทบาทสำคัญในการตรวจสอบรัฐบาลได้มากขึ้น

ประการที่ 2 ตัวแบบเสียงข้างมากแบบผสมจะนำมาใช้เป็นครั้งแรกในการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎรนับตั้งแต่ปี 2547 ผู้แทน 70% ได้รับเลือกตั้งผ่านระบบบัญชีรายชื่อ อีก 30% มาจากเสียงข้างมากแบบเขตเดียวคนเดียว

นี่หมายความว่า ส.ส. 29 คนจาก 98 คน มาจากเขตเลือกตั้งแบบเขตเดียวคนเดียว 69 คนมาจากปาร์ตี้ลิสต์ตามตัวแบบผู้แทนสัดส่วนที่เขตประเทศถือเป็นเขตเลือกตั้ง ส่วนการเลือกตั้งสภาเขตและสภาเมืองทั่วประเทศจะใช้ระบบเลือกตั้งแบบผสมเช่นกัน ในสัดส่วน 50/50 ขณะที่สภาท้องถิ่นระดับต่ำกว่านั้นจะได้รับเลือกตั้งมาด้วยเสียงข้างมากล้วนๆ

นอกจากนี้บัตรเลือกตั้งยังมีตัวเลือก “ไม่ประสงค์เลือกผู้ใด” เอาไว้ด้วย ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งแสดงความไม่เห็นชอบต่อผู้สมัครทุกคนหากประสงค์จะทำเช่นนั้น

ประการสุดท้าย ยังมีการกำหนดโควตา ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ 30% ให้ผู้หญิง เยาวชน และบุคคลผู้มีความจำเป็นพิเศษ เพื่อสร้างหลักประกันว่าสภามีตัวแทนจากคนทุกกลุ่มของประเทศ

คาซัคสถานแสดงความมุ่งมั่นเสมอมาต่อการจัดเลือกตั้งที่เสรี เปิดกว้าง และเป็นธรรม บทบาทของผู้สังเกตการเลือกตั้งมีความสำคัญมากอย่างไม่ต้องสงสัยในแง่นี้ ดูจากครั้งก่อนตอนเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อเดือน พ.ย.2565 เราได้เชิญองค์กรระหว่างประเทศ 10 องค์กรและผู้สังเกตการณ์จำนวนมากมาดูการเลือกตั้ง สำหรับครั้งนี้เราคาดหวังภารกิจสังเกตการเลือกตั้งครั้งใหญ่สุดจากองค์การเพื่อความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (โอเอสซีอี) สำนักงานเพื่อสถาบันประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน (โอดีไอเอชอาร์) และเครือรัฐเอกราช (ซีไอเอส)

การเลือกตั้งที่กำลังมาถึงจะเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญในการพัฒนาประชาธิปไตยของคาซัคสถาน หลายคนไม่มั่นใจว่าประเทศนี้จะฟื้นตัวได้หรือไม่หลังเกิดความไม่สงบในเดือน ม.ค.2565 แต่เราก็เอาชนะอุปสรรคเหล่านี้ได้ นอกเหนือจากแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและเสถียรภาพแล้ว เรายังแปลงโฉมประเทศผ่านโครงการริเริ่มสำคัญทางการเมืองและเศรษฐกิจสังคม

‘คาซัคสถาน’ บนก้าวย่างสู่วันสำคัญ

การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่สามารถเปลี่ยนประเทศได้ในชั่วข้ามคืน แต่จะมีส่วนสร้างคาซัคสถานที่เป็นธรรมมากยิ่งขึ้น นั่นคือสังคมมั่งคั่ง มีชีวิตชีวามากกว่าเดิมเป็นพลวัต และระบบการเมืองที่มีการแข่งขัน ประเทศแบบนี้มีแต่จะแข็งแกร่งขึ้น เป็นหุ้นส่วนที่รับผิดชอบมากขึ้นในการร่วมมือกับประชาคมโลกรวมทั้งราชอาณาจักรไทย

ในช่วงที่โลกยังเดินหน้าฝ่าฟันความท้าทายทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจในปัจจุบัน คาซัคสถานที่มั่นคงเจริญรุ่งเรืองไม่ได้ให้ประโยชน์แค่พลเมืองของเราเอง แต่รวมทั้งภูมิภาคและที่ไกลออกไป การปฏิรูปการเมืองโดยการเลือกตั้งแบบแข่งขันคือพื้นฐานที่ประชาชนของเราจะมั่นใจได้ถึงเสถียรภาพและการเดินหน้าสร้างอนาคต