เปิดหลักสูตรการศึกษาประเทศท็อปทรี ขวัญใจเด็กไทย
เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2565 สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) สำรวจความคิดเห็นเด็กไทยในงานมหกรรมศึกษาต่อต่างประเทศ 𝗢𝗖𝗦𝗖 𝗜𝗻𝘁𝗲𝗿𝗻𝗮𝘁𝗶𝗼𝗻𝗮𝗹 𝗘𝗱𝘂𝗰𝗮𝘁𝗶𝗼𝗻 𝗘𝘅𝗽𝗼 𝟮𝟬𝟮𝟮 พร้อมเปิดโพลประเทศสุดฮอตด้านการศึกษาของเด็กไทยมากที่สุด
จากการที่ผู้คนได้ลงทะเบียนเข้ามา ผลปรากฏว่า 10 ประเทศสุดฮอต ได้แก่
1.อังกฤษ : 12.04% (1,597)
2.ออสเตรเลีย : 10.90% (1,446)
3.สหรัฐอเมริกา : 10.76% (1,428)
4.แคนาดา : 8.12% (1,078)
5.นิวซีแลนด์ : 5.57% (739)
6.สวิตเซอร์แลนด์ : 5.46% (724)
7.เยอรมนี : 5.27% (699)
8.ญี่ปุ่น : 4.92% (653)
9.สิงคโปร์ : 4.53% (601)
10.เนเธอร์แลนด์ : 3.84% (509)
หลักสูตรประเทศท็อปทรีที่เด็กไทยอยากไปเรียนมากที่สุด
อังกฤษ
ข้อมูลจากเว็บไซต์รัฐบาลสหราชอาณาจักรระบุ หลักสูตรแห่งชาติอังกฤษ แบ่งออกเป็น 4 ขั้นเรียกว่า Key Stage (KS) เมื่อจบแต่ละขั้นครูจะประเมินผลการเรียนของเด็กๆ เริ่มต้นจาก ปฐมวัย อายุ 3-5 ปี สอนผ่านการเล่นและเกม เนื้อหาครอบคลุมการสื่อสารและภาษา การพัฒนาทางกายภาพ การพัฒนาส่วนบุคคล สังคม และอารมณ์ การอ่านและเขียน คณิตศาสตร์ การเข้าใจโลกภายนอก การแสดงออกทางศิลปะและการออกแบบ
ถัดมาเป็น KS1 อายุ 5-7 ปี และ KS2 อายุ 7-11 ปี วิชาที่ต้องเรียน ได้แก่ อังกฤษ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ การออกแบบและเทคโนโลยี ประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ ศิลปะและการออกแบบ ดนตรี การพัฒนาทางกายภาพ เช่น ว่ายน้ำ คอมพิวเตอร์ ภาษาต่างประเทศทั้งโบราณและสมัยใหม่
KS3 อายุระหว่าง 11-14 ปี วิชาส่วนใหญ่เหมือนกับ KS2 วิชาภาษาโบราณไม่ได้เรียนแล้วแต่จะมีวิชาพลเมือง (Citizenship) มาแทน
KS4 อายุระหว่าง 14-16 ปี เด็กๆ จะได้เรียนหลักสูตร GCSE (General Certificate of Secondary Education) เด็กๆ มีโอกาสเลือกวิชาที่ตนอยากเรียนและสอดคล้องกับสาขาที่ต้องการเรียนต่อในมหาวิทยาลัย
ออสเตรเลีย
ปีนี้ออสเตรเลียจะเริ่มใช้หลักสูตรเวอร์ชัน 9 โดยหลักสูตรการศึกษาของออสเตรเลียกำหนดความรู้ ความเข้าใจ และทักษะที่จำเป็นที่นักเรียนต้องรู้ และคุณภาพการเรียนที่นักเรียนจะได้รับในช่วง 11 ปีแรกในโรงเรียน วิชาที่สอน ได้แก่ ภาษาอังกฤษ, คณิตศาสตร์, วิทยาศาสตร์, สุขภาพและพัฒนาการทางกายภาพ, มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ เช่น วิชาหน้าที่และความเป็นพลเมือง เศรษฐศาสตร์และธุรกิจ ภูมิศาสตร์และประวัติศาสตร์, ศิลปะ เช่น เต้นรำ ละคร สื่อศิลปะ ดนตรีและทัศนศิลป์, เทคโนโลยี เช่น ออกแบบและเทคโนโลยี ดิจิทัลเทคโนโลยี, ภาษา
ความพิเศษของหลักสูตรเวอร์ชัน 9 คือบรรจุวิชาประวัติศาสตร์ออสเตรเลียเป็นวิชาบังคับใน Year9 และ 10 จากเดิมเป็นวิชาบังคับเพื่อให้เด็กๆ ชื่นชมความเป็นประชาธิปไตยและมั่งคั่งของออสเตรเลียให้มากขึ้น
สหรัฐ
การเรียนในสหรัฐจะเรียกชั้นต่างๆ ว่า Grade ขณะที่อังกฤษเรียกว่า Year แต่ทั้งสองประเทศใช้เวลาเรียนในโรงเรียนและมหาวิทยาลัยรวม 16 ปีเท่ากัน ระบบโรงเรียนสหรัฐแบ่งออกเป็นสี่ช่วง ได้แก่ อนุบาล อายุ 4-6 ปี, ประถม เกรด 1-5 อายุ 6-11 ปี, มัธยมต้น เกรด 6-8 อายุ 11-14 ปี, มัธยมปลาย เกรด 9-12 อายุ 14-18 ปี
ในระดับอนุบาลซึ่งเป็นประสบการณ์แรกในโรงเรียนเด็กๆ จะได้เรียนรู้เรื่องแนวคิดการเขียนด้วยตัวพิมพ์ ตัวอักษร ตัวเลขพื้น การเข้าสังคมในโรงเรียน
ระดับประถมต้นเรียนการอ่าน คณิตศาสตร์พื้นฐาน และแนวคิดพื้นฐานของวิชาต่างๆ จากนั้นเรียนในหัวข้อที่ซับซ้อนขึ้น เช่น เศรษฐศาสตร์ ประวัติศาสตร์สหรัฐ วิทยาศาสตร์ เปิดโอกาสการเรียนรู้ในวิชาอื่นที่ไม่ใช่วิชาหลัก อาทิ วิจิตรศิลป์ การพัฒนาทางกายภาพ วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ และภาษาศาสตร์
เกรด 6-8 เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านจากนักเรียนประถมสู่ไฮสคูล ช่วงชั้นนี้นักเรียนจะเริ่มเลือกได้บางวิชา และลงลึกที่ไม่ใช่วิชาหลัก
มัธยมปลาย (เกรด 9-12) หลักสูตรประกอบด้วยวิชาหลากหลาย รวมถึงโครงการพิเศษที่น่าสนใจ เช่น ศิลปะ คณิตศาสตร์ หรือการบิน ซึ่งโรงเรียนแต่ละแห่งมีข้อกำหนดต่อนักเรียนแตกต่างกันไป