“ขยายพื้นที่เพาะปลูก”ทางเลือกกู้วิกฤติขาดแคลนอาหารเกาหลีเหนือ

“ขยายพื้นที่เพาะปลูก”ทางเลือกกู้วิกฤติขาดแคลนอาหารเกาหลีเหนือ

เกาหลีเหนือที่ขยันทดสอบขีปนาวุธพิสัยต่างๆ จนสร้างความกังวลแก่ภูมิภาคเอเชีย ประกาศปรับปรุงระบบชลประทานทั่วประเทศและพื้นที่เพาะปลูกเพื่อเพิ่มผลผลิตด้านอาหารให้เพียงพอกับความต้องการของประชาชน

สำนักข่าวกลางเกาหลี (KCNA) ของทางการเกาหลีเหนือรายงานในวันพฤหัสบดี (2 มี.ค.) ว่า “คิม จองอึน” ผู้นำเกาหลีเหนือมีคำสั่งให้ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานและขยายพื้นที่เพาะปลูกเพื่อเพิ่มการผลิตอาหาร ขณะที่มีการเตือนถึงวิกฤตด้านอาหารที่กำลังจะเกิดขึ้น

คิม สั่งให้ทำการปรับปรุงระบบชลประทาน สร้างเครื่องจักรทำการเกษตรสมัยใหม่ และเพิ่มพื้นที่เพาะปลูกให้มากขึ้น ขณะที่เขาปิดการประชุมใหญ่ครั้งที่ 7 ของคณะกรรมการกลางของพรรคแรงงานเมื่อวันพุธ (1 มี.ค.)

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า เศรษฐกิจเกาหลีเหนือได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมและพายุไต้ฝุ่น อีกทั้งยังถูกคว่ำบาตรเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธ รวมถึงการค้ากับจีนก็ลดลงอย่างมาก เนื่องจากการปิดพรมแดนและการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

ด้านสำนักงานพัฒนาชนบทของเกาหลีใต้ประเมินว่า ผลผลิตเกษตรของเกาหลีเหนือในปี 2565 ลดลงเกือบ 4% จากปี 2564 โดยระบุถึงภาวะฝนตกหนักในฤดูร้อนและภาวะเศรษฐกิจอื่น ๆ

คิม วางแผนการและภารกิจเฉพาะ เพื่อสร้างชุมชนชนบทสังคมนิยมที่มั่งคั่งและมีอารยธรรมสูงด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำและอารยธรรมสมัยใหม่ ทั้งยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการกวดขันด้านระเบียบวินัยในการดำเนินการตามแผนเศรษฐกิจแห่งชาติ รวมทั้งเตือนถึงการปฏิบัติต่าง ๆ ที่จะทำให้องค์กรและอำนาจบริหารของคณะรัฐมนตรีอ่อนแอลง และสั่งให้ทุกหน่วยงานของพรรคตรวจสอบประสิทธิภาพในการทำงานด้วย

เกาหลีเหนือเป็นหนึ่งในประเทศที่เผชิญภาวะขาดแคลนอาหารอยู่บ่อยครั้ง ขณะที่การควบคุมพรมแดนอย่างเข้มงวด ประกอบกับสภาพดินฟ้าอากาศที่เปลี่ยนแปลง และการคว่ำบาตรจากประชาคมโลกทำให้ปัญหานี้ทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

สำนักข่าวเคซีเอ็นเอ ระบุว่า การขาดแคลนอาหารในประเทศเป็นภารกิจเร่งด่วนและสำคัญอย่างยิ่งที่รัฐบาลเปียงยางต้องเร่งแก้ไข ขณะที่กระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้เตือนเรื่องภาวะขาดแคลนอาหารในเกาหลีเหนือด้วยเหมือนกัน พร้อมทั้งร้องขอความช่วยเหลือไปยังโครงการอาหารโลกแห่งสหประชาชาติ (ดับเบิลยูเอฟพี)
 

ขณะที่ภาพถ่ายดาวเทียมของทางการเกาหลีใต้ก่อนหน้านี้ แสดงให้เห็นว่า ในปี 2565 เกาหลีเหนือผลิตอาหารได้น้อยกว่าปี 2564 ถึง 180,000 ตัน และเมื่อเดือน มิ.ย.ปีที่แล้ว ดับเบิลยูเอฟพี แสดงความกังวลว่าสภาพอากาศรุนแรงสุดขั้ว อย่างเช่น ภัยแล้ง และน้ำท่วม อาจทำให้ผลผลิตทางการเกษตรในฤดูหนาวและฤดูใบไม้ผลิของเกาหลีเหนือมีปริมาณลดลง

“เบนจามิน คัตเซฟฟ์ ซิลเบอร์สไตน์” จาก 38 North.org ซึ่งวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับเกาหลีเหนือ ระบุว่า ปีนี้ราคาอาหารพุ่งสูงขึ้นตามที่คาดการณ์ ท่ามกลางปริมาณผลผลิตทางการเกษตรที่ตกต่ำ ทำให้ชาวเกาหลีเหนือต้องหันไปพึ่งพาอาหารราคาถูก

ขณะที่ “ริมจิน-กัง” นิตยสารข่าวเกาหลีเหนือที่มีสำนักงานในญี่ปุ่น รายงานว่า ราคาข้าวโพดปรับตัวสูงขึ้น 20% ช่วงต้นปี 2566 ส่งชาวเกาหลีเหนือหันไปรับประหารอาหารชนิดอื่นที่มีราคาถูกกว่าข้าวกันมากขึ้น

“ถ้าผู้คนซื้อข้าวโพดมากขึ้น หมายความว่าอาหารส่วนใหญ่มีราคาแพงขึ้น โดยเฉพาะอาหารหลักอย่างข้าว” ซึ่งปัจจุบันมีราคาประมาณกิโลกรัมละ 3,400 วอนเกาหลีเหนือ" ซิลเบอร์สไตน์  กล่าว

ด้าน CIA World Factbook ข้อมูลจากสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐ(ซีไอเอ)ประเมินว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ( จีดีพี )ต่อหัวประชากรเกาหลีเหนือในปี 2558 อยู่ที่ประมาณ 1,700 ดอลลาร์

ขณะที่ "เจมส์ เฟรตเวลล์" นักวิเคราะห์จากเอ็นเคนิวส์ ระบุว่า เนื่องจากมาตรการควบคุมโควิดที่เข้มงวดต่อบุคคลและสินค้าบริเวณพรมแดนเกาหลีเหนือ ทำให้ไม่มีทางที่คนภายนอกจะเข้าไปในประเทศ เพื่อตรวจสอบสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้และมาตรการดังกล่าวยังทำให้องค์กรต่างชาติส่งความช่วยเหลือให้เกาหลีเหนือในยามวิกฤตยากลำบากไปด้วย