เกาหลีเหนือระดมแรงงานหนุ่มสาวสร้างบ้าน 50,000 หลัง ไม่หวั่นแม้ศก.ตกต่ำ

เกาหลีเหนือระดมแรงงานหนุ่มสาวสร้างบ้าน 50,000 หลัง ไม่หวั่นแม้ศก.ตกต่ำ

สื่อรัฐบาลเกาหลีเหนือ รายงานว่า “คิม จองอึน” ผู้นำเกาหลีเหนือ ระดมแรงงานหนุ่มสาวเพื่อเปิดตัวโครงการสร้างบ้านใหม่ในรุงเปียงยาง เนื่องจากคิมต้องการผลักดันแผนสร้างบ้าน 50,000 หลังในเมืองหลวงให้เสร็จสิ้นภายในปี 2568 แม้เศรษฐกิจตกต่ำอย่างหนัก

เคซีเอ็นเอ สื่อรัฐบาลเกาหลีเหนือ เปิดเผยว่า คิมเข้าร่วมงานวางศิลาฤกษ์โครงการก่อสร้าง ในเขตโซโปของกรุงเปียงยาง เมื่อวันเสาร์ (25 ก.พ.) ร่วมกับแรงงานหนุ่มสาวหลายพันคน 

เมื่อปี 2564 คิมเปิดเผยแผนสร้างบ้านใหม่ 50,000 หลังในเปียงยาง ภายในปี 2568 ส่วนในปี 2565 อพาร์ทเมนท์ 10,000 ห้องแรก รวมถึงตึกระฟ้า 80 ชั้น สร้างเสร็จแล้ว

ทั้งนี้ คิมบอกว่า โครงการสร้างบ้านเผชิญกับความท้าทายรุนแรงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยคิมระดมแรงงานวัยหนุ่มสาว ซึ่งเรียกว่า กองพลฉุกเฉิน (Shock Brigade) ในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่มักประสบความขาดแคลนทรัพยากร

 

ส่วนในเขตโซโป คิมคั้งเป้าสร้างถนนพิเศษที่เต็มไปด้วยบ้านเรือนประมาณ 4,100 หลัง และนอกเหนือจากการเปิดตัวอพาร์ทเมนท์ 10,000 ห้อง คิมได้กล่าวขอบคุณแรงงานหนุ่ม 100,000 คนที่อาสาเข้าร่วมโครงการสร้างบ้านด้วย

ทั้งนี้ โครงการสร้างบ้านใหม่จะเป็นอีกความภูมิใจหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ของกลุ่มเคลื่อนไหวเยาวชน และเป็นสัญลักษณ์การปฏิวัติสังคมนิยมของประเทศและการต่อสู้ทางการเมือง

“สถาปัตยกรรมพิเศษแห่งถนนสายนี้จะแสดงให้เห็นถึงสถานะของชาติและการพัฒนาอย่างรวดเร็ว” คิมกล่าว พร้อมลูกสาวคนเล็กที่เริ่มปรากฎตัวในงานสำคัญต่าง ๆ

เกาหลีเหนือระดมแรงงานหนุ่มสาวสร้างบ้าน 50,000 หลัง ไม่หวั่นแม้ศก.ตกต่ำ

และเสริมว่า โครงการบ้านใหม่พิสูจน์ให้ทั่วโลกเห็นว่า ความเคลื่อนไหวของเกาหลีเหนือและการต่อสู้กำลังก้าวหน้าและพัฒนา ทั้งยังขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง แม้เผชิญกับบททดสอบที่ยากลำบากที่สุด

แผนดังกล่าวเปิดเผยหลังจาก เกาหลีใต้เตือนถึงวิกฤตขาดแคลนอาหารอย่างรุนแรงในเกาหลีเหนือ ท่ามกลางการคว่ำบาตรเกี่ยวกับโครงการอาวุธต่าง ๆ และผลกระทบจากการล็อกดาวน์โควิด-19 รวมถึงมียอดผู้เสียชีวิตจากความอดอยากเพิ่มขึ้นในพื้นที่ชนบทบางแห่ง

อย่างไรก็ตาม เกาหลีเหนือยังไม่ยืนยันเกี่ยวกับวิกฤตขาดแคลนอาหารแต่อย่างใด แต่พรรครัฐบาลมีกำหนดประชุมปลายเดือน ก.พ. เพื่อหารือเกี่ยวกับการพัฒนาการเกษตร และเรียกการประชุมนี้ว่า เป็นภารกิจเร่งด่วนและฉุกเฉิน