บทบาทโฆษกหญิงกระทรวงต่างประเทศในยุค ‘โลกแบ่งขัั้วอำนาจ’

บทบาทโฆษกหญิงกระทรวงต่างประเทศในยุค ‘โลกแบ่งขัั้วอำนาจ’

บทบาทกระทรวงต่างประเทศในยุค ‘โลกแบ่งขัั้วอำนาจ’“ เป็นความท้าทายอย่างยิ่งกับโฆษกหญิงกระทรวงบัวแก้วคนใหม่ ซึ่งเธอบอกว่า "ภาพลักษณ์ไทยที่บอกผ่านความสามารถของผู้หญิงในด้านบวกๆ เป็นสิ่งยืนยันถึงศักยภาพ ภาพลักษณ์ที่ดีและสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศ”

ท่ามกลางโลกแบ่งขั้วอำนาจทางการเมือง เศรษฐกิจและเทคโนโลยีที่เชื่อมโยงผลประโยชน์หลายฝ่าย เป็นเรื่องท้าทายกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะด่านหน้าประสานความร่วมมือไทยกับประเทศต่างๆ เพื่อรับมือสถานการณ์โลกที่มีความสลับซับซ้อนมากขึ้น 

ต้องไปฟัง “กาญจนา ภัทรโชค” อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศที่เพิ่งรับตำแหน่งเมื่อกลางเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเปรียบได้กับกระบอกเสียงของประเทศ มีหน้าที่ชี้แจงทำความเข้าใจกับต่างชาติ และความเป็นโฆษกหญิงจะมีส่วนเพิ่มความเชื่อมั่นของนานาชาติต่อไทยได้อย่างไร

กาญจนา เล่าว่า ในฐานะโฆษก กต.ต้องสื่อสารท่าทีของไทยออกไปให้ชัดเจนที่สุด ยึดถือตามหลักการและข้อเท็จจริงที่ตั้งอยู่บนความสมดุลเพราะเราเป็นเพื่อนกับทุกฝ่าย จึงเชื่อว่าเป็นเรื่องที่มิตรประเทศรับฟังได้ เพราะตระหนักถึงจุดยืนประเทศไทยอยู่ก่อนแล้ว

"เราไม่ได้เลือกข้างประเทศไหน เพราะท่าทีไทยตั้งแต่ไหนแต่ไร เราพยายามรักษาดุลยภาพ (Strategic Equilibrium) นั่นหมายถึงเราอาจใกล้ชิดกับประเทศหนึ่งในบางเรื่อง ยกตัวอย่างกรณีจีน ซึ่งเป็นประเทศขนาดใหญ่และตั้งอยู่ใกล้กับไทย ปัจจุบัน มีคนไทยเชื้อสายจีนอยู่ไม่น้อย แถมยังมีประวัติศาสตร์วัฒนธรรมที่เชื่อมโยงกัน จึงเป็นธรรมชาติอยู่แล้ว ถ้าจะถูกมองว่าใกล้ชิดกัน" กาญจนา กล่าว 
 

ส่วนสหรัฐ เป็นพันธมิตรของไทยยาวนานกว่า 200 ปี และมีความร่วมมือครอบคลุมทุกด้าน สิ่งที่โฆษก กต.ต้องทำให้เห็นคือ ไทยไม่ได้เลือกข้างประเทศไหน ปล่อยให้ความสัมพันธ์เป็นไปตามธรรมชาติ และสานความร่วมมือบนผลประโยชน์ในด้านต่างๆ ของแต่ละประเทศ อาจมีมากน้อยต่างกันแต่ละเรื่อง เพราะความเป็นจริงมีเพียงหนึ่งเดียวคือ ไทยรักษาสมดุลท่าทีของเราอยู่

 

บทบาทโฆษกหญิงกระทรวงต่างประเทศในยุค ‘โลกแบ่งขัั้วอำนาจ’

 

พลังสตรีหนุน‘การต่างประเทศ-นักการทูต

กาญจนา เป็นโฆษก กต.หญิงคนที่สามของไทย ก่อนหน้านี้คือวิมล คิดชอบ ดำรงตำแหน่งปี2552 - 2553 และบุษฎี สันติพิทักษ์ ปี2560 - 2563 โดยบทบาทพลังสตรี (Women Empowerment) จะมีส่วนสนับสนุนงานโฆษกกระทรวงและการต่างประเทศของไทยอย่างไร 

กาญจนา มองว่า สมัยที่ตนดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงสต็อกโฮล์มการเป็นทูตผู้หญิงช่วยงานด้านการต่างประเทศได้เยอะทีเดียว เช่น เข้าถึงกลุ่มคนไทยโดยเฉพาะชุมชนที่สวีเดนมีคนส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงถึง 80% ทำให้ความเข้าใจเรื่องราวในฐานะผู้หญิงด้วยกันมีมากขึ้น  และจะร่วมมืออะไรก็ทำได้ง่ายขึ้น

ส่วนเพศสภาพจะมีส่วนต่อการทำหน้าที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศหรือไม่ ตนเชื่อว่า การเป็นโฆษกหญิงจะช่วยส่งเสริมสถานภาพทางสังคมได้มาก โดยเฉพาะ “ภาพลักษณ์ของไทย” เพราะที่ผ่านมา ผู้หญิงไทยมีความสามารถในด้านต่างๆ ไม่เพียงระดับผู้บริหาร แต่ยังรวมถึงบทบาทผู้หญิงในชุมชนต่างๆ จะช่วยส่งเสริมประเทศไทยในทุกด้าน

“ภาพลักษณ์ของไทยที่บอกผ่านความสามารถของผู้หญิงในด้านบวก เป็นสิ่งที่ยืนยันถึงศักยภาพและภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศ” โฆษกกต.กล่าว และในอีกแง่หนึ่งการเป็นโฆษก กต.และนักการทูตหญิงสามารถเป็นทั้งแรงบันดาลใจและจุดประกายให้กับคนรุ่นใหม่ได้มีทางเลือกในวิชาชีพค้นพบสิ่งที่ตนเองต้องการและใช้ความรู้ความสามารถทำประโยชน์สังคมและเป็นหน้าตาให้กับประเทศไทยด้วย
 

บทบาทโฆษกหญิงกระทรวงต่างประเทศในยุค ‘โลกแบ่งขัั้วอำนาจ’

 

การต่างประเทศในสนามโซเชียล

ในสังคมไทยอาจมีกองเชียร์แต่ละข้าง ซึ่งเห็นชัดหน่อยในโซเชียลมีเดีย ที่มีผู้คนออกมาแสดงความคิดเห็นต่างๆนานา ในฐานะโฆษกกระทรวงการต่างประเทศจำเป็นต้องให้ข้อมูลที่ถูกต้องอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงโดยปราศจากอคติกับสาธารณชน เพื่อให้พวกเขาเข้าใจท่าที เงื่อนไขหรือนโยบายการต่างประเทศของไทย รวมถึงทุกๆฝ่าย 

“การต่างประเทศเป็นเรื่องเหตุและผล มีที่มาที่ไป เชื่อมโยงกับคนมากมายหลายกลุ่ม ยิ่งในยุคข้อมูลข่าวสารด้วยแล้ว ถือเป็นความท้าทายแต่สามารถทำได้ไม่ยาก” กาญจนากล่าวและเล่าว่า ยิ่งตอนนี้ดีใจที่การต่างประเทศเป็นเรื่องใกล้ตัวมากขึ้น โดยเฉพาะน้องๆคนรุ่นใหม่ขยันค้นหาข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต แต่อาจมีคนจำนวนมากที่ยังไม่สนใจการต่างประเทศ หรือข่าวต่างประเทศเพราะไม่ค่อยเห็นเป็นข่าวพาดหัวใหญ่เท่าไรนัก

อย่างไรก็ดีเพื่อความต่อเนื่องของนโยบาย ก็ยังคงสืบทอดแนวทางการสื่อสารของโฆษกกระทรวงการต่างประเทศคนก่อนที่เน้นเรื่องโซเชียลมีเดีย และจะนำมาต่อยอดด้วยการขยายแพลตฟอร์มเข้าถึงกลุ่มคนที่หลากหลายและทุกๆที่ ตั้งแต่ปรับลุคเว็บไซต์และเฟซบุ๊กเข้าถึงตรงกลุ่มผู้ใหญ่กับวัยทำงาน สำหรับคนรุ่นใหม่แล้วได้เพิ่มทางเลือกในติ๊กต็อก อินสตราแกรม และบล็อกดิทที่เนื้อหาแต่ละแพลตฟอร์มมีวิธีการสื่อสารแตกต่างกัน

ส่วนสื่อดังเดิมอย่างวิทยุสราญรมย์ทางคลื่นวิทยุเอ.เอ็ม. ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการบอกเล่าความเคลื่อนไหวด้านการต่างประเทศและการทำงานของสถานทูตไทยทั่วโลกให้กับประชาชนที่อยู่ห่างไกล  ไม่ว่าชาวเขาอยู่บนดอยหรือประมงถ่อเรือกลางทะเลก็สามารถรู้ข่าวสารมาตั้งแต่ปี 2541 ซึ่งขณะนี้เตรียมเปิดตัวอีบุ๊คในเร็วๆนี้  

 

บทบาทโฆษกหญิงกระทรวงต่างประเทศในยุค ‘โลกแบ่งขัั้วอำนาจ’

 

“การทูตเชิงรุก” ในยุคสงครามข่าวสาร

ยุคนี้ต้องทำงานเป็นทีมถึงจะมีพลังเข้าถึงคนทุกกลุ่ม กาญจนามองว่า งานของกรมสารนิเทศมีหน้าที่หลักๆแบ่งเป็น 1.การให้ข้อมูลและชี้แจงท่าทีกระทรวง/ประเทศ ผลงานกระทรวง/ประเทศในด้านการต่างประเทศ 2.ความร่วมมือทางวัฒนธรรมและส่งเสริมความนิยมไทย เช่น แฟชั่น อาหาร มวยไทย เทศกาลไทย งานประชาสัมพันธ์ไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพงานภูเก็ตเอ็กซ์โป 2028 ตลอดจนส่งเสริมภาพลักษณ์ต่างๆของประเทศ โดยรองอธิบดีกรมสารนิเทศทั้งสองท่านจะช่วยแบ่งเบาและประสานงานรับไม้ส่งต่อระหว่างกัน พร้อมทั้งทำหน้าที่รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศด้วย 

พูดได้ว่า การทำงานของเราส่วนใหญ่ต้องการให้เป็น “การทูตเชิงรุก” และผลักดันให้มีความร่วมมือทางวัฒนธรรมกับประเทศต่างๆ ควบคู่กับส่งเสริมบทบาทชุมชนไทยในต่างแดน ซึ่งความเป็นจริงดูเหมือนงานด้านการชี้แจงมักจะกินเวลาค่อนข้างมาก แต่เรามีทีมและทุกๆคนในทีมก็มีหน้าที่ที่มีความสำคัญเท่ากัน

 

บทบาทโฆษกหญิงกระทรวงต่างประเทศในยุค ‘โลกแบ่งขัั้วอำนาจ’

 

เลือกตั้งปี66 พิสูจน์ความสามารถโฆษกหญิง

ส่วนในปีนี้ประเทศไทยจะมีเลือกตั้งทั่วไปปี 2566 เชื่อว่าจะอยู่ในความสนใจทั้งคนไทยและต่างชาติ ส่วนตัวย่อมต้องมีความชัดเจนในกฎหมายเลือกตั้งและกระบวนการเลือกตั้งที่เป็นพื้นฐานในหน้าที่อยู่แล้ว เพราะกระทรวงการต่างประเทศและสถานทูตไทยทั่วโลกต้องเตรียมการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรและประชาสัมพันธ์ให้คนไทยได้รู้สิทธิตนเองและกระบวนการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น

ในเวลานั้นเชื่อว่า ในฐานะโฆษก กต.จะมีบทบาทสำคัญ ซึ่งกาญจนากล่าวว่า ส่วนตัวต้องเตรียมตัวให้พร้อมในเรื่องการสร้างความน่าเชื่อถือต่อประเทศ ทั้งเรื่องประชาธิปไตย กระบวนการเลือกตั้งและเปลี่ยนผ่านสู่รัฐบาลใหม่ เพื่อให้รัฐบาลประเทศต่างๆ ได้เข้าใจสถานการณ์แท้จริงที่นำไปสู่ความเชื่อมั่นต่อประเทศไทย รวมถึงลดความกังวลนักลงทุนต่างชาติด้วย