ส่องเทรนด์โควิดจีนขาลง เดินทางตรุษจีนคึกคัก

ตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากโควิด-19 ในจีนยังคงเป็นที่จับตามองของคนทั้งโลก เพราะประเทศใหญ่ขนาดประชากร 1.4 พันล้านคน ไม่ว่าจะปิดประเทศ เปิดประเทศ ใช้มาตรการโควิดเป็นศูนย์หรือยกเลิกล้วนส่งผลกระทบสะเทือนไปทั่วทุกมุมโลก
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน เจียว ยาหุย หัวหน้าสำนักงานบริหารการแทพย์ คณะกรรมาธิการสุขภาพแห่งชาติจีน (เอ็นเอชซี) แถลงเมื่อวันเสาร์ (14 ม.ค.) ว่า ระหว่างวันที่ 8 ธ.ค.-12 ม.ค. จำนวนผู้เสียชีวิตเกี่ยวข้องกับโควิดในโรงพยาบาลรวม 59,938 คน ในจำนวนนี้ 5,503 คน มีเสียชีวิตเพราะระบบทางเดินหายใจล้มเหลวอันเนื่องมาจากโควิด ที่เหลือเป็นผลรวมจากโควิดผสมกับโรคอื่น
ด้านองค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) ที่ไม่กี่วันก่อนวิจารณ์จีนว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโควิดจีนต่ำกว่าความเป็นจริงมาก พร้อมเรียกร้องขอข้อมูลเพิ่มเติม ล่าสุดยินดีกับสิ่งที่จีนประกาศเมื่อวันเสาร์ แต่ก็เรียกร้องขอข้อมูลเพิ่มเติมจากจีนอีก โดยทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการดับเบิลยูเอชโอได้หารือกับหม่า เสี่ยวเว่ย ผู้อำนวยการเอ็นเอชซี เรื่องการระบาดระลอกล่าสุด ที่ดับเบิลยูเอชโอ กล่าวว่า คล้ายคลึงกับที่เห็นในประเทศอื่นๆ ตัวเลขที่จีนรายงานมา เห็นได้ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อ เข้าโรงพยาบาล และที่เข้าห้องไอซียูลดลง
ก่อนหน้านี้ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขนานาชาติ เคยคาดการณ์ว่าปีนี้จีนจะมีผู้เสียชีวิตจากโควิดอย่างน้อย 1 ล้านคน ซึ่งนับตั้งโควิดเริ่มระบาดจีนรายงานจำนวนผู้เสียชีวิตแค่ 5,000 คนเศษเท่านั้น ต่ำสุดประเทศหนึ่งของโลก
เดือนที่ผ่านมาทางการจีนรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตวันละ 5 หรือไม่ถึง 5 คน ไม่สอดคล้องกับภาพถุงใส่ศพที่ออกจากโรงพยาบาลหรือศพรอคิวเผายาวเหยียด
อย่างไรก็ตาม จีนที่รายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตครั้งสุดท้ายเมื่อวันจันทร์ (9 ม.ค.) ยืนกรานว่าข้อมูลโควิดของตนถูกต้อง
เจียว ชี้แจงอีกครั้งเมื่อวันเสาร์ว่า จีนแบ่งการเสียชีวิตเกี่ยวข้องโควิดเป็นสองกลุ่มคือ ระบบทางเดินหายใจล้มเหลวจากการติดเชื้อโควิดกับคนที่เสียชีวิตเพราะมีโรคประจำตัวอยู่ก่อนแล้ว
“มาตรฐานนี้เป็นไปตามองค์การอนามัยโลกและประเทศใหญ่อื่นๆ” เจ้าหน้าที่รายนี้ยืนยัน
หากพิจารณาการแถลงข่าวของรัฐบาลในเดือน ธ.ค. ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพรายหนึ่งกล่าวว่า เฉพาะการเสียชีวิตจากปอดอักเสบและระบบทางเดินหายใจล้มเหลวเท่านั้นจึงจะถือว่าเป็นการเสียชีวิตเพราะโควิดผู้ติดเชื้อที่เสียชีวิตจากอาการหัวใจวายหรือหลอดเลือดหัวใจไม่ถือเป็นการเสียชีวิตจากโควิด
ในสายตาคนนอกอย่างย่านจง หวง นักวิจัยอาวุโสว่าด้วยสุขภาพโลก สภาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในนิวยอร์กมองว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 10 เท่าตามที่จีนประกาศเมื่อวันเสาร์บ่งชี้ว่า การเปลี่ยนนโยบายโควิดอย่างกะทันหันของจีนเกี่ยวข้องกับการเจ็บป่วยรุนแรงและการเสียชีวิต โดยเฉพาะในหมู่ผู้สูงอายุ แต่ก็ยังไม่แน่ชัดว่าตัวเลขใหม่ถูกต้องสะท้อนการเสียชีวิตที่แท้จริงหรือไม่ เพราะแพทย์ไม่กล้ารายงานการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับโควิด และตัวเลขก็นับเฉพาะผู้ที่เข้าโรงพยาบาลเท่านั้น
“ยกตัวอย่างในชนบท คนแก่หลายคนตายที่บ้าน แต่ไม่ได้ตรวจโควิดเพราะเข้าไม่ถึงชุดตรวจ บ้างก็ไม่อยากตรวจ”
เทรนด์โควิดขาลง
นอกจากจำนวนผู้เสียชีวิตแล้ว เจียวกล่าวด้วยว่า จำนวนผู้ป่วยที่จำเป็นต้องรับการรักษาฉุกเฉินลดลง สัดส่วนผู้ป่วยตรวจพบโควิดที่คลินิกรักษาไข้ลดลงอย่างต่อเนื่องเช่นกัน จำนวนผู้ติดเชื้อรุนแรงถึงจุดสูงสุดแล้ว แม้ยังอยู่ในระดับสูง ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ
ขณะนี้จีนเพิ่มซัพพลายยาและอุปกรณ์การแพทย์ในพื้นที่ชนบท พร้อมเพิ่มการฝึกอบรมบุคลากรด่านหน้า เจ้าหน้าที่รายเดิมยืนยันว่า จำนวนผู้เข้าคลินิกรักษาไข้โดยทั่วไปลดลงทั้งในเมืองและเขตชนบทหลังผ่านจุดสูงสุดมาแล้ว
สิ่งที่ต้องจับตาต่อคือการเดินทางกลับบ้านเพิ่มสูงก่อนเทศกาลตรุษจีนที่จะเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 21 ม.ค. คนจีนหลายร้อยล้านคนมุ่งหน้าเมืองใหญ่น้อยและพื้นที่ชนบท ก่อให้เกิดความกังวลว่าการติดเชื้อจะพุ่งขึ้นอีกมาก ซึ่งดับเบิลยูเอชโอเองก็เตือนให้ระวังการเดินทางช่วงนี้
ส่วนการเดินทางทางอากาศนับตั้งแต่จีนเปิดประเทศในวันที่ 8 ม.ค. ตัวเลขจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเมื่อวันศุกร์ (13 ม.ค.) เผยว่า นับตั้งแต่ผู้คนเริ่มเดินทางกลับบ้านตรุษจีนตั้งแต่วันที่ 7 ม.ค. ปริมาณผู้โดยสารเครื่องบินในจีนฟื้นมาอยู่ที่ระดับ 63% ของปี 2562
กระทรวงคมนาคมจีน คาดการณ์ว่า การเดินทางช่วงตรุษจีนที่มีไปจนถึงวันที่ 15 ก.พ. จำนวนผู้โดยสารจะพุ่ง 99.5% หรือฟื้นตัวสู่ระดับ 70.3% ของปี 2562
เมื่อวันศุกร์ที่มาเก๊าศูนย์กลางการพนันจีน นักท่องเที่ยวขาเขา 46,000 คน สูงสุดนับตั้งแต่โควิดเริ่มระบาด ส่วนใหญ่มาจากจีนแผ่นดินใหญ่ สำหรับเทศกาลตรุษจีนที่กำลังมาถึงการท่องเที่ยวในมาเก๊าจะคึกคักมาก





