ChatGPT เอไอวายร้ายการศึกษา ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด

ChatGPT เอไอวายร้ายการศึกษา ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด

ChatGPT เป็นแชทบอทรู้ทุกอย่างที่สร้างขึ้นเมื่อปี 2565 และหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ครูเกิดความกังวลเพิ่มมากขึ้นต่อแชทบอทนี้ เนื่องจากเป็นเครื่องมือปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ที่ใช้งานง่าย แต่ยังมีประโยชน์หากใช้ถูกจุดประสงค์

แชทบอทนี้สามารถเขียนเรียงความได้ครึ่งเรื่อง และสามารถตอบคำถามทั่วไปในชั้นเรียนได้หลายข้อ จนเกิดประเด็นถกเถียงเกี่ยวกับการศึกษาแบบดั้งเดิมในอนาคต

ด้านกระทรวงศึกษาแห่งนิวยอร์กระงับการใช้ ChatGPT ในเครือข่ายของกระทรวงเนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบด้านลบต่อการเรียนรู้ของนักเรียน

เจนนา ไลล์ รองเลขาธิการสื่อจากกระทรวงศึกษานิวยอร์ก เผยว่า “แชทบอทดังกล่าวอาจช่วยให้คำตอบง่ายและรวดเร็ว แต่ไม่ช่วยสร้างทักษะการคิดวิเคราะห์การแก้ไขปัญหา”

อย่างไรก็ตาม นักวิชาการบางคนพึงพอใจกับเอไอสำหรับใช้ในห้องเรียน และเห็นว่าเอไอให้โอกาสมากกว่าการคุกคาม

ChatGPT เอไอที่ไม่ได้สมบูรณ์แบบ

ความกังวลต่อเอไอในด้านการศึกษา ส่วนใหญ่เป็นเพราะแชทบอทนี้ยังให้ข้อมูลที่ผิด

อันโตนิโอ คาซิลลี นักเขียนและนักการศึกษาชาวฝรั่งเศส กล่าวว่า “ChatGPT เป็นนวัตกรรมที่สำคัญแต่ไม่ได้ล้ำไปกว่าเครื่องคิดเลขหรือโปรแกรมแก้ไขข้อความ แชทบอทนี้สามารถช่วยคนที่คิดงานไม่ออกด้วยการเขียนแบบร่างฉบับแรกให้ แต่หลังจากนั้นผู้ใช้งานต้องเขียนและกำหนดแนวทางรายงานเอง”

โอลิเวียร์ เอิร์ตไชด์ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยนองต์ มีความคิดเห็นว่า นักเรียนมัธยมปลายใช้ ChatGPT กันแล้ว หากยิ่งห้ามยิ่งทำให้น่าสนใจมากขึ้น ครูควรใช้แบบกำหนดขีดจำกัด โดยการสร้างข้อความด้วยตนเองและร่วมวิเคราะห์ผลลัพธ์กับนักเรียน

AI ไม่ใช่สิ่งน่ากลัว

อีกเหตุผลสำคัญที่นักการศึกษาไม่จำเป็นต้องวิตกกังวล เนื่องจากเครื่องมือเอไอที่ช่วยด้านการเขียนต่างเผชิญกับโปรแกรมที่พยายามติดตามการทำงานของเอไอ ซึ่ง ChatGPT เจอกับสถานการณ์นี้เช่นกัน

ไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา มีนักโปรแกรมเมอร์มือสมัครเล่นเผยว่า เขาใช้เวลาพักช่วงปีใหม่พัฒนาแอปที่สามารถวิเคราะห์ได้ว่าข้อความต่าง ๆ เขียนโดย ChatGPT หรือไม่ และแอป GPTZero ของโปรแกรมเมอร์คนนี้ไม่ใช่แอปแรกและจะไม่ใช่แอปสุดท้ายเช่นกัน

อีกทั้งหลายมหาวิทยาลัยใช้ซอฟแวร์ที่ตรวจจับการลอกเลียนแบบอยู่แล้ว ดังนั้น ไม่ต้องจินตการถึงอนาคตว่าทุกงานเขียนต้องผ่านระบบเอไอได้ตลอด นอกจากนี้ กลุ่มนักเคลื่อนไหวได้แนะนำให้สร้างลายน้ำหรือแบบฟอร์มอื่น ๆ ที่ช่วยบ่งบอกว่าผลงานเป็นของเอไอ ซึ่ง OpenAI เจ้าของ ChatGPT ได้เริ่มสร้างลายน้ำแล้ว

แต่คาซิลลียังเชื่อว่า ผลกระทบของโปรแกรมเอไอเหล่านี้มีความสำคัญมาก “เมื่อใดก็ตามที่เครื่องมือใหม่ ๆ เกิดขึ้น พวกเราจะกังวลเกี่ยวกับการใช้ในทางที่ผิด แต่เราก็ค้นพบวิธีใช้เครื่องมือเหล่านี้ในการสอนเช่นกัน” คาซิลลีกล่าว