ไบเดนประณาม ม็อบหนุนโบลโซนารู‘บุกทำเนียบ’

ไบเดนประณาม ม็อบหนุนโบลโซนารู‘บุกทำเนียบ’

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประณาม “การทำร้ายประชาธิปไตย” ในบราซิล หลังจากที่กลุ่มผู้สนับสนุนฌาอีร์ โบลโซนารู อดีตประธานาธิบดีขวาจัดของบราซิล บุกเข้าไปในรัฐสภา ทำเนียบประธานาธิบดี และศาลฎีกาในกรุงบราซิเลีย

ประธานาธิบดีไบเดน ระบุ เขาหวังว่าจะได้เดินหน้าร่วมงานกับ ประธานาธิบดีลูอิส อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ผู้นำฝ่ายซ้ายที่คว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีบราซิลในเดือนต.ค. 2565

“ผมขอประณามการทำร้ายต่อประชาธิปไตยและต่อการเปลี่ยนผ่านอำนาจอย่างสันติในบราซิล ผมสนับสนุนสถาบันประชาธิปไตยของบราซิลอย่างเต็มที่ และเจตจำนงของประชาชนชาวบราซิลจะต้องไม่ถูกลิดรอน” ไบเดนกล่าวผ่านทวิตเตอร์

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ก่อนหน้านี้ไบเดนเรียกสถานการณ์ในบราซิลว่าเป็นเรื่อง “อุกอาจ” ซึ่งคล้ายคลึงกับกรณีการบุกรุกรัฐสภาสหรัฐโดยกลุ่มผู้สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อ 2 ปีก่อน

ทั้งนี้ ภาพของกลุ่มผู้ประท้วงสวมชุดสีเหลืองและสีเขียวที่ก่อจลาจลไปทั่วเมืองหลวงนั้น เป็นผลพวงของความตึงเครียดตลอดหลายเดือนหลังจากวันเลือกตั้ง โดยนายโบลโซนารู พันธมิตรของนายทรัมป์ที่ยังไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ กล่าวอ้างว่า ระบบการลงคะแนนอิเล็กทรอนิกส์ของบราซิลมีแนวโน้มที่จะเกิดการฉ้อโกง และจุดประกายให้เกิดความเคลื่อนไหวรุนแรงของกลุ่มผู้ปฏิเสธผลการเลือกตั้ง

นายบ็อบ เมเนนเดซ วุฒิสมาชิกสหรัฐ ประธานคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์ของวุฒิสภาทวีตข้อความ  “ผมขอประณามการโจมตีสถานที่ราชการของบราซิลอย่างอุกอาจครั้งนี้ ที่เกิดขึ้นจากการที่โบลโซนารูบุ่มบ่ามปลุกระดมคนแบบไม่สนใจหลักการประชาธิปไตย สองปีนับตั้งแต่วันที่ 6 ม.ค. มรดกที่ทรัมป์ทิ้งไว้ยังคงทำพิษต่อซีกโลกของเรา เราต้องปกป้องประชาธิปไตยและนำตัวผู้ไม่หวังดีมารับผิดชอบให้ได้”

ด้านนายโบลโซนารูขึ้นเครื่องบินไปรัฐฟลอริดา 48 ชั่วโมงก่อนที่อำนาจความเป็นผู้นำของเขาจะสิ้นสุดลง และไม่เข้าร่วมในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีลูลา

นายวาคีน คาสโตร ผู้แทนจากพรรคเดโมแครตในคณะกรรมาธิการการต่างประเทศของสภาผู้แทนราษฎรเปิดเผยกับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น โดยกล่าวหานายโบลโซนารูว่า “ใช้กลยุทธ์เดียวกับทรัมป์เพื่อปลุกปั่นผู้ก่อการร้ายในประเทศให้พยายามเข้ายึดครองรัฐบาล” และเป็น “คนอันตราย”

“สหรัฐไม่ควรให้ที่หลบภัยแก่เผด็จการรายนี้ที่ปลุกปั่นการก่อการร้ายภายในประเทศ เขาควรถูกส่งตัวกลับบราซิล”นายคาสโตรกล่าว