ชวนอ่าน ‘Spare’ เมแกน 'ตัวการ' พี่น้องทะเลาะกัน

ชวนอ่าน ‘Spare’ เมแกน 'ตัวการ' พี่น้องทะเลาะกัน

หนังสือ “ตัวสำรอง” (Spare) บันทึกความทรงจำเจ้าชายแฮร์รีแห่งอังกฤษ ที่หลายคนรอคอยมีกำหนดวางแผง 10 ม.ค. แต่ฉบับภาษาสเปนวางจำหน่ายแล้ว เนื้อหาชวนอึ้งหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเคยขอให้พระบิดาอย่าอภิเษกกับคามิลลา และเคยเสพโคเคนสมัยเป็นวัยรุ่น

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า Spare เป็นบันทึกความทรงจำส่วนตัวของเจ้าชายแฮร์รีเมื่อต้องรับมือกับการสิ้นพระชนม์ของเจ้าหญิงไดอานามารดา ช่วงเวลาที่เป็นทหารที่เจ้าชายบอกว่าสังหารนักรบตาลีบัน 25 คน และความขัดแย้งกับสื่อ แต่ที่โดนใจที่สุดคือการเปิดเผยความสัมพันธ์ในครอบครัวที่กลายเป็นความไม่สบายใจของราชวงศ์อังกฤษนับตั้งแต่พระองค์และชายาเมแกนเลิกปฏิบัติกรณียกิจในปี 2563 เพื่อย้ายไปใช้ชีวิตใหม่ในแคลิฟอร์เนีย

ชวนอ่าน ‘Spare’ เมแกน \'ตัวการ\' พี่น้องทะเลาะกัน

เจ้าชายแฮร์รี พรรษา 38 ปี เขียนถึงการทะเลาะวิวาทกับเจ้าชายวิลเลียม พระชนมายุ 40 พรรษา ในปี 2562 ณ พระตำหนักในขณะนั้นที่กรุงลอนดอน หลังพระเชษฐาทรงเรียกเมแกนว่า เป็นคน “เรื่องมาก” “หยาบคาย” “ก้าวร้าว”

“เขาคว้าคอเสื้อผม กระชากสร้อยคอ แล้วผลักผมลงกับพื้น ทับชามข้าวหมาแตก เศษชามข้าวบาดหลัง ผมนอนมึนอยู่พักหนึ่ง แล้วค่อยๆ ลุกขึ้นมาบอกให้เขาออกจากบ้านไป”

เจ้าชายวิลเลียมทรงท้าทายให้พระอนุชาสู้กลับ แต่เจ้าชายแฮร์รีปฏิเสธ จากนั้นเจ้าชายวิลเลียมกลับเข้ามาอีกที “ดูเสียใจและสำนักผิด” เจ้าชายแฮร์รีเขียนและว่าเจ้าชายวิลเลียมขอไม่ให้บอกเมแกนว่าถูกพระองค์ทำร้าย

เมื่อก่อนเจ้าชายวิลเลียมและเจ้าชายแฮร์รีถูกมองว่าใกล้ชิดกันมากหลังการสิ้นพระชนม์ของพระมารดาในอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่กรุงปารีสในปี 2540 แต่มาแตกคอกันนับตั้งแต่เจ้าชายแฮร์รีเสกสมรสกับเมแกน อดีตนักแสดงในปี 2561 แล้วทั้งคู่ยกเลิกการปฏิบัติกรณียกิจในฐานะเชื้อพระวงศ์ชั้นสูง

ชวนอ่าน ‘Spare’ เมแกน \'ตัวการ\' พี่น้องทะเลาะกัน

อีกตอนหนึ่งของหนังสือ เจ้าชายแฮร์รีเล่าตอนพบคามิลลาครั้งแรก คนที่เจ้าหญิงไดอานากล่าวโทษว่าทำให้ชีวิตสมรสของพระองค์ล้มเหลว เจ้าชายแฮร์รีและเจ้าชายวิลเลียมพอใจคามิลลา แต่ขอพระบิดาไม่ให้อภิเษกกับเธอ

“แม้วิลลีกับผมขอพ่อว่าอย่าแต่งงานกับเธอ พ่อก็เดินหน้า แม้รู้สึกขมขื่นและเศร้าใจที่ต้องปิดอีกหนึ่งประวัติศาสตร์ของแม่ เราก็เข้าใจว่านี่เป็นคนละเรื่องกัน”

เสียงวิจารณ์รุนแรง

นับตั้งแต่ออกจากชีวิตราชวงศ์ ดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ วิจารณ์ราชวงศ์อังกฤษรุนแรงต่อเนื่อง รวมถึงข้อกล่าวหาเหยียดเชื้อชาติ ที่เจ้าชายวิลเลียมทรงปฏิเสธ ในการให้สัมภาษณ์รายการ“60 Minutes” ทางสถานีโทรทัศน์ซีบีเอส เจ้าชายแฮร์รีบอกว่า" พระองค์อาจดื้อรั้นมาก่อนคบกับเมแกน

“เมื่อก่อนผมก็ไม่รู้ เพิ่งมารู้ตอนนี้”

เดือนที่แล้ว “แฮร์รี-เมแกน” สารคดีหกตอนของเน็ตฟลิกซ์ ดึงดูดคนดูมากเป็นประวัติการณ์ แฉรอยร้าวหลายเรื่อง เช่น เจ้าชายวิลเลียมทรงตะคอกใส่เจ้าชายแฮร์รีตอนหารือเคลียร์ใจเรื่องอนาคตของพระองค์

ข้อกล่าวหาหลักของแฮร์รีและเมแกนไม่ใช่แค่เรื่องที่ข้าราชบริพารไม่ยอมตอบโต้รายงานข่าวให้ร้ายบิดเบือนต่อทั้งคู่ แต่ยังสมรู้ร่วมคิดปล่อยข่าวลบเพื่อปกป้องเชื้อพระวงศ์องค์อื่น หลักๆ คือเจ้าชายวิลเลียม

“ผมไม่รู้วาการนิ่งเฉยจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นได้ยังไง” เจ้าชายกล่าวในคลิปของไอทีวีเมื่อวันพฤหัสบดี (5 ม.ค.) และว่าพระองค์ไม่สามารถรับปากได้ว่าจะมางานราชาภิเษกพระบิดาในเดือน พ.ค.

เมื่อถูกถามว่าทำไมพระองค์ถึงนำเรื่องส่วนตัวของครอบครัวมาเผย ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เคยต่อต้านการรุกล้ำเรื่องส่วนตัว

"นั่นเป็นข้อกล่าวหาจากคนที่ไม่เข้าใจหรือไม่อยากเชื่อว่า ครอบครัวผมกำลังแถลงข่าว" เจ้าชายแฮร์รีชี้แจง

ทั้งนี้ ชื่อหนังสือ “Spare” (ตัวสำรอง) มาจากคำพูดที่เหล่าขุนนางอังกฤษพูดถึงเสมอเรื่องที่จำเป็นต้องมีรัชทายาทและตัวสำรอง เป็นคำที่ว่ากันว่ากษัตริย์ชาร์ลสตรัสกับเจ้าหญิงไดอานาในวันมีพระประสูติกาลเจ้าชายแฮร์รี “เหลือเชื่อเลย ตอนนี้คุณมีทั้งรัชทายาทและตัวสำรองให้ผม งานผมสำเร็จแล้ว”

แต่สิ่งที่เจ้าชายแฮร์รีแฉจะโดนใจประชาชนมากน้อยแค่ไหนยังไม่ทราบแน่ชัด ผลการสำรวจของยูกัฟโพลในสัปดาห์นี้ พบว่า ผู้ให้ข้อมูล 65% ไม่ได้สนใจหนังสือเล่มนี้ที่กำลังจะวางแผนเลยแม้แต่น้อย ขณะที่คนอื่นๆ เห็นใจเจ้าชายวิลเลียมและชายาเคทมากกว่าเจ้าชายแฮร์รีและเมแกน

ด้านแหล่งข่าววงในเผยกับหนังสือหลายฉบับในสัปดาห์นี้ว่า กษัตริย์ชาร์ลสยังทรงหวังว่าจะคืนดีกับพระราชโอรสองค์นี้ได้

 หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนรายงานอ้างเนื้อหาหลุดจากในหนังสือว่า หลังเสร็จสิ้นพระราชพิธีศพเจ้าชายฟิลิป พระสวามีสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ในเดือน เม.ย.2564 กษัตริย์ชาร์ลสประทับยืนอยู่ตรงกลางระหว่างพระราชโอรสทั้งสองในช่วงเวลาแห่งความยากลำบาก ณ พระตำหนักวินด์เซอร์

“ขอเถอะ ลูกชาย อย่าทำให้ช่วงเวลาบั้นปลายชีวิตของพ่อต้องระทมทุกข์เลย” เจ้าชายแฮร์รีกล่าวถึงถ้อยคำของพระบิดา