มาตรการคัดกรอง นักท่องเที่ยวจีน | กันต์ เอี่ยมอินทรา

มาตรการคัดกรอง นักท่องเที่ยวจีน | กันต์ เอี่ยมอินทรา

บรรยากาศเฉลิมฉลองปีใหม่ที่ครึกครื้นทั่วโลก ทำให้ดูเหมือนว่าทุกอย่างกำลังจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติสุข

ไม่ใช่เฉพาะประเทศไทยที่พึ่งพารายได้อย่างหนักจากการท่องเที่ยว หลายประเทศทั่วโลกตั้งแต่ประเทศยักษ์ใหญ่ทางเศรษฐกิจอย่างญี่ปุ่น สหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส สเปน อิตาลี ไล่ลงมาเรื่อยอย่างประเทศขนาดกลางไปจนเล็ก อย่างไทย มาเลเซีย กัมพูชา ก็ต่างพึ่งพารายได้จากการท่องเที่ยวกันทั้งนั้น

หากเปรียบรายได้จากการท่องเที่ยวเป็นเสมือนพิซซ่าชิ้นกลม ๆ แล้ว พิซซ่าชิ้นใหญ่ที่สุดในวงกลมก็คงหนีไม่พ้นนักท่องเที่ยวจากจีน และเมื่อจีนมีการประกาศเปิดประเทศอีกครั้งในวันที่ 8 ม.ค.นี้

ธุรกิจทั่วโลกจึงตื่นเต้นและเตรียมพร้อมกับจำนวนนักท่องเที่ยวของจีนที่เคยอุ่นหนาฝาคั่ง เรียกได้ว่าไปเที่ยวที่ไหน จะมองไปทางใด ทั้งในไทยและต่างประเทศก็หนีไม่ได้พ้นที่จะได้ยินได้เห็นนักท่องเที่ยวจากจีนแผ่นดินใหญ่

แต่เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิดระลอกใหม่และแนวโน้มการติดเชื้อที่ค่อนข้างสูงในจีนจึงทำให้ทั่วโลกนั่นต่างมีมาตรการรองรับนักท่องเที่ยวจากจีน ความเข้มข้นมากน้อยก็ต่างกันไปตามประเทศต้นทาง อาทิ มาตรการคัดกรองรองรับนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว มีการตรวจโรคก่อนถึง มีประกันสุขภาพครอบคลุม

ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่หรือนอกเหนือมาตรฐานสาธารณสุข หรือเกินความคาดหมาย หรือเป็นการกีดกันคนจีนแต่อย่างใด แต่มาตรการเหล่านั้นทั้งมวลก็ทำไปเพื่อประชากรของประเทศนั้นซึ่งรัฐบาลแต่ละประเทศมีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง

ขณะที่รัฐบาลไทยยังไม่มีมาตรการที่ชัดเจนออกมาสำหรับการเดินทางมาของนักท่องเที่ยวชาวจีน จึงทำให้เกิดความวิตกในแนวทางรับนักท่องเที่ยวที่ยังไม่มีมาตรการใดใดมารองรับทั้งสิ้น รัฐบาลไทยไม่ควรจะลืมว่าหน้าที่หลักของรัฐบาลก็คือการปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของคนในประเทศ มิใช่แต่จะเอาใจหรืออำนวยความสะดวกประเทศมหาอำนาจเท่านั้น

มีหลายประเทศโดยเฉพาะประเทศที่โปรตะวันตกใช้มาตรการที่เข้มงวดมากในการยอมรับนักท่องเที่ยวจากจีน จนดูเหมือนเป็นการกีดกันคนจีนจนกระทั่งรัฐจีนออกมาแสดงความไม่พอใจ ซึ่งไทยก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องสุดโต่งไปนำนโยบายของเค้ามาใช้ แต่ไม่ใช่ไม่ทำ ไม่มีอะไรเลย

มีประมาณการออกมาว่า นักท่องเที่ยวชาวจีนระลอกแรกน่าจะเข้ามาประมาณ 3 แสนคนในช่วงต้นปี กล่าวคือ จะเข้ามาดั่งระลอกคลื่นที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในเดือน ม.ค. 60,000 คน เดือน ก.พ. 90,000 คน และเดือน มี.ค. 150,000 คน ซึ่งถือว่าไม่มากหากเปรียบเทียบสถิตินักท่องเที่ยวจีนที่เคยเข้าไทยก่อนช่วงโควิด แต่ก็มาพอหากจำนวนเหล่านั้นเข้ามาพร้อมกับเชื้อโควิดที่จะแพร่ให้ระบบสาธารณสุขของไทยต้องออกเหงื่ออีกรอบ

ผมเชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่ล้วนตั้งตารอและพร้อมยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนด้วยใจจริงเพราะวิกฤติ 3 ปีที่ผ่านมา ทำให้เห็นชัดแล้วว่า เราพึ่งพารายได้จากนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะจากนักท่องเที่ยวจีนมากเพียงใด และถ้าจำต้องเลือกเราก็จะเลือกยอมเสี่ยงนิดหน่อยเพื่อให้เกิดเม็ดเงินทางเศรษฐกิจ เพื่อให้ท้องอิ่มมากกว่าความปลอดโรค 100% แต่ไม่มีเงินในกระเป๋า

คนไทยทุกคนเพียงแค่คาดหวังว่ารัฐบาล น่าจะมีมาตรการคัดกรองอะไรที่เป็นมาตรฐาน ที่พอเหมาะพอควรไม่มากจนเกินไปจนทำให้นักท่องเที่ยวจีนรู้สึกว่าโดนรังแกโดนด้อยค่า เพื่อรับนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ

จึงเป็นหน้าที่ของสังคมที่จะต้องส่งเสียงให้รัฐทราบว่า เรายินดีต้อนรับคนจีน ภายใต้มาตรการคัดกรองที่เป็นธรรมและดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมาก