"เฟด" ขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ตามคาด รับ "ปรับขึ้นอีก" ถึงปีหน้า

"เฟด" ขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ตามคาด รับ "ปรับขึ้นอีก" ถึงปีหน้า

"เฟด" ประกาศขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.50% ตามคาด หลังปรับขึ้นแรง 0.75% ถึง 4 ครั้งติดต่อกัน พร้อมยอมรับอาจต้องขึ้นดอกเบี้ยต่อในปีหน้า แม้ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐเดือน พ.ย. "ผ่านจุดพีค"

คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (เอฟโอเอ็มซี) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเอกฉันท์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.50% สู่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมเมื่อวันพุธ (14 ธ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น หลังเข้าสู่ปี 2565 ด้วยอัตราดอกเบี้ย 0% โดยมุ่งเป้าไปที่การต่อสู้ภาวะเงินเฟ้อที่แตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี

อัตราดอกเบี้ยนโยบาย 4.25-4.50% ในปัจจุบัน นับเป็นระดับสูงที่สุดของสหรัฐตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2550 หรือในรอบ 15 ปี

อย่างไรก็ตาม เอฟโอเอ็มซี ยอมรับว่า อาจยังเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อไปในปีหน้า เพื่อบรรลุเป้าหมายต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อ

"คณะกรรมการฯ คาดว่า การปรับขึ้นดอกเบี้ยตามกรอบเป้าหมายที่ดำเนินอยู่ขณะนี้ น่าจะสมเหตุสมผลมากพอในการปราบเงินเฟ้อ" แถลงการณ์เอฟโอเอ็มซีระบุ และคาดการณ์ว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายในปีหน้าจะสูงกว่าที่คาดไว้ โดยหากอัตราดอกเบี้ยสูงที่สุด (Terminal Rate) แตะที่ 5.1% จะสามารถปราบเงินเฟ้อได้อย่างมีประสิทธิผล

ทั้งนี้ การประกาศขึ้นดอกเบี้ยครั้งนี้ของเฟดนับเป็นการปรับขึ้นครั้งที่ 5 ติดต่อกัน หลังจากปรับขึ้น 0.75% ถึง 4 ครั้งติดต่อกันในเดือน มิ.ย., ก.ค., ก.ย. และ พ.ย. และนับเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่ 7 ในช่วง 10 เดือนหลัง เพื่อต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐที่อยู่ในระดับสูงก่อนจะเริ่มผ่อนคลายลงในปัจจุบัน

เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ประจำเดือน พ.ย. โดยตัวเลข CPI ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 7.1% ในเดือน พ.ย. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 7.3% และเมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI ทั่วไปปรับตัวขึ้น 0.1% ในเดือน พ.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.3%

ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 6.0% ในเดือน พ.ย. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.1% และเมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือน พ.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.3%

ก่อนหน้านี้ นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในเดือน ธ.ค. ซึ่งเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายของปี 2565 โดยคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 4.25-4.50% ขณะที่นายพาวเวลส่งสัญญาณเมื่อเดือน พ.ย. ว่า เฟดจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค.

ขณะที่ในการประชุมรอบต้นปีหน้า FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 58.1% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.50-4.75% ในการประชุมวันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ. 2566 หลังจากที่ก่อนหน้านี้ให้น้ำหนักเพียง 35.1%