สตาร์ตอัปอาเซียนแห่ปลดพนักงาน เพราะมองตลาดหลังโควิดผิดพลาด

สตาร์ตอัปอาเซียนแห่ปลดพนักงาน เพราะมองตลาดหลังโควิดผิดพลาด

บริษัทสตาร์ตอัปด้านเทคโนโลยีในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หลายแห่งปลดพนักงานในปีนี้ เนื่องจากอุปสรรคในระดับเศรษฐกิจมหภาคก่อให้เกิดความสูญเสียหลายอย่าง นายทุนต่างผลักดันสตาร์ตอัปหาทางให้บริษัทเดินต่อไปได้

สัปดาห์ก่อน ‘คารูเซลล์’ (Carousell) แพลตฟอร์มซื้อขายสินค้ามือสองออนไลน์สิงคโปร์ ประกาศเตรียมปลดพนักงาน 10% จากพนักงานทั้งหมด หรือประมาณ 110 ตำแหน่ง

ในเดือนพ.ย. บริษัทโกทูกรุ๊ป เจ้าของธุรกิจส่งอาหารโกเจ็กและธุรกิจอีคอมเมิร์ซ  Tokopedia ของอินโดนีเซีย ได้ปลดพนักงาน 1,300 คนหรือประมาณ 12% ของพนักงานทั้งหมด เนื่องจากทั้งสองบริษัทเผชิญกับความท้าทายจากปัญหาเศรษฐกิจมหภาค ซึ่งตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับ ซีกรุ๊ป บริษัทแม่ช้อปปี้และธุรกิจอื่น ๆ ในอาเซียนที่ต้องปรับลดพนักงานลง โดยซีกรุ๊ปปลดพนักงานมากกว่า 7,000 คนแล้ว ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา

เจีย จิห์ ไช ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งเรนฟอเรสต์ กล่าวว่า “เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นสัญญาณว่าธุรกิจสตาร์ตอัปกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอย หากเราไม่รวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ความต้องการของลูกค้าอาจลดลงในปี 2566”

ด้านเควก ซิว หรุ่ย ซีอีโอคารูเซลล์ เผยว่า เขามองโลกในแง่ดีเกินไปเกี่ยวกับการฟื้นตัวหลังการแพร่ระบาดโควิด-19 “ความจริงก็คือว่า บริษัทเรารีบขยายธุรกิจและจ้างงานเพิ่ม แต่การคืนกำไรต้องใช้เวลานานกว่าที่เราคาดไว้” และเสริมว่า บริษัทมีมาตรการลดต้นทุนเมื่อหลายเดือนก่อน และผู้บริหารบริษัทจะตัดเงินเดือนตนเองด้วยความสมัครใจ

เควกจึงย้ำว่า ความรอบคอบเท่านั้น ที่จะนำพาให้ธุรกิจมีกำไรเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนว่าสถานการณ์ตลาดจะดีขึ้นหรือไม่

ด้านอเล็กซ์ กันโทรวิตซ์ นักข่าวซิลิคอนวัลเลย์จากบิ๊ก เทคโนโลยี แสดงความเห็นผ่านรายการ TechCheck ของซีเอ็นบีซีเมื่อวันจันทร์ (5 ธ.ค.) ว่า “ผมประหลาดใจที่บริษัทเหล่านั้นคาดการณ์ว่า พฤติกรรมผู้บริโภคช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 จะเปลี่ยนลูกค้าไปตลอดกาล”

ทางเจฟรีย์ โจ ผู้ร่วมก่อตั้งและหุ้นส่วนผู้จัดการกองทุนอัลฟาเจดับเบิลยูซีในอินโดนีเซีย กล่าวว่า “ก่อนหน้านี้บริษัทสตาร์ตอัปถูกออกแบบมาให้เติบโตอย่างรวดเร็ว ดังนั้น เมื่อองค์กรกำลังก้าวจากการเติบโตที่แข็งแกร่งไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน  ธุรกิจจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลง เช่น ไม่จำเป็นต้องจ้างพนักงานการตลาดมากเกินไป หากงบการตลาดถูกตัดออก”