‘แฮร์รี-เมแกน’ ได้เวลาแฉวัง

‘แฮร์รี-เมแกน’ ได้เวลาแฉวัง

ราชวงศ์อังกฤษพร้อมรับสารคดีซีรีส์หกตอน “แฮร์รีและเมแกน” เรื่องราวชีวิตเจ้าชายแฮร์รีและชายาเมแกน ที่แค่ตัวอย่างออกมาก็สร้างรอยร้าวกับเจ้าชายวิลเลียม พระเชษฐา

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงาน สารคดีที่จะออกอากาศในวันพฤหัสบดี (8 ธ.ค.) นี้ เปิดเผยเรื่องราวเบื้องหลังชีวิตเจ้าชายแฮร์รี วัย 38 ปีและเมแกน วัย 41 ปี กับสัมพันธ์ตึงเครียดกับราชวงศ์อังกฤษ ที่ทั้งคู่บอกให้ทราบว่า “เกิดอะไรขึ้นเบื้องหลัง” ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อแฉกันออกมาแล้วก็เสี่ยงสร้างความเสียหายให้กับทั้งราชวงศ์และตัวของเจ้าชายแฮร์รีและเมแกนเอง

ผลสำรวจความคิดเห็นชาวอังกฤษล่าสุด คู่ “เจ้าชายแฮร์รี-เมแกน” ได้รับความนิยมน้อยที่สุดในบรรดาสมาชิกราชวงศ์นอกเหนือจากเจ้าชายแอนดรูว์ผู้อื้อฉาว

เจ้าชายแฮร์รีกับพระเชษฐา เจ้าชายวิลเลียม พระชนมายุ 40 พรรษา เคยสนิทสนมกันมากและผูกพันกันหลังจากเจ้าหญิงไดอานา พระมารดา สิ้นพระชนม์ สร้างความโศกเศร้าให้กับทั้งคู่ แต่ทั้งคู่ต้องมาขัดแย้งกันเมื่อเจ้าชายแฮร์รีและเมแกน หรือดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ ทิ้งชีวิตราชวงศ์ชั้นสูงย้ายไปอยู่แคลิฟอร์เนียในปี 2563

สองสามีภรรยาโอดครวญถึงชีวิตในรั้วในวังที่เข้มงวด มีแม้กระทั่งการเหยียดผิวในครอบครัว ข้อกล่าวหานี้กลายเป็นข่าวหน้าหนึ่งทั่วโลก

ตัวอย่างตอนหนึ่งของสารคดีมีฉากที่เมแกนดูโศกเศร้าขณะที่เจ้าชายแฮร์รีแหงนศีรษะไปข้างหลังอย่างสิ้นหวัง

“ผมต้องทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อปกป้องครอบครัวของผม ไม่มีใครเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเบื้องหลัง” เสียงเจ้าชายกล่าว

ตัวอย่างชิ้นที่ 2 เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ (5 ธ.ค.) เจนนี อาฟิยา ทนายความของเมแกนอ้างว่า ระหว่างที่เธออยู่ในอังกฤษ “มีสงครามต่อต้านเมแกนเพื่อให้เป็นไปตามความต้องการของคนอื่น”

กลัวประวัติศาสตร์ซ้ำรอย

เจ้าหญิงไดอานาสิ้นพระชนม์ในอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่กรุงปารีสเมื่อปี 1997 ขณะพยายามหนีช่างภาพปาปารัสซี

“ผมกลัวมาก ไม่อยากให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย” เจ้าชายแฮร์รีกล่าวในตัวอย่างตอนล่าสุด อ้างถึงการที่พระมารดาถูกรังควาน

“ฉันตระหนักแล้วว่า พวกเขา (พระราชวังบักกิงแฮม) ไม่เคยปกป้องคุณ” เสียงเมแกนกล่าวเสริม พร้อมภาพเธอมองไปข้างหลังกลัวว่ามีใครสะกดรอย

สำนักพระราชวังบักกิงแฮมไม่ให้ความเห็นกับสำนักข่าวเอเอฟพี สื่ออังกฤษวิจารณ์ตัวอย่างแรกที่ปล่อยออกมา สื่อหลายสำนักกล่าวว่า เป็นความพยายามอย่างโจ่งแจ้งต้องการขโมยซีน เจ้าชายวิลเลียม รัชทายาท ขณะพระองค์เสด็จเยือนสหรัฐ ถือเป็นการ “ประกาศสงคราม” กันเต็มๆ

หนังสือพิมพ์เดอะเมลออนซันเดย์ ฉบับสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา รายงานว่า กษัตริย์ชาร์ลสและราชินีคามิลลา “ไม่ทรงกังวลแต่ทรงเหนื่อยหน่าย” กับกระแสวิพากษ์วิจารณ์

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวอื่นๆ ระบุ พวกเขาเชื่อว่า ซีรีส์นี้จะ “แย่ยิ่งกว่าที่ราชวงศ์จินตนาการ” และสัมพันธ์ที่ตึงเครียดอยู่แล้วอาจถึงขั้นแตกหัก

“ได้ยินมาว่าจะเป็นระเบิดรุนแรงเลยล่ะ” แหล่งข่าวไม่เปิดเผยชื่อรายหนึ่งกล่าวกับเดลิมิเรอร์

ประชาชนไม่ปลื้ม

สารคดีชุดนี้ออกอากาศหลังสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 พระอัยยิกาเจ้าชายแฮร์รี สวรรคตได้สามเดือนพอดิบพอดี และหนึ่งเดือนก่อนหน้าหนังสือ “ตัวสำรอง” (Spare) บันทึกความทรงจำเจ้าชายแฮร์รีที่รอคอยกันมานานจะวางแผง

แม้จะแปลกแยกจากราชวงศ์แต่เจ้าชายแฮร์รีและเมแกนได้เข้าร่วมรัฐพิธีบรมศพควีนเอลิซาเบธในเดือน ก.ย.

ณ จุดหนึ่งได้เห็นเจ้าชายวิลเลียมและชายาเคทยื่นช่อมะกอกให้ด้วยการตรัสเชิญเจ้าชายแฮร์รีและเมแกนมาร่วมกับทั้งสองพระองค์ชมดอกไม้ที่ประชาชนวางไว้อาลัยควีนผู้ล่วงลับแต่เห็นได้ชัดว่าสองคู่รักเย็นชาต่อกัน ความหวังเริ่มสานสัมพันธ์พังทลายลงไปอีกเมื่อสองพี่น้องคู่อริไม่แม้แต่จะสบตากันในงานพระบรมศพ

ผลสำรวจยูกัฟโพลเมื่อเดือนก่อนชี้ว่า เจ้าชายวิลเลียมและชายาแคเธอรีน หรือที่รู้จักกันในนามเจ้าชายและเจ้าหญิงแห่งเวลส์ ขณะนี้เป็นพระบรมวงศานุวงศ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ผู้ให้ข้อมูล 81% ชื่นชมเจ้าชายวิลเลียม 75% ชื่นชมเจ้าหญิงแคเธอรีนมีเพียง 39% เท่านั้นที่ชอบเจ้าชายแฮร์รี ส่วนที่ชอบเมแกนมี 28% มีเพียงเจ้าชายแอนดรูว์พระองค์เดียวที่คนไม่ชอบ

‘แฮร์รี-เมแกน’ ได้เวลาแฉวัง

แท็บลอยด์ “เดอะซัน” วิจารณ์เจ้าชายแฮร์รีและเมแกนว่า เป็นคู่ที่หมกหมุ่นอยู่กับการสมเพชตัวเอง ในช่วงเวลาที่เกิดสงครามในยูเครนและวิกฤติค่าครองชีพในสหราชอาณาจักร

“ผัวเมียซัสเซกซ์” ดูหมิ่นราชวงศ์ แต่ยังใช้บรรดาศักดิ์" รายงานข่าวระบุพร้อมแนะนำให้เรียกคืนฐานันดรศักดิ์จากทั้งคู่ไปเลย