ยูเอ็นเผยเมียนมาประหารชีวิต 7 นักศึกษา

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน นายโวลเกอร์ เติร์ก ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ แถลงว่า นักศึกษาชายอย่างน้อย 7 คน ถูกศาลทหารเมียนมาพิพากษาลับให้ประหารชีวิตเมื่อวันพุธ (30 พ.ย.)

“การใช้โทษประหารเป็นเครื่องมือบดขยี้ฝ่ายต่อต้าน กองทัพยืนยันว่าพวกเขาดูหมิ่นความพยายามของอาเซียนและประชาคมโลกที่ต้องการยุติความรุนแรง และให้สร้างเงื่อนไขเพื่อการสนทนาทางการเมือง นำเมียนมาออกจากวิกฤติสิทธิมนุษยชนที่กองทัพสร้างขึ้น” แถลงการณ์ข้าหลวงใหญ่ระบุ

สื่อเมียนมารายงานว่า นักศึกษามหาวิทยาลัยในย่างกุ้งถูกจับกุมในเดือน เม.ย. และถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการยิงธนาคาร

สหภาพนักศึกษามหาวิทยาลัยดากอน ออกแถลงการณ์ “การใช้โทษประหารชีวิตนักศึกษาเป็นการแก้แค้นของกองทัพ”

นอกจากนี้สหประชาชาติยังสอบสวนรายงานนักกิจกรรมรุ่นใหม่อีก 4 คน ถูกประหารชีวิตเมื่อวันพฤหัสบดี (1 ธ.ค.)

“กองทัพยังคงใช้กระบวนการศาลลับอย่างต่อเนื่อง ฝ่าฝืนหลักการพื้นฐานว่าด้วยการดำเนินคดีอย่างเป็นธรรม ขัดกับหลักการรับรองความเป็นอิสระและเป็นกลางในการพิจารณาคดี” นายเติร์กกล่าวและว่าการพิจารณาคดีลับแบบนี้บางครั้งใช้เวลาแค่ไม่กี่นาที บ่อยครั้งที่ผู้ถูกควบคุมตัวไม่มีทนายหรือได้พบครอบครัว

ชาวเน็ตเมียนมาพากันระบายอารมณ์ผ่านเฟซบุ๊คและทวิตเตอร์ ต่อต้านการประหารชีวิตด้วยการติดแฮชแท็ก เช่น “หยุดประหารนักศึกษาของเรา”“StopExecuteOurStudents”

ก่อนหน้านี้ในเดือน ก.ค. เมียนมาประหารชีวิต 4 นักโทษรวมถึงพโย เซยา ต่ออดีต ส.ส. และจ่อ มิน กู นักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยที่รู้จักกันในนาม จิมมี ถือเป็นโทษประหารครั้งแรกของเมียนมาในราว 30 ปี เรียกเสียงประณามจากทั่วโลก

สมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) หัวหอกความพยายามฟื้นฟูสันติภาพในเมียนมาที่ถึงบัดนี้ก็ยังไม่ได้ผล เคยเตือนเมื่อเดือน ส.ค.ไม่ให้เมียนมาลงโทษประหารอีก

ข้อมูลจากกลุ่มจับตาสถานการณ์ในพื้นที่ระบุ ผลจากรัฐบาลเมียนมาปราบปรามผู้เห็นต่าง พลเรือนเสียชีวิตไปแล้วเกือบ 2,280 คน ยังถูกจับกุมอีก 11,637 คน