อียูยกเลิกประชุมถกเพดานราคาน้ำมันรัสเซีย หลังสมาชิกมองต่างมุม

อียูยกเลิกประชุมถกเพดานราคาน้ำมันรัสเซีย หลังสมาชิกมองต่างมุม

แหล่งข่าวจากนักการทูตของสหภาพยุโรป (อียู) เปิดเผยว่าอียู ตัดสินใจยกเลิกการประชุมในวันศุกร์(25พ.ย.) ซึ่งเดิมมีกำหนดจัดขึ้นเพื่อหาฉันทามติเกี่ยวกับการกำหนดเพดานราคาน้ำมันรัสเซีย

นักการทูตรายหนึ่งระบุว่า การประชุมได้ถูกยกเลิก เนื่องจากสมาชิกอียูยังคงมีความเห็นที่แตกต่างกันอย่างมากเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว

ทั้งนี้ มาตรการกำหนดเพดานราคาน้ำมันรัสเซียมีวัตถุประสงค์เพื่อทำให้รัสเซียมีรายได้ลดลงจากการจำหน่ายน้ำมันที่จะนำไปสนับสนุนการทำสงครามในยูเครน แต่ก็จะต้องไม่ส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันในตลาดโลกจนทำให้เกิดภาวะขาดแคลน

กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำทั้ง 7 หรือ G7 เสนอให้มีการกำหนดเพดานราคาน้ำมันรัสเซียในกรอบ 65-70 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งสมาชิกส่วนใหญ่ของอียูเห็นพ้องกับข้อเสนอดังกล่าว

แต่โปแลนด์ เอสโทเนีย และลิธัวเนีย ต่างก็มองว่ากรอบดังกล่าวอยู่ในระดับสูงเกินไป โดยโปแลนด์ต้องการกำหนดราคาที่ระดับ 30 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยระบุว่ากรอบ 65-70 ดอลลาร์/บาร์เรลเอื้อประโยชน์ต่อรัสเซียมากเกินไป เนื่องจากมีต้นทุนการผลิตเพียง 20 ดอลลาร์/บาร์เรล และให้มีการนำประเด็นการกำหนดเพดานราคาน้ำมันรัสเซียพ่วงเข้ากับมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่

ส่วนไซปรัส กรีซ และมอลตามองว่ากรอบ 65-70 ดอลลาร์/บาร์เรลอยู่ในระดับต่ำเกินไป และต้องการให้มีการจ่ายเงินชดเชยภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการกำหนดเพดานราคาน้ำมันดังกล่าว รวมทั้งขอให้มีการกำหนดระยะเวลาผ่อนผันสำหรับการปรับตัวรองรับมาตรการดังกล่าว

G7 รวมทั้งอียูและออสเตรเลียมีกำหนดบังคับใช้เพดานราคาน้ำมันรัสเซียในวันที่ 5 ธ.ค. โดยจะมีผลบังคับใช้ต่อน้ำมันรัสเซียที่มีการขนส่งผ่านทางเรือบรรทุกน้ำมัน แต่ไม่รวมน้ำมันที่มีการขนส่งผ่านท่อส่งน้ำมัน

 

การกำหนดเพดานราคาน้ำมันดังกล่าวถือเป็นมาตรการลงโทษต่อการที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครนในวันที่ 24 ก.พ. ซึ่งเมื่อมีการประกาศใช้จะทำให้บริษัทเดินเรือ บริษัทประกันวินาศภัย และบริษัทประกันภัยต่อ ไม่สามารถให้บริการใดๆที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งคาร์โกน้ำมันรัสเซียที่มีราคาสูงกว่าเพดานที่ G7 และพันธมิตรกำหนดไว้